ยกกระชับผิวเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพื่อช่วยปรับสภาพผิวให้เต่งตึง ลดความหย่อนคล้อย และคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวที่เสื่อมสภาพตามวัยหรือจากปัจจัยต่าง ๆ ในวงการความงามและการแพทย์ มีเทคนิคหลากหลายที่ถูกพัฒนาออกมาเพื่อยกกระชับผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการใช้คลื่นวิทยุ เลเซอร์ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่าง ๆ ที่เหมาะกับปัญหาผิวในแต่ละบริเวณ เช่น ใบหน้า คอ หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
ในบทความนี้ Vincent Clinic Aesthetic จะพามารู้จักกับกระบวนการยกกระชับผิว รวมถึงเทคนิคและวิธีการที่ได้รับความนิยม พร้อมคำแนะนำในการดูแลผิวหลังทำ เพื่อให้ผลลัพธ์ยาวนานและผิวของคุณดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ
Key Takeaways: ยกกระชับผิว
- การยกกระชับผิว คือหนึ่งในเทคนิคด้านความงามที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่เริ่มหย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึงและเรียบเนียนโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- เทคโนโลยียกกระชับผิวในปัจจุบันมีหลากหลายประเภท เช่น HIFU, Thermage, Ulthera , Morpheus8, คลื่นวิทยุ (RF) ซึ่งแต่ละชนิดมีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน เช่น การใช้พลังงานคลื่นเสียง พลังงานคลื่นวิทยุ หรือแสงเลเซอร์ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นลึกของผิว ส่งผลให้ผิวเกิดการหดตัวและกระชับขึ้น
- การยกกระชับสามารถทำได้กับหลายบริเวณที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่ว่าจะเป็น ใบหน้า กรอบหน้า เหนียง ลำคอ ต้นแขน หน้าท้อง หรือต้นขา ซึ่งแต่ละบริเวณอาจใช้เทคนิคและเครื่องมือที่แตกต่างกันเพื่อให้เหมาะกับลักษณะผิวและความลึกของปัญหา
- การยกกระชับผิว เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมี ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ หรือสูญเสียความยืดหยุ่นจากอายุที่เพิ่มขึ้น แสงแดด หรือการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่พร้อมผ่าตัดหรือไม่ต้องการให้มีรอยแผลเป็น
- ผลลัพธ์ของการยกกระชับผิวจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นในช่วง 1-3 เดือนหลังทำ เนื่องจากเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ โดยผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ 6 เดือนจนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น เทคโนโลยีที่ใช้ อายุ และการดูแลตัวเองหลังทำ
- หลังการยกกระชับผิว ควรดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น การทาครีมกันแดดเป็นประจำ หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนจัด เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน และหลีกเลี่ยงการขัดหรือถูผิวแรง ๆ ซึ่งจะช่วยยืดอายุผลลัพธ์และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง
การยกกระชับผิว คืออะไร?
การยกกระชับผิว คือกระบวนการที่ใช้เทคโนโลยีและวิธีการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นผิวให้กลับมาเต่งตึงและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหา ผิวหย่อนคล้อย ที่เกิดจากวัยที่เพิ่มขึ้น หรือการสูญเสียคอลลาเจนที่อาจมีสาเหตุมาจากการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือการโดนแสงแดดจัดเป็นเวลานาน
ตำแหน่งที่นิยมยกกระชับผิว
การยกกระชับผิวสามารถทำได้ในหลายตำแหน่งของร่างกายที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือขาดความยืดหยุ่น โดยแต่ละตำแหน่งจะมีวิธีการและเทคโนโลยีที่เหมาะสมแตกต่างกันไปตามความต้องการของแต่ละบุคคล เช่น ใบหน้า คอ และลำตัว
ผิวหน้า
ผิวหน้ามักจะมีปัญหาริ้วรอย และความหย่อนคล้อยโดยเฉพาะ บริเวณร่องแก้ม ใต้ตา และหน้าผาก เทคโนโลยีที่นิยมใช้ เช่น Thermage, Morpheus8 และ HIFU ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้ผิวหน้ากระชับขึ้น
ผิวคอ
ผิวคอมักถูกมองข้ามแม้ว่าจะมีปัญหาหย่อนคล้อยบริเวณใต้คางและแนวกรอบหน้าและลำคอ การยกกระชับผิวคอ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทำให้คอดูเรียบเนียนมากขึ้น เทคโนโลยีที่ใช้ได้แก่ Ultherapy, Morpheus8 และ Thermage เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและปรับโครงสร้างผิว
ผิวลำตัว
ผิวลำตัวมักเกิดการหย่อนคล้อยจากการลดน้ำหนักรวดเร็วหรือขาดการดูแล โดยเฉพาะบริเวณท้อง ต้นแขน และต้นขา การยกกระชับผิวลำตัวช่วยคืนความเรียบเนียนและกระชับให้กับผิว เทคนิคที่ใช้ เช่น HIFU, Thermage และเลเซอร์ ช่วยฟื้นฟูผิวลำตัวให้ดีขึ้น
เทคนิคการยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยม
เทคนิคการยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมมีหลายวิธีซึ่งแต่ละวิธีมีหลักการทำงานและข้อดีเฉพาะตัว โดยเทคนิคหลักที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่ การใช้เลเซอร์ การใช้คลื่นวิทยุ และการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงหรือ HIFU ซึ่งแต่ละวิธีต่างกันดังนี้
เลเซอร์ (Laser Treatments)
จะใช้พลังงานแสงในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวมีความกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น เหมาะกับการแก้ไขริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อยในหลายบริเวณ การใช้เลเซอร์มีประสิทธิภาพสูงและสามารถลงลึกได้ดี แต่บางครั้งอาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
คลื่นวิทยุ (Radio Frequency)
พลังงานคลื่นวิทยุ RF หรือ Radio Frequency จะส่งลงไปในชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว ช่วยให้ผิวดูเต่งตึงขึ้นโดยไม่ต้องพักฟื้นมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวเริ่มหย่อนคล้อย ข้อเสียคืออาจรู้สึกอุ่นหรือร้อนเล็กน้อยในระหว่างการทำ โดยในปัจจุบันมีเทคโนโลยี RF ที่ได้รับความนิยมหลายแบบ เช่น
- Thermage FLX เทคโนโลยี RF แบบ Monopolar ที่ยิงพลังงานลึกถึงชั้น SMAS และกระจายพลังงานอย่างสม่ำเสมอ เหมาะกับการยกกระชับผิวหน้า เหนียง กรอบหน้า และรอบดวงตา ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานโดยไม่ต้องผ่าตัด
- Morpheus8 ผสาน RF เข้ากับเข็มขนาดเล็ก (Microneedling) ยิงพลังงานลงในชั้นผิวผ่านเข็ม ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและปรับโครงสร้างผิวให้แน่น กระชับ ลดริ้วรอย และรูขุมขน ใช้ได้ทั้งใบหน้าและลำตัว
HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound)
HIFU เป็นใช้คลื่นเสียงความถี่สูงยิงลึกลงไปในชั้นผิวใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด จุดเด่นของวิธีนี้คือเห็นผลลัพธ์ได้เร็วและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น แต่ถ้าต้องการผลลัพธ์ชัดเจนต้องทำหลายครั้ง ปัจจุบันมีเครื่อง HIFU หลายแบรนด์ที่ได้รับความนิยม เช่น
- Ultraformer MPT เครื่อง HIFU ที่แม่นยำและครอบคลุมหลายระดับความลึก (1.5 / 3.0 / 4.5 / 6.0 mm) เหมาะกับการยกกระชับทั่วใบหน้า รวมถึงบริเวณรอบดวงตา กรอบหน้า และเหนียง
- Ulthera (Ultherapy) แบรนด์ HIFU ระดับ Medical Grade ที่ได้รับ FDA และใช้ Imaging Ultrasound ในการระบุตำแหน่งก่อนยิงเพื่อความแม่นยำสูงสุด ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงการดึงหน้า เหมาะกับผิวหย่อนคล้อยระดับกลาง-มาก
ตารางเปรียบเทียบเทคโนโลยียกกระชับผิว
ในหัวข้อนี้ได้สรุปเปรียบเทียบเทคโนโลยียอดนิยม เช่น Thermage, Ulthera, HIFU และ Morpheus8 ไว้ในตารางด้านล่างเพื่อให้คุณได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
เทคโนโลยี | พลังงาน | จุดเด่น | อยู่ได้นาน | เห็นผล |
Thermage FLX | RF | ยกทั่วหน้า เห็นผลเร็ว | 1–2 ปี | ทันที–3 เดือน |
Ulthera | HIFU | แม่นยำ มี Imaging | 1–2 ปี | 1–3 เดือน |
HIFU MPT | HIFU | หลายระดับลึก ครอบคลุม | 6–12 เดือน | 1–2 เดือน |
Morpheus8 | RF + เข็ม | กระชับ+ลดรูขุมขน รอยสิว | ~1 ปี | 2–3 สัปดาห์ |
หมายเหตุเพิ่มเติม
- Thermage FLX เหมาะกับผู้ที่มีผิวเริ่มหย่อนคล้อย แต่ไม่ถึงกับต้องผ่าตัด
- Ulthera เน้นความแม่นยำสูง เหมาะกับผิวหย่อนคล้อยระดับกลางถึงมาก
- HIFU ทั่วไป เหมาะกับผู้เริ่มต้น ต้องการความกระชับเบื้องต้น
- Morpheus8 ได้ทั้งยกกระชับและผลลัพธ์ด้านรูขุมขน/สิว/รอยแผล เหมาะกับผู้มีปัญหาผิวหลายด้านร่วมกัน
จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีแต่ละชนิดมีจุดเด่นที่ต่างกัน ทั้งระดับความลึก พลังงานที่ใช้ และระยะเวลาการเห็นผล ซึ่งเหมาะกับผิวและความต้องการที่แตกต่างกัน หากคุณยังไม่แน่ใจว่าเทคโนโลยีใดตอบโจทย์ผิวของคุณมากที่สุด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินสภาพผิวและแนะนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมอย่างแท้จริงค่ะ
ปัญหาผิวที่สามารถยกกระชับได้
ผิวของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้นหรือได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น แสงแดดหรือการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดปัญหาหย่อนคล้อย ริ้วรอย รวมถึงผิวไม่กระชับในหลายบริเวณ ซึ่งปัญหาผิวที่ยกกระชับได้มีดังนี้
ริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น
เป็นสัญญาณเริ่มต้นที่บ่งบอกว่าผิวกำลังสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับ เมื่อคอลลาเจนลดลง ผิวจะเริ่มหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอย การยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยี เช่น Thermage หรือ Morpheus8 สามารถกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา ส่งผลให้ริ้วรอยลดเลือนลง ผิวดูเรียบเนียนและมีความตึงกระชับมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าโดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัดหรือวิธีการรุนแรง
ผิวที่หย่อนคล้อยหลังการลดน้ำหนัก
หลังจากการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ผิวบางส่วนของร่างกายอาจหย่อนคล้อยเนื่องจากผิวสูญเสียความยืดหยุ่น และไม่สามารถหดตัวกลับได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ยกกระชับผิวด้วย HIFU, Ulthera หรือ Thermage โดยจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างผิว ส่งผลให้ผิวบริเวณที่หย่อนคล้อยกลับมาเรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์ขึ้น
ผิวบริเวณคอและกรอบหน้าไม่กระชับ
ผิวบริเวณคอและกรอบหน้าเป็นบริเวณที่มีความบอบบางและมักแสดงอาการหย่อนคล้อยได้ชัดเจน เทคโนโลยีอย่าง Morpheus8 หรือ Ultherapy สามารถช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวบริเวณคอและกรอบหน้ากระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการยกกระชับผิว
การยกกระชับผิวเป็นวิธีที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมากระชับ เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอาจแตกต่างกันไปตามอายุ สภาพผิว และเทคโนโลยีที่เลือกใช้
หลังจากทำการยกกระชับผิว ผิวจะมีความยืดหยุ่นและกระชับแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยจะลดลง หน้าดูเรียบเนียนมากขึ้น ใบหน้าดูยกขึ้นและได้รูป ส่งผลให้หน้าตึงกระชับ อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมเสริมความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง
ผลลัพธ์โดยปกติแล้วจะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วง 1-3 เดือนหลังทำ และอยู่ได้นานหลายเดือนถึง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลผิว การเลือกเทคนิค และการใช้ชีวิตประจำวัน
การดูแลผิวหลังการยกกระชับ
การดูแลผิวหลังทำอย่างถูกต้องมีความสำคัญมาก เพราะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง และช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพราะหลังทำผิวจะไวต่อแสงแดดมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30-50 และ PA+++ หรือสูงกว่า เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ลดการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและป้องกันการเกิดรอยดำหรือระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนจัด หลังทำโปรแกรมยกกระชับมาแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงและความร้อนจัดในช่วงหลังทำ เพราะผิวยังบอบบางและอาจเกิดการระคายเคืองหรืออักเสบได้
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน โดยการเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์หรือเซรั่มที่ไม่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ น้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารระคายเคือง ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิว เช่น เซราไมด์ กรดไฮยาลูโรนิก เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงการขัด ถู หรือสัมผัสผิวแรง ๆ ควรงดการสครับผิว หรือการนวดหน้าในช่วง 5-7 วันหลังทำ เพราะผิวยังบอบบาง อาจทำให้เกิดการอักเสบหรือช้ำได้ ควรล้างหน้าอย่างอ่อนโยนด้วยน้ำอุณหภูมิห้องและซับหน้าให้แห้ง
- งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เนื่องจากการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากอย่างน้อย 48-72 ชั่วโมงหลังทำ เพราะเหงื่ออาจทำให้ผิวระคายเคืองหรืออักเสบได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอและพักผ่อนอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผิวฟื้นตัวจากภายใน เพิ่มความชุ่มชื้น และส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยให้ผลลัพธ์ของการยกกระชับผิวดีขึ้นและยั่งยืน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการยกกระชับผิว
Q: การยกกระชับผิวต่างจากการศัลยกรรมอย่างไร?
A: การยกกระชับผิวเป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่มีแผลผ่าตัด เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบธรรมชาติและไม่อยากพักฟื้นนาน ส่วนการศัลยกรรมเหมาะกับผู้ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนและรวดเร็ว
Q: ทำยกกระชับผิวกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
A: การยกกระชับผิวจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และผิวจะกระชับขึ้นอย่างชัดเจนภายใน 2-3 เดือน แต่บางคนอาจต้องทำซ้ำ 1-3 ครั้ง
Q: ผลลัพธ์ของการยกกระชับผิวอยู่ได้นานแค่ไหน?
A: อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ สภาพผิว อายุ และการดูแลหลังทำ หากทำตามคำแนะนำจะช่วยยืดระยะเวลาผลลัพธ์ให้นานขึ้นและรักษาความกระชับของผิวได้ดี
Q: การยกกระชับผิวเจ็บไหม?
A: ยกกระชับผิวโดยทั่วไปจะมีความรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อยในระหว่างทำ เช่น รู้สึกอุ่น ร้อน หรือรู้สึกตึงที่ผิว แต่ก่อนทำจะมีการทายาชาเพื่อลดความเจ็บ
Q: ผิวแพ้ง่ายสามารถยกกระชับได้หรือไม่?
A: ผิวแพ้ง่าย สามารถยกกระชับได้ แต่ควรเลือกใช้เทคโนโลยีและวิธีการที่เหมาะสม เช่น Ulthera หรือ Morpheus8 รวมถึงปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ เพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษา
Q: เทคโนโลยียกกระชับแบบไหนเหมาะกับผิวคอหรือใต้คาง?
A: เทคโนโลยียกกระชับที่เหมาะกับผิวบริเวณคอและใต้คาง ได้แก่ Ultherapy, Morpheus8 และ Thermage โดยจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นลึกของผิว ทำให้ผิวคอและใต้คางดูตึงกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
Q: ยกกระชับผิวช่วยลดเหนียงหรือไขมันได้ไหม?
A: ช่วยลดเหนียงได้บ้าง โดยเฉพาะเครื่องมืออย่าง Thermage และ Morpheus8 ที่นอกจากจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแล้ว ยังช่วยลดไขมัน
สรุป
ยกกระชับผิวเป็นการดูแลผิวให้คงความแข็งแรง ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์จากภายใน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณผิวหน้า คอ หรือแม้แต่ลำตัว ซึ่งเทคโนโลยีในปัจจุบันช่วยให้สามารถฟื้นฟูผิวได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้เวลาพักฟื้นยาวนาน แต่ควรเลือกวิธีที่เหมาะสม หากต้องการยกกระชับผิวแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกทำวิธีไหนดี สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ได้ที่ Vincent Clinic Aesthetic ค่ะ