Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียง หนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหากังวลใจของคนที่มีเหนียงร่วมกับกรอบหน้าไม่ชัด หน้าดูใหญ่จนไม่มั่นใจ ไม่กล้าถ่ายรูป ในบทความนี้ Vincent Clinic Aesthetic จะพามารู้จักกับการทำ Ultraformer MPT ในบริเวณกรอบหน้ากับเหนียงว่าดีไหม สามารถช่วยลดและยกกระชับผิวได้จริงไหม ทำได้อย่างไร รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่หลายคนอยากรู้ได้รวบรวมมาไว้ให้แล้วค่ะ
Key Takeaways
- Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียง คือเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียง MMFU ที่สามารถลงลึกถึงชั้น SMAS และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ช่วยกระชับผิวและลดไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัด
- Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียง เหมาะสำหรับผู้ที่มีกรอบหน้าไม่ชัด เหนียงหย่อนคล้อย หรือมีไขมันสะสมใต้คาง และต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- หัว 6.0 mm ของ Ultraformer MPT ใช้เฉพาะจุดสำหรับลดเหนียงและยกกระชับกรอบหน้า พร้อมการยิงพลังงานแบบละเอียด และลงลึกอย่างมีประสิทธิภาพ
- ผลลัพธ์ของการทำ Ultraformer MPT ที่เห็นได้ชัดคือ กรอบหน้าคมขึ้น เหนียงลดลง และใบหน้าดูเรียวกระชับขึ้น โดยไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
- จำนวนช็อตการทำ Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียงโดยเฉลี่ย 300-600 ช็อต ขึ้นกับสภาพผิวและไขมันของแต่ละบุคคล แพทย์จะประเมินให้เหมาะสมเฉพาะราย
- ผลลัพธ์ของ Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียง อยู่ได้ประมาณ 6-9 เดือน แนะนำทำทุก 6 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์
- ขณะทำ Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียง จะมีความรู้สึกไม่เจ็บมากเพราะมีเทคโนโลยี Micro Pulse Mode และมีการทายาชาก่อนทำ
- ควรดูแลตัวเองหลังทำ Ultraformer MPT โดยดื่มน้ำ พักผ่อน ทาครีมกันแดด และหลีกเลี่ยงความร้อนหรือการนวดในช่วง 3-5 วัน
Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียงคืออะไร?
Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียง คือ เทคโนโลยีการยกกระชับผิวที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์แบบ Micro & Macro Focused Ultrasound (MMFU) รุ่นล่าสุด โดยทำงานผ่านการปล่อยพลังงานเสียงลงลึกถึงชั้นผิว SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งมีความสามารถในการยกกระชับผิว ลดไขมันเหนียง และช่วยให้กรอบหน้าชัดเจนขึ้น โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัดหรือการพักฟื้นหลังการทำหัตถการ
โดยเครื่อง Ultraformer MPT สามารถลงลึกได้หลายระดับ โดยจะขึ้นอยู่กับหัวที่เลือกใช้ มีตั้งแต่หัว 1.5 – 13 mm โดยแต่ละหัวมีความแตกต่างดังนี้
- หัว 1.5 mm: ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา เช่น ริ้วรอยหางตา หรือมุมปาก รวมถึงยกคิ้ว
- หัว 3.0 mm: ยกกระชับผิวชั้นนอกและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- หัว 4.0 mm: ลงลึกถึงชั้น SMAS แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว
- หัว 6.0 mm: เหมาะสำหรับการสลายไขมันและลดเหนียง
- หัว 9 mm และ 13 mm: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดไขมัน และกระชับสัดส่วนในพื้นที่ที่ทำ
ซึ่งหัวที่เหมาะกับการนำมากระชับกรอบหน้า ลดความหย่อนคล้อยของเหนียงที่สุด คือหัว 6.0 mm ที่สามารถลงลึกสลายไขมันได้ดี
ข้อดีของการทำ Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียง
การทำ Ultraformer MPT สำหรับยกกระชับกรอบหน้าและเหนียงเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยม ด้วยเทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่ส่งพลังงานไปยังชั้นผิวลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งการทำ Ultraformer MPT มีข้อดีหลายข้อ ดังนี้
- ยกกระชับกรามให้คมชัดขึ้น ด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวจะช่วยยกกระชับผิวในแนวกรามให้ดูคมชัดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้กรอบหน้าชัดเจนขึ้น
- ลดเหนียงและไขมันใต้คาง สามารถสลายไขมันลดความใหญ่เหนียง กระชับเหนียงทำให้กรอบหน้าดูกระชับมากขึ้น
- ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวกระชับ หลังจากที่กรอบหน้า และเหนียงถูกยกกระชับ จะทำให้รูปหน้าโดยรวมดูเรียวกระชับมากขึ้น
- ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น เนื่องจากเป็นการรักษาด้วยเทคโนโลยีคลื่นเสียงที่ไม่ต้องทำการผ่าตัด ดังนั้นจึงไม่มีแผลหรือรอยแผลเป็นเกิดขึ้น หลังจากทำการรักษาแล้ว
- พลังงานมีความละเอียด ในการปล่อยพลังงานได้มากถึง 417 dots ต่อหนึ่งช็อต ทำให้สามารถส่งพลังงานให้ลงลึกถึงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความละเอียดสูง
- ยิงพลังงานได้เร็ว มีความเร็วในการยิงพลังงานที่เร็วกว่าเครื่องรุ่นอื่นถึง 2.5 เท่า ทำให้สามารถทำการรักษารวดเร็วพลังงานความร้อนที่ละเอียดและหนาแน่นกว่ารุ่นอื่นถึง 25 เท่า
- ปล่อยพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ที่เป็นชั้นผิวที่อยู่ในระดับเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ทำให้มีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวและลดความหย่อนคล้อยของผิวได้อย่างแท้จริง
- เจ็บน้อย เทคโนโลยี Micro Pulse Mode ช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการรักษาได้ โดยพลังงานจะมีความนุ่มนวลและเจ็บน้อยกว่าการทำในวิธีอื่น ๆ
Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียงช่วยอะไรหลังทำ
การทำ Ultraformer MPT สำหรับกรอบหน้าและเหนียงเป็นหนึ่งในเทคโนโลยี ยกกระชับผิว ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่สามารถกระตุ้นการกระชับผิวและลดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้เข็ม การทำ Ultraformer MPT จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนในหลายด้าน ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
- กรอบหน้าและแนวกรามคมชัดขึ้น ผิวที่เคยหย่อนคล้อยหรือไม่กระชับ กลับมาเต่งตึงและชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้หน้าดูมีมิติและรูปหน้าชัดเจนขึ้น
- เหนียงและคางสองชั้นดูลดลง ไขมันที่สะสมบริเวณเหนียงและใต้คางลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด การยิงพลังงานคลื่นเสียงที่ลงลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิวจะช่วยสลายไขมันและกระชับผิว
- ผิวบริเวณแก้มล่างแน่นกระชับขึ้น แก้มล่างที่มักเกิดความหย่อนคล้อยเมื่ออายุมากขึ้น ถูกยกกระชับผิวให้ตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- รูปหน้าโดยรวมดูเรียวได้สัดส่วนยิ่งขึ้น การกระชับผิวในจุดต่างๆ เช่น กรอบหน้า แก้มล่าง เหนียง ทำให้รูปหน้าดูสมดุลและมีมิติ
ตำแหน่งยอดนิยมที่ทำ Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียง
การทำ Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียงให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจนจะมีตำแหน่งที่ควรทำอยู่ โดยตำแหน่งที่ทำแล้วเห็นผล เป็นที่นิยมมีดังนี้
- แนวกรามสองข้าง หนึ่งในตำแหน่งที่ได้รับความนิยมมักเป็นจุดที่ผู้คนมีปัญหาเรื่องผิวหย่อนคล้อยและขาดความกระชับ
- คางและเหนียงใต้คาง เป็นบริเวณที่มักมีการสะสมของไขมันส่วนเกิน เมื่อทำจะช่วยลดไขมันเหนียงและกระชับผิวใต้คาง
- แก้มช่วงล่างที่หย่อนคล้อย มักจะเกิดการหย่อนคล้อยเมื่ออายุมากขึ้น หลังทำจะช่วยกระชับผิวที่เริ่มหย่อนคล้อยให้กลับมาตึงและเรียบเนียน ก
ขั้นตอนการทำ Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียง
การทำ Ultraformer MPT สำหรับกรอบหน้าและเหนียงเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมเนื่องจากสามารถปรับรูปร่างหน้าให้กระชับและเรียวได้โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด ขั้นตอนการทำจะเริ่มตั้งแต่การปรึกษาแพทย์ไปจนถึงการทำหัตถการและการดูแลหลังทำ ดังนี้:
- ปรึกษาแพทย์ ก่อนที่จะเริ่มการทำ Ultraformer MPT ควรปรึกษาแพทย์ให้ประเมินแนวกรามและเหนียง เพื่อให้มั่นใจว่าแพทย์จะวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับลักษณะผิวของแต่ละบุคคล
- ทายาชา ก่อนทำจะมีการทายาชาบริเวณกรอบหน้าและคาง ซึ่งจะช่วยให้บริเวณที่ทำหัตถการไม่มีความเจ็บปวด โดยจะใช้เวลารอประมาณ 30–45 นาทีเพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์
- ยิงลงชั้นผิว ใช้พลังงานอัลตราซาวด์ที่มีความถี่สูงลงสู่ชั้นผิวหลายระดับ โดยจะเลือกใช้หัวยิง 6.0 mm ส่งพลังงานลงไป ซึ่งจะใช้เวลาไม่นานประมาณ 30 – 45 นาที
หลังจากที่ทำเสร็จแล้วก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ หรือคอยดูแลแผลเนื่องจากไม่มีแผลหลังทำ แต่อาจจะต้องดูแลหลังทำเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการ
Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียงต้องทำกี่ช็อต?
สำหรับกรอบหน้าและเหนียงจะใช้จำนวนช็อตประมาณ 300–600 ช็อต ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความหย่อนคล้อยของผิว ปริมาณไขมันสะสมในบริเวณเหนียงและคาง รวมถึงโครงหน้าของแต่ละคน แพทย์จะทำการประเมินและวิเคราะห์ลักษณะปัญหาของผิวหน้าในแต่ละบุคคล จากนั้นจะกำหนดจำนวนช็อตที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตามความต้องการและลักษณะเฉพาะของผู้รับการรักษา
การทำ Ultraformer MPT ในแต่ละช็อตจะช่วยส่งพลังงานอัลตราซาวด์ลงลึกถึงชั้นผิวต่างๆ ที่จำเป็นต้องการยกกระชับหรือสลายไขมัน โดยที่จำนวนช็อตจะสัมพันธ์กับขนาดของพื้นที่ที่ทำการรักษาและความลึกที่ต้องการการกระตุ้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและตรงตามความต้องการของผู้รับบริการ
Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียง ช่วยลดไขมันได้ยังไง?
Ultraformer MPT มีวิธีการทำงานที่ส่งคลื่นพลังงานลงไปในชั้นผิว ทำให้กรอบหน้า และเหนียงกลับมากระชับ ผิวดูอ่อนเยาว์มากอื่น โดย Ultraformer MPT จะส่งคลื่นพลังงานลงไปในชั้นผิวต่างๆ ซึ่งสามารถลงไปถึงชั้น SMAS และชั้นไขมันทำให้สลายไปพร้อมๆ กับการยกกระชับผิวได้ ช่วยแก้ไขปัญหาเหนียง หรือไขมันช่วงกรอบหน้าให้หายไปโดยไม่ต้องผ่าตัด
ใครเหมาะกับการทำ Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียง?
Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวและกระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยจะข้อยกตัวอย่างคนที่เหมาะกับการหัตถการนี้ เช่น
- ผู้ที่มีเหนียงใต้คาง หรือไขมันสะสมเล็กน้อย–ปานกลางบริเวณกรอบหน้า
- ผู้ที่กรอบหน้าเริ่มเบลอ ไม่คมชัด กรอบหน้าหย่อนคล้อย
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นโดยไม่ผ่าตัด
- ผู้ที่ต้องการลดไขมันและยกกระชับผิวไปพร้อมกัน
ดูแลตัวเองหลังทำ Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียง
หลังจากการทำ Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเองเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้มีประสิทธิภาพสูงสุดและผิวฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว โดยการดูแลตัวเองหลังทำมีดังนี้
- ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้ผิวได้ฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น คอลลาเจนสร้างได้อย่างเต็มที่
- หลีกเลี่ยงการกดหรือนวดบริเวณกรอบหน้าและคาง หลังจากทำในช่วง 3–5 วัน ควรหลีกเลี่ยงการกดหรือนวดเพราะอาจระคายเคือง และรบกวนกระบวนการกระตุ้นคอลลาเจน
- ทาครีมบำรุง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำ ผิวไม่แห้งกร้าน จะช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้ดีขึ้น
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อป้องกันแสงแดดทำลายคอลลาเจนในผิว และสร้างคอลลาเจนได้ไม่เต็มที่
- งดทำเลเซอร์ 2 สัปดาห์หลังทำ ควรงดการเลเซอร์ หรือหัตถการที่ส่งความร้อนเข้าสู่ผิว เพราะอาจทำให้ผิวระบมเพิ่มมากขึ้นได้
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียง
Q: Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียงเจ็บไหม?
A: รู้สึกอุ่นๆ ที่ผิวเล็กน้อย แต่ก่อนทำมีการแปะยาชาเพื่อป้องการความรู้สึกเจ็บขณะทำ
Q: ต้องทำ Ultraformer MPT กรอบหน้า และเหนียงกี่ครั้งถึงเห็นผล?
A: ทำเพียงแค่ 1 ครั้งก็เห็น แต่เพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจน และคงผลลัพธ์ที่ดีเอาไวแนะนำให้ทำซ้ำทุกๆ 6 เดือน
Q: หลังทำ Ultraformer MPT กรอบหน้าแดงหรือบวมไหม?
A: อาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อย แต่ไม่รุนแรง อาการจะค่อยๆ หายเองหลังทำประมาณ 1 – 2 วัน
Q: Ultraformer MPT ลดเหนียง กระชับกรอบหน้าได้จริงไหม?
A: ได้จริง โดยจะช่วยสลายไขมันบางส่วน และยกกระชับช่วงกรอบหน้า แนวกรามที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้น
Q: หลังทำ Ultraformer MPT กรอบหน้า และเหนียงผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
A: สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 – 9 เดือน แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และการดูแลหลังทำด้วย
สรุป
Ultraformer MPT กรอบหน้าและเหนียงสามารถช่วยยกกระชับผิวหน้าให้ตึงกระชับ หน้าเรียวสวยขึ้นได้ โดยทำได้ทั้งการสลายไขมันในชั้นผิว และยกกระชับผิวพร้อมกันภายในการทำครั้งเดียวจากการที่พลังงาน MMFU ส่งลงไปในชั้นผิว ซึ่งเป็นวิธีที่เห็นผลว่ากรอบหน้าเรียว เหนียงลดลงโดยไม่ต้องผ่าตัดพักฟื้น หากต้องการทำ Ultraformer MPT บริเวณเหนียง และกรอบหน้า สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ให้คำแนะนำกับคนไข้อย่างตรงจุดได้ที่ Vincent Clinic Aesthetic ค่ะ