ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋มเป็นปัญหาหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากร้อยไหม โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้นนั้นเกิดได้จากหลายๆ สาเหตุ ในบทความนี้ Vincent Clinic Aesthetic จะพามารู้จักกับปัญหานี้ว่าทำไมถึงเกิดขึ้น อันตรายไหม และวิธีที่ช่วยให้รอยบุ๋มหายไปคืนผิวหน้าที่เรียบเนียนเหมือนเดิมค่ะ
Key Takeaway
- ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋มเป็นอาการที่บางจุดบนใบหน้ามีลักษณะยุบตัวเป็นร่องลึก มักเกิดจากการวางแนวไหมผิดตำแหน่ง ดึงแน่นเกินไป หรือร้อยในผิวที่บางและมีไขมันน้อย
- สาเหตุหลักของหน้าบุ๋ม ได้แก่ เทคนิคการร้อยไหมที่ไม่เหมาะสม การใช้ไหมคุณภาพต่ำ หรือจำนวนเส้นไหมมากเกินจำเป็น รวมถึงการตอบสนองของกล้ามเนื้อหรือพังผืดใต้ผิว
- ปัญหาหน้าบุ๋มหลังร้อยไหมนี้ส่วนใหญ่ไม่อันตราย และสามารถดีขึ้นเองเมื่อไหมเริ่มละลายภายใน 1–3 เดือน แต่หากบุ๋มลึกหรือไม่ดีขึ้น ควรได้รับการประเมินและแก้ไขโดยแพทย์
- วิธีแก้ไขร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋มมีทั้งการรอให้ผิวฟื้นตัว การนวดคลายแรงดึง ฉีดฟิลเลอร์ หรือใช้เลเซอร์กระตุ้นคอลลาเจน และในบางกรณีอาจต้องผ่าตัดเลาะพังผืด
- ควรหลีกเลี่ยงการนวด กด หรือทำทรีตเมนต์ใดๆ เองหลังจากที่หน้าบุ๋มหลังร้อยไหมโดยไม่มีคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลาม
- การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ไหมคุณภาพดี และให้แพทย์ที่มีประสบการณ์เป็นผู้ทำหัตถการ
- หากต้องการร้อยไหมซ้ำ ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3–6 เดือน หลังรอยบุ๋มหายดีและผิวฟื้นตัวสมบูรณ์
- การแก้ไขหน้าบุ๋มไม่จำเป็นต้องทำกับศัลยแพทย์โดยเฉพาะ แต่ควรเป็นแพทย์ที่มีความรู้เฉพาะทางด้านผิวหนังและหัตถการ
อาการหน้าบุ๋มหลังร้อยไหมคืออะไร?
อาการหน้าบุ๋มหลังร้อยไหม คือ อาการที่เมื่อ ร้อยไหม ไปแล้วผิวบางจุดเกิดรอยยุบหรือเป็นร่องลึก มักพบบริเวณแก้ม ข้างปาก หรือหน้าผาก เกิดจากแรงดึงของไหมที่มากเกินไป หรือการร้อยในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบาง ผิวหย่อนคล้อยมาก หรือขยับใบหน้ามากช่วงหลังทำ
สาเหตุของหน้าบุ๋มหลังร้อยไหม เกิดจากอะไรได้บ้าง?
อาการหน้าบุ๋มหลังร้อยไหมเป็นภาวะที่ผิวหน้าบางจุดเกิดรอยยุบหรือเป็นร่องลึกผิดปกติ ซึ่งมักส่งผลให้ใบหน้าเสียสมดุล ดูไม่เรียบเนียน และอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ สาเหตุของอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยดังนี้
- วางแนวไหมผิดตำแหน่งหรือดึงตึงเกินไป เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวบางจุดยุบตัวลง หากไหมถูกสอดเข้าไปในชั้นผิวที่ไม่เหมาะสม เช่น ร้อยไหมลึกเกินไปจนร้อยใกล้ชั้นกล้ามเนื้อ หรือวางไหมตื้นเกินไปจนอยู่ใกล้ผิวหนังมาก อาจทำให้เกิดแรงตึงไม่สม่ำเสมอ เมื่อดึงไหมแน่นเกินหรือวางแนวขัดกับโครงสร้างของใบหน้าจะส่งผลให้เกิดรอยบุ๋มหรือความผิดปกติของรูปหน้า
- ใช้จำนวนไหมมากเกินไปในบริเวณแคบ อาจทำให้เกิดแรงดึงสะสมในจุดเดียว จนผิวถูกดึงรั้งมากเกินไปและยุบตัวลง การร้อยไหมซ้ำซ้อนในบริเวณเดิมหลายชั้น หรือไม่มีการเว้นระยะระหว่างเส้นไหม อาจทำให้แรงตึงกระจุกในตำแหน่งเดียวจนกลายเป็นรอยบุ๋มหลังทำ
- ใช้ไหมคุณภาพต่ำ หรือไหมที่ไม่ละลายได้เอง หากเลือกใช้ไหมที่ไม่มีคุณสมบัติในการสลายตัวตามธรรมชาติ หรือไม่มีการรับรองมาตรฐาน อาจก่อให้เกิดพังผืดใต้ผิว หรือเกิดการอักเสบเรื้อรังในบริเวณที่ร้อยไหม เมื่อร่างกายไม่สามารถย่อยสลายไหมได้สมบูรณ์ จะเกิดการสะสมหรือแข็งตัวเป็นก้อนใต้ผิว ส่งผลให้ผิวในบริเวณนั้นบุ๋มหรือผิดรูปได้
- การตอบสนองผิดปกติของกล้ามเนื้อหรือพังผืด ในบางรายที่มีปัจจัยทางพันธุกรรมหรือสภาพผิวเฉพาะตัว อาจมีการหดรั้งของกล้ามเนื้อหรือพังผืดที่ไวต่อแรงกระตุ้นมากกว่าปกติ เมื่อเส้นไหมดึงผิวบริเวณนั้นจะเกิดการยุบตัวเป็นร่องได้ง่าย โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบาง หรือเคยผ่านหัตถการบนใบหน้าหลายครั้ง
- ภาวะบวมไม่สม่ำเสมอหลังทำ บางกรณีรอยบุ๋มอาจไม่ได้เกิดจากไหมโดยตรง แต่เกิดจากการบวมที่กระจายไม่สม่ำเสมอ ทำให้ผิวบางจุดยุบลงชั่วคราว และดูคล้ายหน้าบุ๋ม ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วง 3–5 วันแรกหลังทำและดีขึ้นได้เองเมื่ออาการบวมลดลง
หน้าบุ๋มจากร้อยไหม แก้ไขได้หรือไม่?
อาการหน้าบุ๋มหลังร้อยไหมสามารถแก้ไขได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุ ความรุนแรง และระยะเวลาที่เกิดอาการ โดยแนวทางการดูแลหรือรักษามีดังนี้
- ปล่อยให้ผิวฟื้นตัวเองตามธรรมชาติ หากหน้าบุ๋มไม่ลึกและเพิ่งเกิดหลังทำไม่นาน ร่างกายจะค่อย ๆ ปรับสมดุล แรงตึงจากเส้นไหมจะลดลง อาการจะดีขึ้นเองใน 1–2 สัปดาห์ หรือภายใน 2–3 เดือน เมื่อไหมเริ่มละลาย
- นวดคลายไหมหรือลดแรงตึง หากเกิดจากการร้อยไหมแน่นเกินไป หรือแนวไหมวางผิดตำแหน่ง แพทย์อาจใช้เทคนิคการนวดเบาๆ บริเวณที่บุ๋ม เพื่อช่วยให้ไหมคลายตัว และลดแรงดึงที่ทำให้ผิวยุบ
- ฉีดยาช่วยสลายไหมบางส่วน สำหรับเคสที่ไหมก่อให้เกิดพังผืด หรือเกิดแรงตึงถาวร แพทย์อาจพิจารณาฉีดยาช่วยสลายไหมหรือคลายพังผืด เพื่อลดแรงยึดของไหมที่ผิดตำแหน่ง
- ฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มร่องบุ๋ม ในกรณีที่รอยบุ๋มเกิดจากไขมันใต้ผิวลดลง หรือเนื้อผิวบางลงมาก แพทย์อาจแนะนำ ฉีดฟิลเลอร์ เฉพาะจุดด้วยฟิลเลอร์เนื้อบาง เพื่อปรับพื้นผิวให้เรียบเนียนใกล้เคียงเดิม
- ใช้เลเซอร์หรือคลื่นความร้อนฟื้นฟูผิว เทคโนโลยีอย่างเลเซอร์ Radio Frequency (RF) หรือ HIFU สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวได้โดยไม่ต้องเติมสารใด ๆ เหมาะสำหรับรอยบุ๋มที่ไม่ลึกมาก และต้องการฟื้นฟูแบบค่อยเป็นค่อยไป
- ผ่าตัดเลาะไหมหรือพังผืด หากไหมไม่สลาย หรือเกิดพังผืดหนาในตำแหน่งที่บุ๋มอย่างถาวร อาจต้องพิจารณาผ่าตัดเลาะไหมหรือพังผืดออก ซึ่งควรทำโดยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังหรือศัลยกรรมเพื่อป้องกันการเกิดแผลซ้ำซ้อน
สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อเกิดรอยบุ๋มหลังร้อยไหม
เมื่อเกิดรอยบุ๋มหรือยุบผิวหลังร้อยไหม ไม่ควรนวดหรือกดจุดนั้นเอง เพราะอาจทำให้ไหมเคลื่อนหรือพังผืดรุนแรงขึ้น ห้ามฉีดฟิลเลอร์หรือทำทรีตเมนต์อื่นซ้ำทันที หลีกเลี่ยงการร้อยไหมซ้ำจุดเดิมก่อนประเมินชั้นผิวโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบ หรือผิวไม่เรียบ
ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋ม อันตรายไหม?
ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋มมักไม่อันตรายร้ายแรง และสามารถหายได้เองภายใน 1–2 สัปดาห์เมื่อไหมเริ่มเข้าที่ แต่หากรอยบุ๋มลึก เห็นชัดแม้ไม่แสดงสีหน้า หรือมีอาการเจ็บ บวม แดง ร้อน กดเจ็บ หรือคลำเจอก้อนแข็ง ควรรีบพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณของพังผืดหรือภาวะแทรกซ้อนที่ต้องรักษาโดยผู้ที่มีประสบการณ์ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะอาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังภายหลังได้
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดหน้าบุ๋มหลังร้อยไหม
ร้อยไหมเป็นหัตถการที่ให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับผิวได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่หากทำอย่างไม่ถูกวิธี อาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา เช่น หน้าบุ๋ม ผิวยุบ หรือร่องลึกไม่สมดุลกับรูปหน้า ซึ่งสามารถป้องกันได้ดังนี้
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และมีใบอนุญาตถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยของหัตถการและการใช้วัสดุที่มีคุณภาพ
- ร้อยไหมกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ที่สามารถประเมินรูปหน้า เลือกแนวไหม และวางตำแหน่งได้เหมาะสมกับชั้นผิว
- ใช้เส้นไหมที่มีคุณภาพ ไหมได้มาตรฐาน อย. และเหมาะกับสภาพผิว ไม่แข็งเกินไปจนทำให้เกิดแรงรั้งมาก
- ประเมินชั้นผิวและโครงสร้างใบหน้าก่อนทำ โดยเฉพาะในคนผิวบางหรือไขมันน้อย ควรใช้เทคนิคเฉพาะเพื่อลดแรงตึง
- หลีกเลี่ยงการร้อยไหมซ้ำตำแหน่งเดิม โดยไม่ประเมินสภาพผิวก่อน เพราะอาจทำให้เกิดพังผืดหรือผิวยุบซ้ำ
- ดูแลตัวเองหลังร้อยไหมอย่างเหมาะสม เช่น หลีกเลี่ยงการแสดงสีหน้าแรง อ้าปากกว้าง หรือกดใบหน้าแรงในช่วง 5 – 7 วันแรก
ใครที่มีความเสี่ยงเกิดหน้าบุ๋มหลังร้อยไหม?
การร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋มไม่ได้เกิดกับทุกคน แต่อาจเกิดขึ้นได้ง่าย และพบได้บ่อยถ้ามีปัญหาผิว หรือเทคนิคการร้อยไหมไม่ดี เช่น
- ผู้ที่มีผิวบางหรือไขมันใต้ผิวน้อย ผิวถูกดึงง่าย เกิดรอยยุบได้ชัดเจน
- ผู้ที่อายุมากหรือ ผิวหย่อนคล้อย มาก แรงดึงของไหมอาจทำให้ผิวรั้งผิดรูป
- ผู้ที่เคยร้อยไหมซ้ำบ่อยหรือมีพังผืด เสี่ยงต่อการเกิดแรงตึงสะสมและรอยบุ๋มเฉพาะจุด
- ผู้ที่ร้อยไหมกับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ วางแนวไหมผิด ใช้ไหมไม่เหมาะสม ทำให้ผิวเสียสมดุล
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหน้าบุ๋มหลังร้อยไหม (FAQ)
Q: หน้าบุ๋มหลังร้อยไหมต้องรอให้ไหมละลายก่อนค่อยแก้ไขหรือไม่?
A: หน้าบุ๋มหลังร้อยไหมไม่จำเป็นต้องรอให้ไหมละลายเสมอไป หากรอยบุ๋มลึกหรือไม่ดีขึ้น ควรให้แพทย์ประเมินเพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขทันที
Q: ถ้าร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋ม ควรติดต่อคลินิกเดิมหรือปรึกษาแพทย์ที่อื่นได้เลย?
A: หากร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋ม ควรติดต่อคลินิกเดิมก่อนเพื่อให้แพทย์ผู้ทำประเมิน แต่หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม สามารถปรึกษาแพทย์ที่อื่นได้ทันที
Q: ใช้เครื่องยกกระชับอย่าง HIFU หรือ Thermage ช่วยลดรอยบุ๋มได้จริงไหม?
A: เครื่องยกกระชับอย่าง HIFU หรือ Thermage อาจช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและปรับผิวให้ตึงขึ้นได้เล็กน้อย แต่ไม่ได้ช่วยลดรอยบุ๋มลึกโดยตรง ควรให้แพทย์ประเมินก่อนเลือกใช้
Q: หน้าบุ๋มหลังร้อยไหมเป็นถาวรหรือไม่?
A: หน้าบุ๋มหลังร้อยไหมส่วนใหญ่ไม่ถาวร และมักดีขึ้นเองภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่หากเกิดพังผืดหรือไหมผิดตำแหน่งอาจต้องรักษาเพิ่มเติม
Q: รอยบุ๋มหลังร้อยไหมสามารถแต่งหน้าปกปิดได้ไหม?
A: รอยบุ๋มหลังร้อยไหมสามารถแต่งหน้าหรือใช้เมคอัพช่วยปกปิดได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการกดหรือถูแรงบริเวณที่มีรอย
Q: ควรเว้นระยะห่างเท่าไรหากต้องการร้อยไหมซ้ำหลังเคยหน้าบุ๋ม?
A: ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3 – 6 เดือน หรือจนกว่าผิวฟื้นตัวเต็มที่และรอยบุ๋มหายดี ก่อนร้อยไหมซ้ำ
Q: ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋มเกิดเฉพาะจุด ทำไมบางบริเวณถึงไม่มีปัญหาเลย?
A: หน้าบุ๋มหลังร้อยไหมมักเกิดเฉพาะจุด เพราะบางบริเวณถูกดึงแรงเกินไป หรือมีโครงสร้างผิวบาง ต่างจากจุดอื่นที่มีไขมันหรือ คอลลาเจน รองรับมากกว่า
Q: แพทย์ที่แก้หน้าบุ๋มต้องเป็นแพทย์ศัลยกรรมไหม?
A: ไม่จำเป็นต้องเป็นแพทย์ศัลยกรรม แต่อย่างน้อยควรเป็นแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านหัตถการเพื่อประเมินและแก้ไขได้อย่างเหมาะสม
สรุป
ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋มมักเกิดจากประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการร้อยไหมให้ หากมีประสบการณ์น้อยอาจจะทำให้เกิดปัญหานี้ได้ง่าย และยังเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น กล้ามเนื้อตอบสนองผิดปกติ และไหมไม่มีคุณภาพ ซึ่งร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋มจะเป็นปัญหาที่เกิดในช่วงแรกหลังร้อยไหม และจะค่อยๆ หายไปเอง แต่ถ้าไม่หายแนะนำให้รีบมาพบแพทย์เพื่อทำการแก้ไข หากใครที่มีปัญหาร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋มอยากแก้ไข หรืออยากร้อยไหมโดยไม่มีปัญหานี้ อยากให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการ สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic Aesthetic ค่ะ