บทความ
Pico Laser กับ Q-Switch Laser ต่างกันยังไง? แบบไหนดีกว่ากัน?
แชร์ :

Pico Laser กับ Q-Switch Laser ต่างกันยังไง? แบบไหนดีกว่ากัน?

How are Pico Laser and Q-Switch Laser different?
อยากอ่านอะไร จิ้มที่หัวข้อได้เลย!

Pico Laser VS Q-Switch ต่างกันยังไง เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยเวลาจะเลือกเลเซอร์ลดฝ้า กระ หรือรอยสิว แม้ทั้งสองจะใช้รักษาปัญหาเม็ดสีเหมือนกัน แต่เทคโนโลยีและประสิทธิภาพให้ผลไม่เหมือนกัน Vincent Clinic Aesthetic จะพาคุณเข้าใจความต่างว่า Pico กับ Q Switch ต่างกันอย่างไร และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิว

Key Takeaways 

  • Pico Laser และ Q-Switch Laser เป็นเลเซอร์รักษาเม็ดสีเหมือนกัน แต่ใช้เทคโนโลยีพลังงานต่างกัน ทำให้ผลลัพธ์และประสิทธิภาพไม่เท่ากัน
  • Pico Laser ปล่อยพลังงานระดับ Picosecond ทำให้สามารถแตกเม็ดสีได้ละเอียดกว่า ฟื้นตัวไว เจ็บน้อย และลดความเสี่ยงผิวคล้ำหลังเลเซอร์
  • Q-Switch Laser ใช้พลังงานระดับ Nanosecond ทำงานด้วยความร้อนมากกว่า การแตกเม็ดสีจึงไม่ละเอียดเท่า เห็นผลช้า และต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผล
  • Pico เหมาะกับฝ้าลึก กระทุกชนิด รอยสิว จุดด่างดำ ลบรอยสักหลายสี และช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวละเอียดขึ้น
  • Q-Switch เหมาะกับรอยดำพื้นฐาน กระแดด กระตื้น และลบรอยสักสีเข้มทั่วไป ให้ผลดีแต่ค่อยเป็นค่อยไป
  • หลังทำ Pico สามารถเห็นผลได้เร็วประมาณ 3 – 5 ครั้ง ส่วน Q-Switch ต้องทำมากกว่า 4 – 8 ครั้งขึ้นไป ถึงจะเห็นผลได้ชัดเจน
  • หากต้องการผลลัพธ์ชัดเจนและฟื้นตัวเร็ว Pico Laser เช่น Discovery Pico มักเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ในขณะที่ Q-Switch เหมาะสำหรับงบจำกัดและปัญหาเม็ดสีเบื้องต้น

Pico Laser กับ Q-Switch Laser คืออะไร

Pico Laser และ Q-Switch Laser เป็นเลเซอร์ที่ใช้พลังงานแสงความเข้มข้นสูงในการฟื้นฟูผิวและรักษาปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว รอยสัก รวมถึงช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น โดยทั้งสองเทคโนโลยีทำงานด้วยหลักการส่งพลังงานเลเซอร์เข้าไปยังชั้นผิว เพื่อทำลายเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ จึงช่วยให้ผิวเรียบเนียน ใส และดูสุขภาพดีมากขึ้น

pico laser กับ q-switch laser ต่างกันยังไง

Pico กับ Q-Switch ต่างกันยังไง

Pico กับ Q-Switch แตกต่างกันที่ความเร็วของพัลส์พลังงาน ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพ ความเจ็บ ระยะฟื้นตัว และผลลัพธ์ที่ได้หลังเลเซอร์ ดังนี้ 

Pico Laser

Pico Laser คือเลเซอร์ที่ปล่อยพลังงานด้วยความเร็วระดับ Picosecond (Picosecond เท่ากับ 1 ต่อ 1 ล้านล้านวินาที) ซึ่งสั้นและเร็วกว่าเลเซอร์ทั่วไปหลายร้อยเท่า พลังงานที่เร็วมากทำให้ทำงานแบบ Photoacoustic หรือ แรงกระแทกความเร็วสูง ลงไปแตกเม็ดสีให้ละเอียดเป็นผงเล็ก ๆ โดยแทบไม่สร้างความร้อนสะสมบนผิว มีความยาวคลื่นให้เลือกใช้ดังนี้ 

  • 532 nm เหมาะสำหรับเม็ดสีที่อยู่ตื้น ไม่ลึกมาก เช่น กระ จุดด่างดำ รอยดำจากสิว
  • 755 nm เหมาะสำหรับเม็ดสีที่อยู่ระดับกลางและลึก เช่น กระลึก ฝ้า บางส่วน รอยสักโทนสีเขียว สีน้ำเงิน และลบรอยสักสีที่ลบยาก 
  • 1064 nm เหมาะกับเม็ดสีลึก เช่น ฝ้าลึก กระแบบลึก รอยดำ ที่ดื้อการรักษา และลบรอยสักสีเข้มอย่างสีดำ น้ำเงิน 

นอกจากนี้ Pico ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ดี ทำให้ผิวใส เรียบเนียน และฟื้นตัวไว เจ็บน้อยกว่าเพราะพลังงานไม่ได้เน้นความร้อนเป็นหลัก

Q-Switch Laser

Q-Switch Laser เป็นเลเซอร์ที่ปล่อยพลังงานแสงอยู่ที่ Nanosecond (10⁻⁹ วินาที ) ทำให้เม็ดสีแตกตัวได้ แต่ขนาดเม็ดที่แตกจะใหญ่กว่าและอาจเกิดความร้อนสะสมบนผิวได้ มีความยาวคลื่นให้เลือกใช้ 2 ความยาวคลื่น ได้แก่ 

  • 532 nm เหมาะสำหรับเม็ดสีที่อยู่ตื้น เช่น กระแดด กระตื้น จุดด่างดำ ผิวหมองเฉพาะจุด รอยดำหลังสิว และลบรอยสักสีสด
  • 1064 nm เหมาะสำหรับเม็ดสีลึก เช่น รอยดำเข้ม รอยสิวที่ดื้อการรักษา กระลึก และลบรอยสักสีเข้ม เช่น สีดำ น้ำเงิน

Pico กับ Q-Switch ช่วยอะไรได้บ้าง

Pico VS Q-Switch สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย ซึ่งหลังจากที่เลเซอร์ไปแล้ว สามารถช่วยได้ดังนี้

Pico Laser ช่วยอะไร

  • รักษาฝ้าได้ลึกและได้ผลกว้างขึ้น เพราะ Pico ทำงานด้วยพลังงานระดับ Picosecond ที่แตกเม็ดสีละเอียดมาก เมื่อ เลเซอร์ฝ้า แล้วจะทำให้สีผิวค่อย ๆ สว่างขึ้นอย่างปลอดภัย
  • ลดกระทุกประเภทได้ผลดี ไม่ว่าจะเป็นกระแดด กระตื้น หรือกระลึก Pico สามารถ เลเซอร์กระ โดยยิงพลังงานลงไปถึงจุดเม็ดสีได้แม่นยำกว่า ทำให้จางเร็วและลดการกลับมาเป็นซ้ำ
  • จัดการรอยสิว รอยดำ และรอยแดงได้อย่างรวดเร็ว ความเร็วของพลังงานแสงเลเซอร์ สามารถช่วยสลายเม็ดสีใต้รอยดำจากสิว ทำให้รอยสิวจางลงเร็วขึ้น ผิวกลับมาสว่างใสไวกว่า Q-Switch
  • ลบรอยสักได้หลายสีและแตกเม็ดสีได้ละเอียดกว่า Pico Laser ลบรอยสัก ด้วยการยิงให้เม็ดสีแตกตัวเป็นผงขนาดเล็ก ทำให้ร่างกายกำจัดออกง่าย จึงลบรอยสักได้ดี โดยเฉพาะสีที่ลบยาก เช่น เขียว แดง น้ำเงิน ได้ดีกว่าเลเซอร์รุ่นเก่า
  • กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวละเอียดและเด็กลง พลังงานความเร็วสูงของ Pico สร้าง micro-injury ใต้ผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียนขึ้น และดูมีความเงาใสแบบ Glass Skin
  • ผิวฟื้นตัวไว เจ็บน้อย เหมาะกับทุกสภาพผิว เพราะเน้นแรงกระแทกมากกว่าความร้อน ผิวจึงไม่ระคายเคืองง่าย ลดโอกาสหน้าไหม้หรือ PIH เหมาะกับคนผิวคล้ำ หรือ ผิวแพ้ง่าย ด้วย

Q-Switch ช่วยอะไร

  • ลดรอยดำ และรอยสิวในระยะเริ่มต้น Q-Switch ทำงานด้วยพลังงาน Nanosecond ที่ใช้ความร้อนทำลายเม็ดสี จึงเหมาะกับรอยสิว และรอยดำธรรมดาที่ไม่ได้ลึกมาก ทำให้หน้าใสดูสว่างขึ้นทีละน้อย
  • จัดการกระแดด กระตื้น จุดด่างดำพื้นฐาน เหมาะกับผู้ที่เริ่มเห็นปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และต้องการดูแลผิวแบบประหยัดงบแต่ยังได้ผลลัพธ์ที่ดี
  • รักษาฝ้าระดับเบื้องต้น Q-Switch สามารถช่วยฝ้าได้แต่ไม่ลึกเท่า Pico เพราะใช้ความร้อนมากกว่า จึงต้องทำหลายครั้ง และต้องควบคุมความร้อนอย่างดีเพื่อลดความเสี่ยงฝ้ากำเริบ
  • ลบรอยสักสีเข้มทั่วไป Q-Switch เหมาะกับการลบสีดำ น้ำเงิน เขียวในระดับพื้นฐาน แม้แตกเม็ดสีไม่ละเอียดเท่า Pico แต่ยังถือว่ามาตรฐานสำหรับการลบรอยสัก
  • ปรับผิวใสระดับพื้นฐาน ผิวดูสว่างขึ้นเรื่อย ๆ ช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ และสีผิวไม่สม่ำเสมอในระดับทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสว่าง และโทนผิวเนียนขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
  • ตัวเลือกที่คุ้มค่าในงบประหยัด แม้ผลลัพธ์จะช้ากว่า แต่ Q-Switch มีราคาย่อมเยากว่า เหมาะกับคนที่ต้องการปรับผิวใสแบบงบน้อย ไม่เร่งผลลัพธ์มากนัก

How many sessions of Pico Laser and Q-Switch Laser are needed

Pico กับ Q-Switch ต้องทำกี่ครั้งเห็นผล

Pico เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกผิวใสขึ้นและรอยดำจางลงชัดเจน มักทำประมาณ 3 – 5 ครั้งเพื่อให้ผลคงที่ และเคสฝ้าลึกหรือกระลึกอาจต้อง 5 – 8 ครั้ง ทำห่างกันทุก 1 – 2 สัปดาห์ ผลลัพธ์เร็วและฟื้นตัวไวกว่าเลเซอร์ทั่วไป ส่วน Q-Switch เริ่มเห็นผลหลังทำ 2 – 3 ครั้ง และเห็นผลชัดเจนประมาณ 4 – 8 ครั้ง ส่วนเคสที่มีเม็ดสีลึกอาจต้อง 8 – 12 ครั้ง ทำได้ทุก 1 สัปดาห์ ผลลัพธ์ค่อยเป็นค่อยไปและต้องทำต่อเนื่องมากกว่า Pico เพื่อให้เห็นผลชัดเจน

Pico Laser VS Q-Switch ตัวไหนดีกว่ากัน

Pico Laser เป็นตัวเลือกที่หลายคลินิกให้ความไว้วางใจเพราะพลังงานแบบ Picosecond ที่สามารถช่วยแตกเม็ดสีได้ละเอียด แม่นยำ ผิวฟื้นตัวเร็ว และให้ผลลัพธ์เรื่องผิวใสได้ไวกว่า Q-Switch  โดยเฉพาะ Discovery Pico ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเสถียรและความแม่นยำของพลังงาน ทำให้ฝ้า กระ จุดด่างดำจางเร็ว และผิวดูเรียบเนียนกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นผลไวและต้องการดูแลผิวแบบจริงจัง

ส่วน Q-Switch เหมาะกับการดูแลปัญหาเม็ดสีพื้นฐาน แต่ผลลัพธ์จะค่อยเป็นค่อยไปและต้องทำต่อเนื่องมากกว่า หากต้องการความคุ้มค่าของผลลัพธ์และการฟื้นตัวไว Pico โดยเฉพาะ Discovery Pico มักเป็นตัวเลือกที่หลายคนเลือกใช้เป็นอันดับแรก

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Pico Laser VS Q-Switch (FAQ)

Q: เลเซอร์ลบรอยสักควรเลือก Pico หรือ Q-Switch
A: ถ้าต้องการลบรอยสักให้จางไว แตกเม็ดสีละเอียด และฟื้นตัวเร็ว แนะนำ Pico Laser โดยเฉพาะ Discovery Pico เพราะลบได้หลายสีและเห็นผลเร็วกว่ารุ่นเดิม ส่วน Q-Switch ใช้ลบรอยสักได้เช่นกัน แต่เหมาะกับงานพื้นฐานและอาจต้องทำหลายครั้งกว่า

Q: ลบรอยแดงด้วย Pico Laser ดีกว่า Q-Switch ไหม
A: ลบรอยแดงด้วย Pico Laser ให้ผลไวกว่า เพราะพลังงานแบบ Picosecond รบกวนเม็ดสีได้น้อยแต่สลายเม็ดสีได้แม่นยำ จึงลดรอยแดงได้เร็วและฟื้นตัวไว ส่วน Q-Switch ใช้ได้เช่นกันแต่ผลลัพธ์จะค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า

Q: วิธีดูแลหลังทำ Pico Laser และ Q-Switch
A: หลังทำ Pico Laser และ Q-Switch ควรหลีกเลี่ยงแดด 3 – 7 วัน ทาครีมบำรุงที่อ่อนโยนและครีมกันแดด SPF 50+ เป็นประจำ ห้ามแกะ หรือเกาบริเวณที่ยิงเลเซอร์ และหลีกเลี่ยงการสครับผิว หรือใช้สกินแคร์ที่มีกรดเข้มข้นจนกว่าผิวจะหายดี เพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนและลดโอกาสเกิดรอยดำหลังเลเซอร์

Q: เลเซอร์ Pico กับ Q-Switch เจ็บไหม อันไหนเจ็บน้อยกว่า
A: ทั้ง Pico และ Q-Switch มีความรู้สึกจี๊ด ๆ ระหว่างทำ แต่โดยรวม Pico เจ็บน้อยกว่า เพราะพลังงานเป็นแบบ Picosecond ที่ร้อนน้อยและทำงานเร็วกว่า ส่วน Q-Switch ใช้ความร้อนมากกว่า จึงอาจรู้สึกแสบร้อนหรือสะดุ้งมากกว่าเล็กน้อย แต่ทั้งสองสามารถทายาช่วยลดความเจ็บได้

Q: ถ้าอยากรักษาหลุมสิวระหว่าง Pico VS Q-Switch ตัวไหนดี
A: การรักษา หลุมสิว Pico Laser เหมาะกว่า Q-Switch เพราะ Pico สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้ลึกและรวดเร็วกว่า ช่วยให้ผิวฟูขึ้น หลุมตื้นขึ้น และผิวเรียบเนียนไวกว่า ส่วน Q-Switch เน้นเรื่องเม็ดสี ไม่ได้ตอบโจทย์หลุมสิวโดยตรง จึงไม่เหมาะสำหรับการแก้ปัญหานี้

Q : Q-Switch Laser vs Pico เลือกอย่างไรให้เหมาะกับผิว?
A: หากต้องการผิวใสไว ลดฝ้า กระลึก รอยดำแน่น และต้องการฟื้นตัวเร็ว Pico Laser จะตอบโจทย์มากกว่า เพราะแตกเม็ดสีละเอียด และ กระตุ้นคอลลาเจน ได้ดี ส่วน Q-Switch เหมาะกับรอยดำพื้นฐาน กระแดด หรือผู้ที่ต้องการดูแลผิวแบบค่อยเป็นค่อยไปและประหยัดงบได้

สรุป

Pico Laser และ Q-Switch ต่างกันที่ความเร็วพลังงาน ส่งผลให้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน โดย Pico Laser ทำงานเร็วกว่า แตกเม็ดสีละเอียดกว่า ผิวฟื้นตัวไว และเห็นผลเรื่องฝ้า กระ รอยดำ รอยสิว และการลบรอยสักได้ชัดเจนกว่า โดยเฉพาะ Discovery Pico ที่พลังงานเสถียรและให้ผลลัพธ์ไวเป็นธรรมชาติ ส่วน Q-Switch เหมาะกับปัญหาเม็ดสีพื้นฐานอย่างรอยดำหรือกระแดด แต่ผลลัพธ์จะค่อยเป็นค่อยไปและต้องทำหลายครั้งมากกว่า หากอยากดูแลผิวให้กระจ่างใส แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกเลเซอร์แบบไหน สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่ Vincent Clinic Aesthetic ทีมแพทย์จะประเมินสภาพผิวจริง และเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับผิวของคุณที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย และตอบโจทย์ความต้องการผิวใสของแต่ละคนอย่างตรงจุด

Scroll to Top