กระตุ้นคอลลาเจน ในปัจจุบันเป็นสิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ต้องการดูและผิวให้แน่นกระชับขึ้น จากการที่ผิวขาดคอลลาเจน ซึ่งเมื่อขาดคอลลาเจนจะทำให้ ผิวหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยร่องลึกตามมา การกระตุ้นคอลลาเจนให้เพิ่มขึ้นจึงสำคัญถ้าต้องการดูแลผิวให้อ่อนเยาว์ ในบทความนี้ Vincent Clinic Aesthetic จะพามารู้จักเกี่ยวการวิธีการกระตุ้นคอลลาเจนหลายๆ วิธี เพื่อให้เลือกวิธีที่เหมาะสมกับผิว และผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการค่ะ
Key Takeaway
- การกระตุ้นคอลลาเจนคือกระบวนการที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ โดยเฉพาะเซลล์ไฟโบรบลาสต์ในชั้นผิว ซึ่งจะส่งผลให้ผิวมีความกระชับ ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- วิธีการกระตุ้นคอลลาเจนในปัจจุบันมีหลากหลายเทคนิคให้เลือก เช่น การใช้เครื่องยกกระชับผิว เลเซอร์ฟื้นฟูผิวฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน กระตุ้นผ่านเข็ม การให้อาหารผิว รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมกระตุ้นคอลลาเจน
- เทคนิคแต่ละวิธีมีจุดเด่นต่างกันทั้งเรื่องระดับความลึกของชั้นผิวที่ถูกกระตุ้น ระยะเวลาที่ใช้เห็นผล ความเหมาะสมกับสภาพผิว และงบประมาณในการรักษา
- เครื่องยกกระชับกระตุ้นคอลลาเจนเหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยต้องการยกกระชับโดยไม่ผ่าตัดเห็นผลภายใน 1–3 เดือน และอยู่ได้นานประมาณ 6–12 เดือน
- เลเซอร์ฟื้นฟูผิวเหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิว รูขุมขนกว้าง หรือผิวไม่เรียบเนียน โดยจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนพร้อมฟื้นฟูคุณภาพผิวในเวลาเดียวกัน
- การฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจนเหมาะกับผู้ที่มีผิวบาง ขาดความยืดหยุ่น หรือเริ่มมีโครงหน้าแบนตามวัย โดยจะฟื้นฟูผิวจากภายในโดยไม่เพิ่มปริมาตรทันทีแบบฟิลเลอร์
- การกระตุ้นคอลลาเจนผ่านเข็ม เช่น Microneedling หรือ Meso Therapy เหมาะกับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวโทรม หรือผิวที่พักผ่อนไม่เพียงพอ โดยจะกระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมตัวเองตามธรรมชาติ
- การให้อาหารผิว เช่น การดริปวิตามิน วิตามินซี กรดอะมิโน หรือสารต้านอนุมูลอิสระ เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวจากภายในและเสริมการรักษาอื่น ๆ ให้เห็นผลดีขึ้นในระยะยาว
- การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เช่น ครีมและเซรั่มที่มีสารกระตุ้นคอลลาเจน เหมาะกับทุกสภาพผิว ช่วยเสริมการรักษาอื่น ๆ และเหมาะสำหรับการดูแลผิวในชีวิตประจำวัน แม้อาจเห็นผลช้ากว่าการทำหัตถการ
- การเลือกเทคนิคกระตุ้นคอลลาเจนที่เหมาะสมควรอิงตามปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ไม่ควรเลือกตามความนิยม หรือการรีวิวโดยไม่ประเมินสภาพผิวจริง
คอลลาเจน คืออะไร และทำไมร่างกายเราถึงผลิตน้อยลงเรื่อยๆ
คอลลาเจน คือ โปรตีนสำคัญที่ร่างกายผลิตเองได้ช่วยให้ผิวดูเต่งตึงและยืดหยุ่น แต่เมื่ออายุมากขึ้น 25 ปีขึ้นไปการสร้างคอลลาเจน และคอลลาเจนที่อยู่ในร่างกายจะค่อยๆ ลดลง ส่งผลให้ผิวแห้ง หย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยได้ง่าย นอกจากนี้ปัจจัยภายนอกอย่างแสงแดด มลภาวะ ความเครียด พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น นอนดึก สูบบุหรี่ หรือกินหวานมากเกินไปก็จะเร่งให้คอลลาเจนเสื่อมเร็วขึ้นอีกด้วย
การกระตุ้นคอลลาเจน คืออะไร? ทำงานอย่างไร?
การกระตุ้นคอลลาเจน คือ การเพิ่มประสิทธิภาพหรือเร่งกระบวนการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย เพื่อชะลอริ้วรอยและฟื้นฟูผิวให้แน่นกระชับมากขึ้น โดยกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ผลิตคอลลาเจน อีลาสตินให้ทำงานได้ดีขึ้น หรือทำให้ผิวเกิดการบาดเจ็บเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน
วิธีการกระตุ้นคอลลาเจนมีกี่ประเภท?
การกระตุ้นคอลลาเจนมีหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีมีจุดเด่นต่างกัน ทั้งในแง่ของระดับความลึกของผิวที่ถูกกระตุ้น ระยะเวลาการเห็นผล และความเหมาะสมกับสภาพผิว โดยสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
กระตุ้นคอลลาเจนด้วยเครื่องยกกระชับ
เทคโนโลยีนี้ใช้พลังงานคลื่นเสียงหรือคลื่นวิทยุ เช่น HIFU, Ulthera, Thermage ยิงลงลึกถึงชั้นหนังแท้หรือชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่รองรับโครงสร้างใบหน้า พลังงานความร้อนที่ส่งลงไปจะกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อ และเร่งกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ผิวจึงยกกระชับ แน่น และดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดขึ้นภายใน 1 – 3 เดือน และอยู่ได้นานหลายเดือน
กระตุ้นคอลลาเจนด้วยเลเซอร์ฟื้นฟูผิว
เลเซอร์ เช่น Pico Laser, CO2, Fractional เน้นการปรับคุณภาพผิวโดยเฉพาะ โดยพลังงานจากเลเซอร์จะเจาะลึกถึงผิวชั้นตื้นหรือกลาง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยลดเลือนรอยดำ รอยแดง กระชับรูขุมขน และทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องสีผิวไม่สม่ำเสมอ หลุมสิว หรือเนื้อผิวไม่เรียบ การฟื้นตัวหลังทำอาจมีรอยแดงเล็กน้อย แต่สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ
กระตุ้นคอลลาเจนด้วยการฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน
สารที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ เช่น Sculptra, Juvelook, Radiesse สามารถฉีดได้ทั่วใบหน้า หรือเฉพาะจุด ไม่ได้เติมเต็มแบบฟิลเลอร์ แต่จะเน้นฟื้นฟูคุณภาพผิวและเพิ่มความหนาแน่นให้ผิวจากภายใน เหมาะกับผู้ที่มีผิวบาง ขาดความยืดหยุ่น หรือเริ่มมีโครงหน้าแบนลงตามวัย เห็นผลภายในไม่กี่สัปดาห์ และผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายเดือนถึงเป็นปี
กระตุ้นคอลลาเจนผ่านเข็ม
การกระตุ้นด้วยวิธีนี้ใช้เข็มขนาดเล็กเจาะผิวเป็นจุดเล็กๆ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง โดยกระบวนการซ่อมแซมนี้จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ อาจทำร่วมกับการเติมสารบำรุงผิว เช่น ฉีดวิตามิน หรือฉีดกรดไฮยาลูรอนิกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เหมาะกับผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง หลุมสิว หรือผิวที่ดูโทรมจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ
กระตุ้นคอลลาเจนด้วยการให้อาหารผิว
การให้อาหารผิวสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ เช่น การวิตามินซี กรดอะมิโน ซิงก์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถทำได้ทั้งในรูปแบบของอาหารเสริม หรือให้ผ่านการ ดริปวิตามิน เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวในระยะยาว เสริมภูมิต้านทานผิว และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการรักษาแบบอื่น
กระตุ้นคอลลาเจนด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
แม้ว่าสกินแคร์จะไม่สามารถซึมลึกถึงชั้นหนังแท้ได้ แต่ผลิตภัณฑ์บางชนิดสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ เช่น ครีมหรือเซรั่มที่มีวิตามินซี เรตินอล เปปไทด์ หรือไนอะซินาไมด์ เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ริ้วรอยดูจางลง ผิวดูเรียบเนียนและชุ่มชื้นมากขึ้น เหมาะกับการใช้ควบคู่กับวิธีอื่นเพื่อรักษาสภาพผิวในระยะยาว
เทคนิคกระตุ้นคอลลาเจนที่ได้รับความนิยมในคลินิก
เทคนิคการกระตุ้นคอลลาเจนที่นิยมในคลินิกจะมีหลายวิธี เช่น เครื่องยกกระชับ เลเซอร์ หรือฉีด Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจนฟื้นฟูผิวจากโครงสร้าง และยังมีวิธีอื่นๆ อีกหลายวิธีที่ได้รับความนิยม ส่วนใหญ่แล้วเพื่อให้ผลลัพธ์ในการกระตุ้นคอลลาเจนออกมาดีที่สุดจะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวที่มี และเลือกวิธีให้เหมาะกับผิว ไม่ควรเลือกจากเทคนิคที่ยอดนิยมที่สุด
การกระตุ้นคอลลาเจนเหมาะกับใคร?
การกระตุ้นคอลลาเจนไม่ใช่เรื่องของคนมีริ้วรอยหรืออายุมากเท่านั้น แต่เป็นกระบวนการดูแลผิวที่เหมาะกับคนหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากภายในให้ดูแข็งแรง อ่อนเยาว์ และมีสุขภาพดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มคนที่เหมาะกับการกระตุ้นคอลลาเจน ได้แก่
- ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป เป็นอายุที่คอลลาเจนในร่างกายเริ่มลดลง การดูแลผิวตั้งแต่ช่วงนี้จะช่วยชะลอความเสื่อมและคงความกระชับไว้ได้นานขึ้น
- ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยหรือขาดความยืดหยุ่น เช่น กรอบหน้าไม่ชัด แก้มเริ่มตก หรือผิวดูไม่สดใส การกระตุ้นคอลลาเจนช่วยให้ผิวแน่นและดูยกกระชับมากขึ้น
- ผู้ที่เริ่มมีริ้วรอย ร่องลึก ซึ่งเป็นสัญญาณของคอลลาเจนที่เริ่มเสื่อม การกระตุ้นจะช่วย ลดริ้วรอย เติมเต็มและฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียน
- ผู้ที่พักผ่อนน้อย ผิวโทรม ซึ่งจะทำลายสมดุลผิวในระยะยาว เช่น การนอนดึก สูบบุหรี่ หรือเจอมลภาวะบ่อยล้วนทำให้คอลลาเจนลดลงเร็วขึ้น
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหลังทำเลเซอร์หรือศัลยกรรม เพราะผิวที่ผ่านกระบวนการรักษาที่กระทบผิวจะฟื้นฟูได้เร็วเมื่อมีคอลลาเจนในผิวเยอะ
- ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง หลุมสิว หรือผิวไม่เรียบ เพราะการกระตุ้นคอลลาเจนจะช่วยเติมเต็มร่องผิว ทำให้ หลุมสิว ดูตื้นขึ้น ปรับโครงสร้างผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่ต้องการดูแลผิวให้ดี การเริ่มกระตุ้นคอลลาเจนตั้งแต่ยังไม่มีริ้วรอยเป็นการดูแลรักษาผิวระยะยาวที่ช่วยชะลอวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ควรเลือกวิธีใดดี? แล้วรู้ได้อย่างไรว่าต้องกระตุ้นแบบไหน?
แม้การกระตุ้นคอลลาเจนจะมีหลายวิธีให้เลือก ทั้งแบบเลเซอร์ เครื่องยกกระชับ การฉีด หรือแม้แต่กินแต่ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะกับทุกวิธี เพราะผิวของแต่ละคนมีสภาพ ปัญหา และความต้องการที่แตกต่างกัน ถ้าต้องการ ยกกระชับผิว ไปพร้อมๆ กับการกระตุ้นคอลลาเจนจะเหมาะกับเครื่องยกกระชับ ถ้ามีหลุมสิวกว้าง มีรอยสิวเยอะต้องการกระตุ้นคอลลาเจนจะเหมาะกับเลเซอร์ หรือถ้าอยากกระตุ้นคอลลาเจนโดยเฉพาะจะเหมาะกับการฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หากไม่มั่นใจ เพราะแพทย์ที่เชี่ยวชาญจะสามารถแนะนำวิธีที่เหมาะสภาพผิว และผลลัพธ์ออกมาตรงกับที่คนไข้ต้องการ และการไม่ควรตัดสินใจจากกระแสนิยม เพราะอาจไม่เหมาะกับผิวได้
ตารางเปรียบเทียบเทคนิคการกระตุ้นคอลลาเจน
เนื่องจากเทคนิคที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้มีด้วยกันอยู่หลายวิธ๊ จึงขอเปรียบเทียบในรูปแบบตารางให้ดูดังนี้
เทคนิค | ผลลัพธ์หลัก | กลุ่มเป้าหมาย | ระยะเวลาการเห็นผล | ระยะเวลาการคงผล |
---|---|---|---|---|
เครื่องยกกระชับ | ยกกระชับ ปรับรูปหน้า | ผิวหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับโดยไม่ผ่าตัด | 1–3 เดือน | 6–12 เดือน |
เลเซอร์ฟื้นฟูผิว | ฟื้นฟูผิว ลดรอย ปรับผิวเรียบเนียน | ผิวมีรอยหลุมสิว จุดด่างดำ รูขุมขนกว้าง | ค่อย ๆ เห็นผลใน 1–2 สัปดาห์ | ขึ้นกับชนิดเลเซอร์และการดูแล |
ฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน | ฟื้นฟูลึก เติมเต็มผิวจากโครงสร้าง | ผิวบาง ขาดความยืดหยุ่น อายุเพิ่มขึ้น | เริ่มเห็นผลใน 3–4 สัปดาห์ | หลายเดือนถึง 1 ปี |
กระตุ้นผ่านเข็ม | กระตุ้นผิวซ่อมแซม รูขุมขนกระชับ | ผิวโทรม หลุมสิว ต้องการฟื้นฟูแบบธรรมชาติ | ภายใน 2–4 สัปดาห์ | 3–6 เดือน |
ให้อาหารผิว | บำรุงผิวจากภายใน เสริมผลลัพธ์อื่น ๆ | ผิวอ่อนล้า ขาดสารอาหาร ต้องการดูแลเสริม | ผลสะสมเมื่อทำต่อเนื่อง | ต่อเนื่องตามการดูแล |
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว | เสริมความแข็งแรงผิว ดูแลระยะยาว | ทุกสภาพผิว ต้องการดูแลประจำวัน | ผลช้า ต้องใช้สม่ำเสมอ | ต้องใช้อย่างต่อเนื่อง |
การกระตุ้นคอลลาเจนมีข้อจำกัดอะไรบ้าง?
แม้การกระตุ้นคอลลาเจนจะเป็นทางเลือกที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกวิธีรักษา
- เห็นผลช้าในบางเทคนิค เทคนิคหลายอย่าง เช่น การใช้สกินแคร์ หรือเครื่องยกกระชับ อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือนกว่าจะเริ่มเห็นผล ทำให้ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบเร่งด่วนอาจไม่ตอบโจทย์
- ต้องทำต่อเนื่องเพื่อคงผลลัพธ์ คอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นจะค่อย ๆ ลดลงตามเวลา การรักษาส่วนใหญ่จึงไม่ใช่ครั้งเดียวจบ แต่ต้องมีการดูแลต่อเนื่องหรือทำซ้ำเป็นระยะ
- ราคาต่างกันมากในแต่ละวิธี บางเทคนิค เช่น การฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน หรือการทำเลเซอร์คุณภาพสูง อาจมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ในขณะที่บางวิธี เช่น สกินแคร์หรือวิตามิน อาจประหยัดกว่า แต่ใช้เวลานานและต้องใช้อย่างสม่ำเสมอ
- ไม่เหมาะกับบางสภาพผิวหรือผู้มีโรคประจำตัว ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เป็นสิวอักเสบ ผิวติดสเตียรอยด์ หรือมีโรคประจำตัวบางประเภท เช่น โรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรืออยู่ระหว่างการรักษาด้วยยาเฉพาะทาง ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะบางเทคนิคอาจกระตุ้นให้เกิดอาการข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนได้
ก่อน–หลังการกระตุ้นคอลลาเจน ควรเตรียมตัวและดูแลอย่างไร?
การกระตุ้นคอลลาเจน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เลเซอร์ เข็ม เครื่องยกกระชับ หรือการฉีด ต่างก็ถือเป็นการกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูของร่างกายจากภายใน การเตรียมตัวที่ดีและการดูแลหลังทำอย่างเหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เห็นผลชัดเจน ปลอดภัย และยืดอายุผลลัพธ์ให้นานที่สุด
ก่อนทำกระตุ้นคอลลาเจน
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด อย่างน้อย 3–5 วัน เพราะผิวที่โดนแดดมากเกินไปจะอ่อนแอและไวต่อการระคายเคือง ควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง และทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
- งดใช้วิตามิน A หรือกลุ่ม Retinol, AHA, BHA ชั่วคราว โดยเฉพาะก่อนทำเทคนิคกระตุ้นคอลลาเจนด้วยเลเซอร์หรือเข็ม เพราะผิวที่ลอกหรือบางจะไวต่อการระคายเคืองมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการแว็กซ์หรือขัดผิวบริเวณที่ทำ เพื่อป้องกันการอักเสบ หรือผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับผิว
- ผิวควรอยู่ในสภาพสมดุล ผิวไม่บอบบางเกินไป เพื่อป้องกันการอักเสบหรือผลข้างเคียง
- แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว หรือใช้ยาเฉพาะทาง เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ ยาละลายลิ่มเลือด หรือกำลังตั้งครรภ์ ควรคุยกับแพทย์ให้ละเอียดก่อนทำ
ดูแลหลังกระตุ้นคอลลาเจน
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด ในช่วง 24 – 72 ชั่วโมงแรกไม่ควรซาวน่า อบไอน้ำ ไดร์ร้อน ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจัด หรือการออกกำลังกายหนัก เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองและบวมแดง
- ดื่มน้ำมาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ น้ำและการนอนหลับมีผลโดยตรงต่อกระบวนการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย ควรนอนอย่างน้อย 7–8 ชั่วโมง และดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
- งดแต่งหน้าหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อการระคายเคือง หลังจากกระตุ้นคอลลาเจน 1 – 2 วัน โดยเฉพาะหลังทำเลเซอร์หรือเข็ม ให้ผิวได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่
- ทาครีมบำรุงและครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อให้คอลลาเจนฟื้นฟูผิวอย่างเต็มที่ และปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะหลังการกระตุ้นคอลลาเจน
- อย่าแกะ เกา หรือขัดผิวบริเวณที่ทำ หากมีอาการลอก แห้ง หรือคัน ให้ปล่อยให้หายเองตามธรรมชาติ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดรอยดำหรือรอยแผลเป็น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการกระตุ้นคอลลาเจน (FAQ)
Q: อายุเท่าไหร่ถึงควรเริ่มกระตุ้นคอลลาเจน?
A: ควรเริ่มกระตุ้นคอลลาเจนตั้งแต่อายุประมาณ 25 ปีขึ้นไป เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มผลิตคอลลาเจนลดลงอย่างต่อเนื่อง
Q: กระตุ้นคอลลาเจนบ่อยแค่ไหนจึงจะเห็นผล?
A: ขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ แต่โดยทั่วไปควรทำต่อเนื่องทุก 1 – 3 เดือน เพื่อให้เห็นผลชัดเจน และคงสภาพผลลัพธ์ที่ดีเอาไว้
Q: การฉีดกระตุ้นคอลลาเจนแตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์หรือไหมอย่างไร?
A: การฉีดกระตุ้นคอลลาเจนช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ผิวจะยืดหยุ่นกระชับขึ้น ส่วนการ ฉีดฟิลเลอร์ จะเติมเต็ม หรือเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวทันทีหลังฉีด
Q: ผู้ที่มีปัญหาสิวหรือผิวแพ้ง่ายสามารถทำการกระตุ้นคอลลาเจนได้ไหม?
A: สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกวิธีที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อผิว
Q: หลังทำการกระตุ้นคอลลาเจนต้องพักฟื้นหรือไม่?
A: ปกติแล้วไม่ต้องพักฟื้นหลังกระตุ้นคอลลาเจน แต่บางวิธีอาจมีรอยแดงหรือบวมเล็กน้อยชั่วคราวจากนั้นจะค่อยๆ หายไปเอง
Q: วิธีธรรมชาติเช่นการทานอาหารหรือคอลลาเจนเสริมเพียงพอหรือไม่?
A: ช่วยได้ แต่โดยอาจไม่เพียงพอหากต้องการผลลัพธ์ชัดเจน และรวดเร็ว เนื่องจากเป็นวิธีที่เห็นได้ช้า
Q: กระตุ้นคอลลาเจนช่วยรักษาริ้วรอยได้หรือไม่?
A: การกระตุ้นคอลลาเจนสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย และชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ๆ ได้ เพราะเมื่อผิวมีความยืดหยุ่นกระชับมากขึ้นจะเกิดริ้วรอยได้ยาก
สรุป
การกระตุ้นคอลลาเจนมีด้วยกันหลายวิธีทั้งในรูปแบบการฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน การใช้เครื่องยกกระชับ ดริปวิตามิน หรือการกินที่ทำให้คอลลาเจนในชั้นผิวมากขึ้นจนผิวดูกระชับขึ้น ซึ่งแต่ละวิธีจะเหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกัน และความเร็วของผลลัพธ์จะไม่เท่ากัน หากใครที่อยากจะให้ผิวเต่งตึง ลดริ้วรอยด้วยการเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิว สามารถเข้ามาปรึกษากับ Vincent Clinic Aesthetic ที่จะมีแพทย์ที่มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำค่ะ