Sculptra ยกกระชับและฟื้นฟูผิว กี่ครั้งเห็นผล ดีกว่าวิธีอื่นไหม?
Sculptra นวัตกรรมยกกระชับและฟื้นฟูผิวจากความความหย่อนคล้อยซึ่งเกิดขึ้นจากความเสื่อมสภาพของผิวที่ถูกทำร้าย ไม่ว่าจะเป็นจาก มลภาวะ การดูแลตัวเองไม่เพียงพอ รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เหล่านี้ล้วนส่งผลเสียกับผิวได้อย่างรุนแรง การหาตัวช่วยเข้ามาจัดการปัญหาผิวจึงเป็นทางเลือกที่ดีเพราะใช้เวลาในการรักษาน้อย เห็นผลเร็ว ไม่เจ็บ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ Sculptra ทางเลือกใหม่เพื่อคนอยากดูแลผิวและยกกระชับจากภายใน
Sculptra คืออะไร?
Sculptra คือหนึ่งในนวัตกรรมดูแลผิวด้วย PLLA หรือ Poly -L-Lactic เป็นสารที่อยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulator ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างเส้นใขคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิวให้แน่นขึ้น ส่งผลให้ใบหน้ายกกระชับ ผิวอิ่มฟูแน่นขึ้น สุขภาพดี โดยไม่ต้องผ่าตัด โดยตัวยาสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ผ่านการรับรองมาตรฐานและคุณภาพจาก US. FDA และ อย. ไทย จึงสามารถมั่นใจในเรื่องของผลลัพธ์ที่ดีหลังทำและมีความปลอดภัยสูง
Sculptra ช่วยอะไรได้บ้าง?
- ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน ยกกระชับแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย คืนผิวแข็งแรงสุขภาพดีให้กลับมา
- ผิวเรียบเนียนเต่งตึง แน่นขึ้น ผิวอิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอย
- ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยเรื่องของความกระจ่างใส ใบหน้าดูเด็กลง
Sculptra เหมาะกับใครบ้าง?
- คนที่ผิวมีปัญหาความหย่อนคล้อย ผิวขาดคอลลาเจน ไม่มีความยิดหยุ่น
- คนที่ผิวมีปัญหาริ้วรอย ผิวไม่เรียบเนียน
- คนที่ผิวขาดการดูแลเป็นเวลานาน ๆ ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน
- คนที่ต้องการยกกระชับผิว
Sculptra ฉีดตรงไหนได้บ้าง?
Sculptra เป็นนวัตกรรมเพื่อยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว จึงสามารถฉีดได้หลายตำแหน่งทั่วใบหน้าเพื่อเป็นการปรับรูปหน้าแบบองค์รวมให้เกิดความสมดุล เช่น ขมับ หน้าแก้ม กรอบหน้า เป็นต้น โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละรายบุคคลมากที่สุด
Sculptra ต่างจากวิธีอื่น ๆ อย่างไร ?
การฉีด Sculptra นั้นเมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลตัวเองด้วยการฉีดรูปแบบอื่นมีความแตกต่างกันออกไปทั้งเรื่องของผลลัพธ์และส่วนผสม โดยมีรายละเอียดดังนี้
Sculptra กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร ?
ฉีด Sculptra กับ ฟิลเลอร์ มีความแตกต่างกัน เพราะฟิลเลอร์คือการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ช่วยให้บริเวณที่เกิดการยุบตัวอิ่มฟูเต็มขึ้น มีคุณสมบัติอิ่มน้ำ จึงช่วยผิวชุม่ชื้นขึ้น ผิวหน้าเต่งตึงเรียบเนียน เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ทันทีหลังทำ (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) เหมาะกับคนที่ต้องการเติมเต็มผิวให้มีโวลลุ่ม สามารถช่วยปรับโครงหน้าได้ ทั้งยังเหมาะกับคนที่เกิดปัญหากระดูกทรุดตัวจนเกิดเป็นปัญหาความลึกโบ๋ หน้าโทรม ช่วยเติมเต็มเฉพาะจุด ในส่วนของ Sculptra ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้โครงสร้างผิวแข็งแรงจากภายใน ผิวยืดหยุ่น เรียบเนียน ต้องใช้ระยะเวลาถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
Sculptra กับ เมโสหน้าใส แตกต่างกันอย่างไร?
Sculptra ต่างกับ เมโสหน้าใส ตรงที่การฉีดเมโสเป็นวิธีเติมวิตามิน แร่ธาตุ สารสกัดที่มีประโยชน์เข้าสู่ชั้นผิวด้วยการฉีด ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากภายในให้กลับมาแข็งแรงสุขภาพดี ช่วยลดสิว ลดผื่น ลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ ให้ดูจางลงได้ ในส่วนของ Sculptra ช่วยให้ผิวอิ่มฟู ยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
Sculptra กับ Rejuran ต่างกันอย่างไร?
ความแตกต่างของ Sculptra และ Rejuran ตรงที่รีจูรันเป็นสารสกัดจากปลาแซลมอน เมื่อฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิวแล้วจะช่วยกระตุ้นการแบ่งตัวของ Fibroblast จึงทำให้คอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น เสริมความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว รูขุมขนเล็กลง ผิวกระจ่างใส ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ให้จางลง ช่วยให้ผิวเรียบเนียนอิ่มฟูขึ้น ในส่วนของ Sculptra เป็นสารสกัดจากพืช เน้นไปในเรื่องของการกระตุ้นคอลลาเจน โอกาสการแพ้ต่ำ ไม่เกิดการตกค้างในร่างกาย ช่วยยกกระชับ ผิวอิ่มฟู ลดริ้วรอยร่องลึกให้ตื้นขึ้น
Sculptra กับ Juvelook แตกต่างกันอย่างไร?
Sculptra และ Juvelook มีความแตกต่างกันตรงที่ Juvelook เป็น Hybrid Biostimulator ที่ประกอบไปด้วย 2 ส่วนด้วยกัน คือ PDLLA ไบโอพอลิเมอร์ธรรมชาติ ซึ่งอยู่ในกลุ่มของ Collagen Biostimulator อีกส่วนผสมคือ Non – crosslinked Hyaluronic Acid ยึดเกาะผิวได้ดี ช่วยเติมน้ำให้ผิว ฉ่ำวาว กระจ่างใส กระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ลดเลือนรอยแตกลาย หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวอิ่มฟูแน่นขึ้น ในส่วนของ sculptra จะเน้นไปในเรื่องของการยกกระชับ แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ดีกว่า
Sculptra อันตรายไหม?
Sculptra ไม่อันตราย เพราะฉีดโดยแพทย์มากประสบการณ์และใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ ผ่านการรับรองมาตรฐานและคุณภาพจาก US. FDA และ อย. ไทย จึงมั่นใจในเรื่องของผลลัพธ์หลังฉีดที่ออกมาดีและมีความปลอดภัย
หลังฉีด Sculptra ต้องดูแลตัวเองอย่างไร?
-
- ภายใน 24 ชั่วโมงหลังฉีด หากเกิดอาการบวมช้ำ รอยแดง ขึ้นบนผิวสามารถใช้วิธีประคบเย็นเข้าช่วยได้
- งดการทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือโดนแดดแรง ๆ หลังทำประมาณ 1 – 3 วัน
- 24 ชั่วโมงแรกหลังทำ งดอบไอน้ำ เข้าซาวน่า หรือทำกิจกรรมที่ต้องเจอความร้อน
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อวันและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ขั้นตอนที่ 1 ใช้นิ้วโป้งนวดบริเวณขมับ 2 ข้าง พร้อมทั้งใช้กำปั้นนวดอย่างเบามือ เลื่อนจากบริเวณหน้าผากออกด้านข้างไปถึงบริเวณขมับ
- ขั้นตอนที่ 2 ยกนิ้วโป้งขึ้นแนบแก้ม 2 ข้าง แล้วค่อย ๆ นวดจากหน้าแก้มออกไปด้านข้างแก้มพร้อมกันโดยเลื่อนออกอย่างช้า ๆ
- ขั้นตอนที่ 3 ใช้อุ้งมื้อกดเบา ๆ บริเวณข้างแก้ม แล้วค่อย ๆ นวดจากด้านล่างขึ้นไปด้านบนถึงโหนกแก้ม ทำวนซ้ำไปหลาย ๆ ครั้ง ท่านี้จะช่วยในเรื่องของการยกกระชับผิวได้
- ขั้นตอนที่ 4 ทำมือในแบบเดี๋ยวกับขั้นตอนที่ 2 แต่เปลี่ยนมาไว้ที่ตำแหน่งของคาง แล้วค่อย ๆ นวดไล่ขึ้นไปตามแนวกราม
Sculptra ราคาเท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายในการฉีด Sculptra ราคา มีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละรายบุคคล ขึ้นอยู่กับปัญหา ความต้องการ รวมถึงจำนวนครั้งที่รักษา ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและเลือกวิธีการรักษาให้เข้ากับแต่ละคนมากที่สุด แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์โดยตรงเพื่อให้ได้รับรายละเอียดที่ถูกต้องครบถ้วน
Sculptra เจ็บไหม?
ฉีด Sculptra อาจรู้สึกเจ็บได้เล็กน้อยเพราะมีการใช้เข็มฉีดตัวยาเข้าไปใต้ชั้นผิว ซึ่งขึ้นอยู่กับการรับรู้ความรู้สึกของแต่ละคนที่แตกต่างกัน แต่ก่อนฉีดจะมีการแปะยาชาเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บให้ลดลง
Sculptra ฉีดกี่ครั้งเห็นผล? ผลลัพธ์อยู่ได้นานกี่ปี?
หลังฉีด Sculptra สามารถเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีประมาณ 15 % (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) โดยผลลัพธ์จะเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเห็นผลเต็มที่ใน 3 เดือนหลังทำ ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 2 ปี แนะนำให้ฉีดอย่างต่อเนื่องเว้นระยะห่างในการฉีดทุก ๆ 4 – 6 สัปดาห์ต่อครั้ง โดยมีวิธีการคำนวนจำนวนครั้งในการฉีดเบื้องต้นจากอายุของคนไข้หารด้วย 10 ตัวอย่างเช่น คนไข้อายุ 40 หารด้วย 10 เท่ากับ 4 ตัวเลขคำตอบนี้คือจำนวนครั้งที่ต้องฉีดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
Sculptra มีข้อดีและผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
ข้อดีของ Sculptra
- หลังฉีดสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนได้ทันทีประมาณ 15 % (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล)
- ยกกระชับ ผิวแน่นอิ่มฟูขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน ผิวสุขภาพดี แข็งแรง
- แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย กระชับรูขุมขน
- ใช้เวลาในการฉีดน้อยแต่ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานถึง 2 ปี (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำของแต่ละรายบุคคล)
ข้อควรรู้ก่อนฉีด Sculptra
- ระหว่างฉีดอาจรู้สึกเจ็บได้เล็กน้อย ขึ้นอยู่กับการรับความรู้สึกของแต่ละคน
- อาจเกิดอาการบวมช้ำ หรืออาการแดงขึ้นได้เล็กน้อยหลังฉีด และจะหายไปได้เองในเวลาอันสั้น
- หลังฉีดอาจมีลักษณะตุ่มนูนบนผิว เกิดจากตัวยาที่ฉีดเข้าสู่ใต้ชั้นผิวยังกระจายตัวไม่หมด สามารถใช้วิธีการนวดเข้าช่วยกระจายตัวยาลงสู่ผิวได้
ฉีด Sculptra ที่ไหนดี?
Sculptra ถึงแม้จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีให้บริการฉีดในหลายคลินิกแต่ก่อนตัดสินใจเลือกฉีดที่ไหนต้องศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี มีความปลอดภัย และไม่เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงตามมา
- คลินิกน่าเชื่อถือ เปิดให้บริการอย่างถูกกฎหมาย ได้มาตรฐาน ห้องทำหัตถการเป็นสัดส่วน สะอาด
- แพทย์มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จึงจะสามารถกำหนดตำแหน่งและชั้นผิวที่จะฉีดได้อย่างแม่นยำ คำนวณปริมาณที่จะใช้รวมถึงจำนวนครั้งในการรักษาได้อย่างถูกต้อง
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ ตรวจสอบได้ ผ่านการรับรองมาตรฐานและคุณภาพ
สรุป
การฉีด Sculptra เป็นการช่วยยกกระชับ ฟื้นฟูผิวให้อิ่มฟู เต่งตึงมากขึ้น รูขุมขนกระชับ ผิวแข็งแรงสุขภาพดี ทั้งยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวได้อีกด้วย โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ และจะเห็นผลเต็มที่ในอีก 3 เดือนหลังทำ ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละคน) หากใครที่กำลังมองหาตัวช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรง แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย กระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว โดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic เพื่อรับคำปรึกษาจากทีมแพทย์มากประสบการณ์โดยตรง ทำให้ได้รับรายละเอียดที่ถูกต้องครบถ้วน ทั้งยังใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ จึงมั่นใจได้ว่าผลลัพธ์หลังทำออกมาดีและปลอดภัย