บทความ
ยกกระชับผิว ปรับผิวให้เต่งตึงลดความหย่อนคล้อย มีวิธีแบบไหนบ้าง
แชร์ :

ยกกระชับผิว ปรับผิวให้เต่งตึงลดความหย่อนคล้อย มีวิธีแบบไหนบ้าง

skin-tightening-methods
อยากอ่านอะไร จิ้มที่หัวข้อได้เลย!

ยกกระชับผิวเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพื่อช่วยปรับสภาพผิวให้เต่งตึง ลดความหย่อนคล้อย และคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวที่เสื่อมสภาพตามวัยหรือจากปัจจัยต่าง ๆ ในวงการความงามและการแพทย์ มีเทคนิคหลากหลายที่ถูกพัฒนาออกมาเพื่อยกกระชับผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการใช้คลื่นวิทยุ เลเซอร์ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่าง ๆ ที่เหมาะกับปัญหาผิวในแต่ละบริเวณ เช่น ใบหน้า คอ หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย

ในบทความนี้ Vincent Clinic Aesthetic จะพามารู้จักกับกระบวนการยกกระชับผิว รวมถึงเทคนิคและวิธีการที่ได้รับความนิยม พร้อมคำแนะนำในการดูแลผิวหลังทำ เพื่อให้ผลลัพธ์ยาวนานและผิวของคุณดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ

 Key Takeaways: ยกกระชับผิว

  • การยกกระชับผิว คือหนึ่งในเทคนิคด้านความงามที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่เริ่มหย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึงและเรียบเนียนโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
  • เทคโนโลยียกกระชับผิวในปัจจุบันมีหลากหลายประเภท เช่น HIFU, Thermage, Ulthera , Morpheus8, คลื่นวิทยุ (RF) ซึ่งแต่ละชนิดมีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน เช่น การใช้พลังงานคลื่นเสียง พลังงานคลื่นวิทยุ หรือแสงเลเซอร์ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นลึกของผิว ส่งผลให้ผิวเกิดการหดตัวและกระชับขึ้น
  • การยกกระชับสามารถทำได้กับหลายบริเวณที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่ว่าจะเป็น ใบหน้า กรอบหน้า เหนียง ลำคอ ต้นแขน หน้าท้อง หรือต้นขา ซึ่งแต่ละบริเวณอาจใช้เทคนิคและเครื่องมือที่แตกต่างกันเพื่อให้เหมาะกับลักษณะผิวและความลึกของปัญหา
  • การยกกระชับผิว เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมี ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ หรือสูญเสียความยืดหยุ่นจากอายุที่เพิ่มขึ้น แสงแดด หรือการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่พร้อมผ่าตัดหรือไม่ต้องการให้มีรอยแผลเป็น
  • ผลลัพธ์ของการยกกระชับผิวจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นในช่วง 1-3 เดือนหลังทำ เนื่องจากเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ โดยผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ 6 เดือนจนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น เทคโนโลยีที่ใช้ อายุ และการดูแลตัวเองหลังทำ
  • หลังการยกกระชับผิว ควรดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น การทาครีมกันแดดเป็นประจำ หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนจัด เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน และหลีกเลี่ยงการขัดหรือถูผิวแรง ๆ ซึ่งจะช่วยยืดอายุผลลัพธ์และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง

การยกกระชับผิว คืออะไร?

การยกกระชับผิว คือกระบวนการที่ใช้เทคโนโลยีและวิธีการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นผิวให้กลับมาเต่งตึงและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหา ผิวหย่อนคล้อย ที่เกิดจากวัยที่เพิ่มขึ้น หรือการสูญเสียคอลลาเจนที่อาจมีสาเหตุมาจากการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือการโดนแสงแดดจัดเป็นเวลานาน

ตำแหน่งที่นิยมยกกระชับผิว

ตำแหน่งที่นิยมยกกระชับผิว

การยกกระชับผิวสามารถทำได้ในหลายตำแหน่งของร่างกายที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือขาดความยืดหยุ่น โดยแต่ละตำแหน่งจะมีวิธีการและเทคโนโลยีที่เหมาะสมแตกต่างกันไปตามความต้องการของแต่ละบุคคล เช่น ใบหน้า คอ และลำตัว

ผิวหน้า

ผิวหน้ามักจะมีปัญหาริ้วรอย และความหย่อนคล้อยโดยเฉพาะ บริเวณร่องแก้ม ใต้ตา และหน้าผาก เทคโนโลยีที่นิยมใช้ เช่น Thermage, Morpheus8 และ HIFU ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้ผิวหน้ากระชับขึ้น

ผิวคอ

ผิวคอมักถูกมองข้ามแม้ว่าจะมีปัญหาหย่อนคล้อยบริเวณใต้คางและแนวกรอบหน้าและลำคอ การยกกระชับผิวคอ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทำให้คอดูเรียบเนียนมากขึ้น เทคโนโลยีที่ใช้ได้แก่ Ultherapy, Morpheus8 และ Thermage เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและปรับโครงสร้างผิว

ผิวลำตัว

ผิวลำตัวมักเกิดการหย่อนคล้อยจากการลดน้ำหนักรวดเร็วหรือขาดการดูแล โดยเฉพาะบริเวณท้อง ต้นแขน และต้นขา การยกกระชับผิวลำตัวช่วยคืนความเรียบเนียนและกระชับให้กับผิว เทคนิคที่ใช้ เช่น HIFU, Thermage และเลเซอร์ ช่วยฟื้นฟูผิวลำตัวให้ดีขึ้น

เทคนิคการยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยม

เทคนิคการยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมมีหลายวิธีซึ่งแต่ละวิธีมีหลักการทำงานและข้อดีเฉพาะตัว โดยเทคนิคหลักที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่ การใช้เลเซอร์ การใช้คลื่นวิทยุ และการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงหรือ HIFU ซึ่งแต่ละวิธีต่างกันดังนี้

เลเซอร์ (Laser Treatments)

จะใช้พลังงานแสงในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวมีความกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น เหมาะกับการแก้ไขริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อยในหลายบริเวณ การใช้เลเซอร์มีประสิทธิภาพสูงและสามารถลงลึกได้ดี แต่บางครั้งอาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน 

คลื่นวิทยุ (Radio Frequency)

พลังงานคลื่นวิทยุ RF หรือ Radio Frequency จะส่งลงไปในชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว ช่วยให้ผิวดูเต่งตึงขึ้นโดยไม่ต้องพักฟื้นมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวเริ่มหย่อนคล้อย ข้อเสียคืออาจรู้สึกอุ่นหรือร้อนเล็กน้อยในระหว่างการทำ โดยในปัจจุบันมีเทคโนโลยี RF ที่ได้รับความนิยมหลายแบบ เช่น

  • Thermage FLX เทคโนโลยี RF แบบ Monopolar ที่ยิงพลังงานลึกถึงชั้น SMAS และกระจายพลังงานอย่างสม่ำเสมอ เหมาะกับการยกกระชับผิวหน้า เหนียง กรอบหน้า และรอบดวงตา ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • Morpheus8 ผสาน RF เข้ากับเข็มขนาดเล็ก (Microneedling) ยิงพลังงานลงในชั้นผิวผ่านเข็ม ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและปรับโครงสร้างผิวให้แน่น กระชับ ลดริ้วรอย และรูขุมขน ใช้ได้ทั้งใบหน้าและลำตัว
    HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound)

HIFU เป็นใช้คลื่นเสียงความถี่สูงยิงลึกลงไปในชั้นผิวใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด จุดเด่นของวิธีนี้คือเห็นผลลัพธ์ได้เร็วและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น แต่ถ้าต้องการผลลัพธ์ชัดเจนต้องทำหลายครั้ง ปัจจุบันมีเครื่อง HIFU หลายแบรนด์ที่ได้รับความนิยม เช่น

  • Ultraformer MPT เครื่อง HIFU ที่แม่นยำและครอบคลุมหลายระดับความลึก (1.5 / 3.0 / 4.5 / 6.0 mm) เหมาะกับการยกกระชับทั่วใบหน้า รวมถึงบริเวณรอบดวงตา กรอบหน้า และเหนียง
  • Ulthera (Ultherapy) แบรนด์ HIFU ระดับ Medical Grade ที่ได้รับ FDA และใช้ Imaging Ultrasound ในการระบุตำแหน่งก่อนยิงเพื่อความแม่นยำสูงสุด ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงการดึงหน้า เหมาะกับผิวหย่อนคล้อยระดับกลาง-มาก 

ตารางเปรียบเทียบเทคโนโลยียกกระชับผิว

ในหัวข้อนี้ได้สรุปเปรียบเทียบเทคโนโลยียอดนิยม เช่น Thermage, Ulthera, HIFU และ Morpheus8 ไว้ในตารางด้านล่างเพื่อให้คุณได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

เทคโนโลยี พลังงาน จุดเด่น อยู่ได้นาน เห็นผล
Thermage FLX RF ยกทั่วหน้า เห็นผลเร็ว 1–2 ปี ทันที–3 เดือน
Ulthera HIFU แม่นยำ มี Imaging 1–2 ปี 1–3 เดือน
HIFU MPT HIFU หลายระดับลึก ครอบคลุม 6–12 เดือน 1–2 เดือน
Morpheus8 RF + เข็ม กระชับ+ลดรูขุมขน รอยสิว ~1 ปี 2–3 สัปดาห์

หมายเหตุเพิ่มเติม

  • Thermage FLX เหมาะกับผู้ที่มีผิวเริ่มหย่อนคล้อย แต่ไม่ถึงกับต้องผ่าตัด
  • Ulthera เน้นความแม่นยำสูง เหมาะกับผิวหย่อนคล้อยระดับกลางถึงมาก
  • HIFU ทั่วไป เหมาะกับผู้เริ่มต้น ต้องการความกระชับเบื้องต้น
  • Morpheus8 ได้ทั้งยกกระชับและผลลัพธ์ด้านรูขุมขน/สิว/รอยแผล เหมาะกับผู้มีปัญหาผิวหลายด้านร่วมกัน

จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีแต่ละชนิดมีจุดเด่นที่ต่างกัน ทั้งระดับความลึก พลังงานที่ใช้ และระยะเวลาการเห็นผล ซึ่งเหมาะกับผิวและความต้องการที่แตกต่างกัน หากคุณยังไม่แน่ใจว่าเทคโนโลยีใดตอบโจทย์ผิวของคุณมากที่สุด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินสภาพผิวและแนะนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมอย่างแท้จริงค่ะ

ปัญหาผิวที่สามารถยกกระชับได้

ผิวของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้นหรือได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น แสงแดดหรือการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดปัญหาหย่อนคล้อย ริ้วรอย รวมถึงผิวไม่กระชับในหลายบริเวณ ซึ่งปัญหาผิวที่ยกกระชับได้มีดังนี้

ริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น

เป็นสัญญาณเริ่มต้นที่บ่งบอกว่าผิวกำลังสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับ เมื่อคอลลาเจนลดลง ผิวจะเริ่มหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอย การยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยี เช่น Thermage หรือ Morpheus8 สามารถกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา ส่งผลให้ริ้วรอยลดเลือนลง ผิวดูเรียบเนียนและมีความตึงกระชับมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าโดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัดหรือวิธีการรุนแรง

ผิวที่หย่อนคล้อยหลังการลดน้ำหนัก

หลังจากการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ผิวบางส่วนของร่างกายอาจหย่อนคล้อยเนื่องจากผิวสูญเสียความยืดหยุ่น และไม่สามารถหดตัวกลับได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ยกกระชับผิวด้วย HIFU, Ulthera หรือ Thermage โดยจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างผิว ส่งผลให้ผิวบริเวณที่หย่อนคล้อยกลับมาเรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์ขึ้น

ผิวบริเวณคอและกรอบหน้าไม่กระชับ

ผิวบริเวณคอและกรอบหน้าเป็นบริเวณที่มีความบอบบางและมักแสดงอาการหย่อนคล้อยได้ชัดเจน เทคโนโลยีอย่าง Morpheus8 หรือ Ultherapy สามารถช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวบริเวณคอและกรอบหน้ากระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 

ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการยกกระชับผิว

การยกกระชับผิวเป็นวิธีที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมากระชับ เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอาจแตกต่างกันไปตามอายุ สภาพผิว และเทคโนโลยีที่เลือกใช้

หลังจากทำการยกกระชับผิว ผิวจะมีความยืดหยุ่นและกระชับแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยจะลดลง หน้าดูเรียบเนียนมากขึ้น ใบหน้าดูยกขึ้นและได้รูป ส่งผลให้หน้าตึงกระชับ อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมเสริมความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง

ผลลัพธ์โดยปกติแล้วจะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วง 1-3 เดือนหลังทำ และอยู่ได้นานหลายเดือนถึง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลผิว การเลือกเทคนิค และการใช้ชีวิตประจำวัน

การดูแลผิวหลังการยกกระชับ

การดูแลผิวหลังการยกกระชับ

การดูแลผิวหลังทำอย่างถูกต้องมีความสำคัญมาก เพราะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง และช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น

  • ทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพราะหลังทำผิวจะไวต่อแสงแดดมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30-50 และ PA+++ หรือสูงกว่า เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ลดการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและป้องกันการเกิดรอยดำหรือระคายเคือง
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนจัด หลังทำโปรแกรมยกกระชับมาแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงและความร้อนจัดในช่วงหลังทำ เพราะผิวยังบอบบางและอาจเกิดการระคายเคืองหรืออักเสบได้
  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน โดยการเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์หรือเซรั่มที่ไม่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ น้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารระคายเคือง ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิว เช่น เซราไมด์ กรดไฮยาลูโรนิก เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการขัด ถู หรือสัมผัสผิวแรง ๆ ควรงดการสครับผิว หรือการนวดหน้าในช่วง 5-7 วันหลังทำ เพราะผิวยังบอบบาง อาจทำให้เกิดการอักเสบหรือช้ำได้ ควรล้างหน้าอย่างอ่อนโยนด้วยน้ำอุณหภูมิห้องและซับหน้าให้แห้ง
  • งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เนื่องจากการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากอย่างน้อย 48-72 ชั่วโมงหลังทำ เพราะเหงื่ออาจทำให้ผิวระคายเคืองหรืออักเสบได้
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอและพักผ่อนอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผิวฟื้นตัวจากภายใน เพิ่มความชุ่มชื้น และส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยให้ผลลัพธ์ของการยกกระชับผิวดีขึ้นและยั่งยืน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการยกกระชับผิว

Q: การยกกระชับผิวต่างจากการศัลยกรรมอย่างไร?

A: การยกกระชับผิวเป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่มีแผลผ่าตัด เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบธรรมชาติและไม่อยากพักฟื้นนาน ส่วนการศัลยกรรมเหมาะกับผู้ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนและรวดเร็ว

Q: ทำยกกระชับผิวกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

A: การยกกระชับผิวจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และผิวจะกระชับขึ้นอย่างชัดเจนภายใน 2-3 เดือน แต่บางคนอาจต้องทำซ้ำ 1-3 ครั้ง

Q: ผลลัพธ์ของการยกกระชับผิวอยู่ได้นานแค่ไหน?

A: อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ สภาพผิว อายุ และการดูแลหลังทำ หากทำตามคำแนะนำจะช่วยยืดระยะเวลาผลลัพธ์ให้นานขึ้นและรักษาความกระชับของผิวได้ดี

Q: การยกกระชับผิวเจ็บไหม?

A: ยกกระชับผิวโดยทั่วไปจะมีความรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อยในระหว่างทำ เช่น รู้สึกอุ่น ร้อน หรือรู้สึกตึงที่ผิว แต่ก่อนทำจะมีการทายาชาเพื่อลดความเจ็บ

Q: ผิวแพ้ง่ายสามารถยกกระชับได้หรือไม่?

A: ผิวแพ้ง่าย สามารถยกกระชับได้ แต่ควรเลือกใช้เทคโนโลยีและวิธีการที่เหมาะสม เช่น Ulthera หรือ Morpheus8 รวมถึงปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ เพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษา

Q: เทคโนโลยียกกระชับแบบไหนเหมาะกับผิวคอหรือใต้คาง?

A: เทคโนโลยียกกระชับที่เหมาะกับผิวบริเวณคอและใต้คาง ได้แก่ Ultherapy, Morpheus8 และ Thermage โดยจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นลึกของผิว ทำให้ผิวคอและใต้คางดูตึงกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

Q: ยกกระชับผิวช่วยลดเหนียงหรือไขมันได้ไหม?

A: ช่วยลดเหนียงได้บ้าง โดยเฉพาะเครื่องมืออย่าง Thermage และ Morpheus8 ที่นอกจากจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแล้ว ยังช่วยลดไขมัน

สรุป

ยกกระชับผิวเป็นการดูแลผิวให้คงความแข็งแรง ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์จากภายใน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณผิวหน้า คอ หรือแม้แต่ลำตัว ซึ่งเทคโนโลยีในปัจจุบันช่วยให้สามารถฟื้นฟูผิวได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้เวลาพักฟื้นยาวนาน แต่ควรเลือกวิธีที่เหมาะสม หากต้องการยกกระชับผิวแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกทำวิธีไหนดี สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ได้ที่ Vincent Clinic Aesthetic ค่ะ

Scroll to Top