บทความ
โบท็อกโหนกแก้ม ลดโหนกแก้มได้จริงไหม ต้องใช้กี่ยูนิต ราคาเท่าไร
แชร์ :

โบท็อกโหนกแก้ม ลดโหนกแก้มได้จริงไหม ต้องใช้กี่ยูนิต ราคาเท่าไร

โบท็อกโหนกแก้ม
อยากอ่านอะไร จิ้มที่หัวข้อได้เลย!

หลายคนที่มีโหนกแก้มใหญ่หรือสูงอาจรู้สึกว่าใบหน้าของตนดูไม่สมส่วน หรือขาดมิติที่ต้องการ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับรูปทรงของใบหน้า หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการลดขนาดโหนกแก้ม คือ การฉีดโบท็อก ซึ่งเป็นการใช้สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) เพื่อลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณโหนกแก้ม อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจสงสัยว่าโบท็อกโหนกแก้มสามารถลดขนาดโหนกแก้มได้จริงหรือไม่ และต้องใช้กี่ยูนิต รวมถึงค่าใช้จ่ายในการฉีดนั้นมีราคาเท่าไร

Key Takeaways

  • โบท็อกโหนกแก้ม คือการฉีด Botulinum Toxin เข้าไปที่กล้ามเนื้อโหนกแก้ม (ไซโกมาติคัส) เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้โหนกแก้มดูเล็กลงและหน้าดูละมุนขึ้น
  • ลดโหนกแก้มได้จริง แต่เฉพาะกรณีที่โหนกแก้มใหญ่จากกล้ามเนื้อ หากเกิดจากกระดูกหรือไขมัน โบท็อกจะไม่สามารถช่วยได้
  • ปริมาณที่ใช้ฉีดโบท็อกโหนกแก้ม โดยทั่วไปคือ ประมาณ 25 ยูนิต แต่แพทย์จะประเมินกล้ามเนื้อจริงก่อนทุกครั้งเพื่อคำนวณยูนิตที่เหมาะสม
  • โบท็อกโหนกแก้ม เริ่มเห็นผล ภายใน 1–2 สัปดาห์ และชัดเจนภายใน 1 เดือนหลังฉีด
  • ผลลัพธ์ของโบท็อกโหนกแก้ม อยู่ได้นาน ประมาณ 3–6 เดือน และแนะนำให้ฉีดซ้ำทุก 4–6 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์

ในบทความนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับโบท็อกโหนกแก้มว่าเป็นวิธีที่ลดโหนกแก้มได้จริงหรือไม่ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนยูนิตที่ควรใช้ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการฉีด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นก่อนการเลือกวิธีการลดโหนกแก้มที่เหมาะสมกับตัวคุณ

โบท็อกโหนกแก้มคืออะไร

โบท็อกโหนกแก้ม คือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) เข้าไปที่บริเวณกล้ามเนื้อไซโกมาติคัส ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณโหนกแก้ม จากนั้น โบท็อก จะเข้าไปหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อเพื่อทำให้โหนกแก้มลดขนาดลง และกล้ามเนื้อจะค่อยๆ ลดขนาดลงเนื่องจากไม่ได้ทำงาน ซึ่งการที่โหนกแก้มใหญ่จะทำให้ใบหน้าดูใหญ่ ใบหน้าดูดุ ไม่เป็นมิตร หากลดขนาดโหนกแก้มได้ก็จะทำให้ใบหน้าดูสมส่วน หน้าดูละมุนอ่อนหวานมากขึ้น 

โบท็อกลดโหนกแก้มได้จริงไหม

โบท็อกสามารถลดขนาดโหนกแก้มให้เล็กลงได้ แต่ต้องเป็นโหนกแก้มใหญ่จากกล้ามเนื้อเท่านั้น หากสาเหตุที่โหนกแก้มใหญ่จากกระดูก หรือจากไขมันสะสมโบท็อกจะไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ต้องรักษาด้วยวิธีอื่น ซึ่งถ้าไม่มั่นใจว่าปัญหาโหนกแก้มที่ตัวเองมีสามารถฉีดโบท็อกซ์ได้ไหม แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนค่ะ

ข้อดีข้อเสียโบท็อกโหนกแก้ม

ข้อดี – ข้อเสียโบท็อกโหนกแก้ม

ก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกโหนกแก้ม หลายคนอาจลังเลว่าหัตถการนี้คุ้มค่าหรือเหมาะกับตัวเองหรือไม่ เพราะแม้จะเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและเห็นผลค่อนข้างเร็ว แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่างเช่นกัน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น มาดูข้อดีและข้อเสียของการฉีดโบท็อกลดโหนกแก้มกันค่ะ

ข้อดีโบท็อกโหนกแก้ม

  • สามารถลดขนาดกล้ามเนื้อโหนกแก้มได้
  • ช่วยทำให้รูปหน้าดูละมุนขึ้น ไม่ดุ
  • เจ็บน้อยกว่าวิธีลดโหนกแก้มอื่นๆ

ข้อเสียโบท็อกโหนกแก้ม

  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องกลับมาฉีดซ้ำบ่อยๆ
  • ลดโหนกแก้มที่เกิดจากกล้ามเนื้อได้เท่านั้น ไม่สามารถลดโหนกแก้มใหญ่ที่เกิดจากกระดูก หรือไขมันได้

โบท็อกโหนกแก้มใช้กี่ยูนิต

ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการฉีดโบท็อกโหนกแก้มจะขึ้นอยู่กับขนาดกล้ามเนื้อ แต่โดยปกติแล้วจะใช้ประมาณ 25 ยูนิต หากไม่มั่นใจว่าควรจะต้องฉีดกี่ยูนิตไม่ต้องกังวล เพราะก่อนที่จะฉีดโบท็อกทุกครั้งแพทย์จะประเมินกล้ามเนื้อโหนกแก้มก่อนว่ามีมากแค่ไหน เพื่อคำนวณปริมาณที่ควรฉีดให้ได้อย่างเหมาะสม

ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้มกี่วันเห็นผล

หลังจากที่ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้มจะยังไม่เห็นผลลัพธ์หลังฉีดทันที เนื่องจากต้องรอโบท็อกเข้าไปหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อก่อน โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ถึงจะเริ่มเห็นผลว่ากล้ามเนื้อโหนกแก้มเริ่มนิ่ม และค่อยๆ เล็กลง และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนหลังฉีดโบท็อกครบ 1 เดือน

ฉีดโบท็อกโหนกแก้มอยู่ได้นานไหม

ระยะเวลาของโบท็อกสามารถอยู่ได้นานประมาณ 3 – 6 เดือน โดยขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ การดูแลหลังฉีดโบท็อก และการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ ซึ่งหลังจากที่โบท็อกทำงานครบกำหนดระยะเวลาแล้ว กล้ามเนื้อโหนกแก้มก็จะเริ่มกลับมาเหมือนเดิมทีละน้อยตามธรรมชาติ หากอยากให้กล้ามเนื้อโหนกแก้มลดขนาดลงเหมือนเดิมต้องฉีดโบท็อกซ้ำ แนะนำให้ฉีดโบท็อกทุกๆ 4 – 6 เดือน เพื่อคงสภาพผลลัพธ์ที่พอใจเอาไว้ค่ะ

โบท็อกโหนกแก้มราคาเท่าไร

ราคาของโบท็อกโหนกแก้มจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้เพราะโบท็อกในปัจจุบันมีให้เลือกใช้หลากหลายยี่ห้อ รวมถึงมาจากหลายๆ ประเทศ เช่น โบท็อกเกาหลี โบท็อกอเมริกา นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ และโปรโมชั่นโบท็อกของแต่ละคลินิกในตอนนั้น ซึ่งแต่ละที่จะมีราคาไม่เท่ากัน โดยปกติแล้วโบท็อกโหนกแก้มราคาประมาณ 3,000 – 20,000 บาท ที่ Vincent Clinic Skin มีราคาโบท็อกเริ่มต้นที่ 999 บาทค่ะ

วิธีลดแก้มอื่นนอกจากโบท็อกโหนกแก้ม

นอกจากโบท็อกลดโหนกแก้มมีวิธีไหนอีกบ้าง

เนื่องจากโบท็อกลดโหนกแก้มสามารถแก้ไขได้เฉพาะกล้ามเนื้อโหนกแก้มใหญ่เท่านั้น หากมีปัญหาโหนกแก้มใหญ่จากสาเหตุอื่นๆ จะต้องรักษาด้วยวิธีอื่น โดยวิธีลดโหนกแก้มมีทั้งหมดดังนี้

การฉีดเมโสแฟต (Meso Fat)

การฉีดเมโสแฟต เป็นวิธีลดไขมันสะสมบริเวณโหนกแก้มโดยใช้ตัวยาสลายไขมันเข้าไปช่วยสลายไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีโหนกแก้มใหญ่จากไขมันส่วนเกินมากกว่าปัญหากระดูกหรือผิวหย่อนคล้อย

ข้อดีของการฉีดเมโสแฟตคือเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถทำได้ง่าย โดยผลลัพธ์จะค่อย ๆ เห็นผลภายใน 2-4 สัปดาห์หลังการฉีด

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของเมโสแฟตคือไขมันอาจกลับมาสะสมใหม่ได้หากไม่มีการควบคุมน้ำหนัก หรือปรับพฤติกรรมการกิน นอกจากนี้ การฉีดเมโสแฟตต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจน และอาจมีอาการบวมแดงหรือช้ำบริเวณที่ฉีดในช่วงแรก

เทคโนโลยีเครื่องยกกระชับผิว

สำหรับผู้ที่มีปัญหาโหนกแก้มเด่นเนื่องจากผิวหย่อนคล้อย การใช้เทคโนโลยียกกระชับ เช่น Hifu , Ulthera และ Thermage สามารถช่วยให้ผิวตึงกระชับขึ้น ทำให้โหนกแก้มดูยกตัวและเรียวขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด

Hifu เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวกระชับขึ้นและช่วยปรับโครงหน้าให้เรียวขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ขณะที่ Ulthera ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ที่มีความแม่นยำสูงกว่า สามารถยกกระชับผิวได้ลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ผ่าตัดดึงหน้า ส่วน Thermage ใช้คลื่นวิทยุ RF ในการกระตุ้นคอลลาเจนและช่วยลดไขมันใต้ผิว

ข้อดีของเทคโนโลยียกกระชับคือไม่ต้องผ่าตัดและไม่มีแผลเป็น ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องพักฟื้น

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคืออาจรู้สึกเจ็บขณะทำ และผลลัพธ์ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือนกว่าจะเห็นผลเต็มที่ นอกจากนี้ ราคาค่อนข้างสูง และต้องทำซ้ำทุกปีเพื่อคงผลลัพธ์

การผ่าตัดลดโหนกแก้ม 

สำหรับผู้ที่มีโหนกแก้มใหญ่จากโครงสร้างกระดูก การผ่าตัดลดโหนกแก้มเป็นวิธีเดียวที่สามารถลดขนาดโหนกแก้มได้ถาวร โดยศัลยแพทย์จะตัดและปรับตำแหน่งของกระดูกโหนกแก้มใหม่เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น

ข้อดีของการผ่าตัดลดโหนกแก้มคือสามารถลดขนาดโหนกแก้มได้อย่างถาวร เห็นผลลัพธ์ชัดเจนและสามารถปรับรูปหน้าให้สมส่วนขึ้นตามต้องการ

อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดมีข้อเสียที่สำคัญคือเป็นหัตถการใหญ่ที่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานหลายสัปดาห์ อาจมีอาการบวม ช้ำ หรืออาการชาในบางจุดของใบหน้าในช่วงแรก นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ กระดูกสมานผิดรูป หรือผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler Injection)

การฉีดฟิลเลอร์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้โหนกแก้มดูเล็กลงโดยอาศัยการเติมเต็มบริเวณขมับ หรือ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลขึ้นและลดความเด่นของโหนกแก้ม

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คือสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด ไม่ต้องผ่าตัด และไม่มีแผลเป็น ฟิลเลอร์สามารถช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสมส่วนขึ้น

อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดคือฟิลเลอร์ไม่ใช่วิธีลดโหนกแก้มโดยตรง แต่เป็นการปรับสมดุลใบหน้า หากใช้ฟิลเลอร์คุณภาพต่ำหรือฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจทำให้ใบหน้าผิดรูปหรือเกิดก้อนแข็งใต้ผิวหนัง นอกจากนี้ ฟิลเลอร์มีอายุการใช้งานประมาณ 6-12 เดือน และต้องฉีดซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์

สรุป

โบท็อกโหนกแก้มสามารถลดโหนกแก้มได้ แต่ลดได้เฉพาะโหนกแก้มที่เกิดจากกล้ามเนื้อเท่านั้น โดยโบท็อกจะเข้าไปลดการทำงานของกล้ามเนื้อทำให้ขนาดกล้ามเนื้อลดลงเรื่อยๆ แต่ต้องกลับมาฉีดซ้ำหากอยากคงผลลัพธ์เอง หากต้องการฉีดโบท็อกเพื่อแก้ไขปรับรูปหน้าในบริเวณต่าง ๆ สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic Skin ซึ่งแพทย์จะคอยแนะนำคนไข้อย่างละเอียดค่ะ

Scroll to Top