บทความ
กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกคืออะไร เกิดจากอะไร มีวิธีรักษาแบบไหนบ้าง
แชร์ :

กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกคืออะไร เกิดจากอะไร มีวิธีรักษาแบบไหนบ้าง

diastasis-recti-treatment
อยากอ่านอะไร จิ้มที่หัวข้อได้เลย!

กล้ามเนื้อหน้าท้องแยก หลายๆ คนคงไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และสงสัยว่าคืออาการแบบไหน เป็นอย่างไร ซึ่งกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกนั้นสามารถพบได้บ่อยหลังตั้งครรภ์ ในบทความนี้ Vincent Clinic Aesthetic จะพามารู้จักกับภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก วิธีรักษา และวิธีเช็กง่ายๆ ด้วยตัวเองว่ามีปัญหากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกไหม

Key Takeaways

  • กล้ามเนื้อหน้าท้องแยก (Diastasis Recti) คือภาวะที่กล้ามเนื้อหน้าท้องหลักแยกออกจากกัน ทำให้หน้าท้องยื่น หย่อนคล้อย และเสียความกระชับ
  • กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกพบบ่อยในคุณแม่หลังคลอด โดยเฉพาะผู้ที่ตั้งครรภ์หลายครั้ง อายุมาก ทารกตัวใหญ่ หรือมีพฤติกรรมออกกำลังกายผิดวิธี
  • สาเหตุอื่น ๆ เช่น ความเครียดสะสม ลดน้ำหนักเร็วเกินไป หรือท่าทางผิด (poor posture) ก็เพิ่มความเสี่ยงได้เช่นกัน
  • กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกสามารถตรวจด้วยตัวเองได้ โดยกดหน้าท้องระหว่างยกตัวขึ้น หากมีร่องกว้างเกิน 2 นิ้ว ถือว่าเข้าข่ายภาวะนี้
  • ภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกนี้ส่งผลต่อสุขภาพ เช่น ปวดหลัง เสียสมดุล เสี่ยงกรดไหลย้อน และส่งผลต่อบุคลิกภาพ
  • การรักษากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกมีหลายทางเลือก เช่น การออกกำลังกายฟื้นฟู ผ้ารัดหน้าท้องหลังคลอด เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ ไปจนถึงเทคโนโลยีไม่ผ่าตัดอย่าง Morpheus8 หรือการผ่าตัดในเคสรุนแรง
  • Morpheus8 ใช้พลังงาน RF ร่วมกับ microneedling ช่วยกระชับกล้ามเนื้อและผิวบริเวณหน้าท้อง โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้น
  • ราคาการรักษาขึ้นกับวิธีที่เลือก โดย Morpheus8 มีราคาประมาณ 15,000–30,000 บาท

กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกคืออะไร

ภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก (Diastasis Recti) คือ ภาวะที่กล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนหลักเกิดการแยกออกจากกัน เนื่องจากเนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่ยึดกล้ามเนื้อทั้งสองข้างให้ติดกันสูญเสียความยืดหยุ่น ความแข็งแรง เมื่อกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกออกจากกันจึงทำให้เกิดอาการหน้าท้องหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ อาจส่งผลให้มีหน้าท้องยื่นออกมา โดยกล้ามเนื้อหน้าท้องที่สำคัญมีทั้งหมด 4 ส่วนหลักที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน และมีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวและการทรงตัวของร่างกาย

Rectus Abdominis (กล้ามเนื้อหน้าท้องหลัก)

Rectus Abdominis หรือกล้ามเนื้อหน้าท้องหลัก เป็นกล้ามเนื้อที่สำคัญในการเคลื่อนไหวแบบงอตัวไปข้างหน้า หรือการย่อส่วนร่างกายเข้าหากัน นอกจากนี้ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับลำตัวและช่วยในการรักษาสมดุลขณะเคลื่อนไหว

External Abdominal Oblique (กล้ามเนื้อหน้าท้องด้านนอก) 

External Abdominal Oblique หรือกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านนอก เป็นกล้ามเนื้อที่อยู่ในตำแหน่งด้านข้างของลำตัว ทำหน้าที่ในการหมุนลำตัวไปทางซ้ายหรือขวา และยังมีบทบาทในการทำให้ลำตัวสามารถเคลื่อนไหวในทิศทางต่างๆ ได้อย่างอิสระ

Internal Abdominal Oblique (กล้ามเนื้อหน้าท้องด้านใน) 

Internal Abdominal Oblique หรือกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านใน จะอยู่ลึกกว่ากล้ามเนื้อ External Abdominal Oblique และทำหน้าที่คล้ายกันในการหมุนลำตัวทั้งซ้ายและขวา ช่วยในการเสริมสมดุลให้กับลำตัวในขณะเคลื่อนไหว

Transverse Abdominis (กล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนใน) 

Transverse Abdominis หรือกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนใน คือกล้ามเนื้อที่อยู่ลึกที่สุดในกลุ่มกล้ามเนื้อหน้าท้อง ทำหน้าที่ในการเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องเมื่อร่างกายทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความแข็งแรงหรือการทรงตัว เช่น การยกของหนักหรือการเคลื่อนไหวที่ต้องการสมดุล

สาเหตุกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกเกิดจากอะไร

สาเหตุกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกเกิดจากอะไร

ภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกจะส่งผลให้กล้ามเนื้อหน้าท้องขาดความกระชับ เกิดรอยแตกลาย และไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมได้ ซึ่งภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุดังนี้

ภาวะหลังคลอด 

ภาวะหลังคลอด เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก เนื่องจากในระหว่างการตั้งครรภ์ มดลูกจะขยายตัวเพิ่มขนาดขึ้นเพื่อรองรับทารก ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องต้องยืดออกตามไปด้วย การขยายตัวนี้อาจทำให้เนื้อเยื่อที่ยึดกล้ามเนื้อหน้าท้องสูญเสียความยืดหยุ่น เมื่อคลอดแล้วกล้ามเนื้อหน้าท้องมักจะไม่สามารถหดกลับเข้าสู่สภาพเดิมได้ โดยเฉพาะในกรณีของการตั้งครรภ์หลายครั้ง หรือการตั้งครรภ์เมื่ออายุมากขึ้น เช่น หลังอายุ 35 ปี นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่มีทารกน้ำหนักตัวมากหรือการตั้งครรภ์แฝดก็มีความเสี่ยงสูงในการเกิดภาวะนี้

ออกกำลังกายผิดวิธี 

ออกกำลังกายผิดวิธี มีหลายอย่าง เช่น การยกน้ำหนักมากเกินไป หรือการทำท่าที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ หรือความเครียดต่อกล้ามเนื้อหน้าท้อง ส่งผลให้กล้ามเนื้อไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ อาจทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกได้ 

ความเครียด 

ความเครียดทั้งทางจิตใจและร่างกายมีผลกระทบต่อการทำงานของเนื้อเยื่อ fascia ซึ่งมีหน้าที่รองรับยึดกล้ามเนื้อให้แน่นกระชับ หากความเครียดมีมากจะทำให้กล้ามเนื้อ fascia ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ จะส่งผลให้เกิดการขยายตัวของกล้ามเนื้อหน้าท้อง ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกได้

การพักผ่อนไม่เพียงพอ

หากพักผ่อนไม่เพียงพอ สามารถทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากความเครียดหรือการบาดเจ็บได้ช้าลง เมื่อกล้ามเนื้อไม่สามารถฟื้นตัวได้ดี ก็อาจนำไปสู่การแยกตัวของกล้ามเนื้อหน้าท้องได้

ภาวะหลังการลดน้ำหนัก 

หากการลดน้ำหนักเกิดขึ้นเร็วเกินไปหรือไม่ถูกวิธี กล้ามเนื้อหน้าท้องอาจจะไม่สามารถฟื้นตัวหรือกระชับตัวได้ดี ทำให้มีหน้าท้องที่ยื่นออกมาแม้ว่าน้ำหนักจะลดลงแล้วก็ตาม

กระดูกสันหลังแอ่น 

กระดูกสันหลังแอ่นหรือท่าทางการนั่ง ท่ายืนที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อหน้าท้องเกิดการยืดขยายหรือเคลื่อนไหวผิดรูป เมื่อมีการขยับหรือออกแรงในท่าที่ผิด กล้ามเนื้อหน้าท้องอาจไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมได้ ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกได้

คนที่มีหน้าท้องใหญ่มากในอดีต 

แม้ในปัจจุบันจะสามารถลดน้ำหนักและไขมันส่วนเกินออกไปได้แล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก เนื่องจากกล้ามเนื้อที่เคยยืดขยายมาก่อนอาจไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้อย่างสมบูรณ์ 

วิธีเช็กว่าเป็นกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกไหม

สำหรับการเช็กว่าเป็นกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกสามารถเช็กได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ดังนี้

  • นอนราบลงไปบนพื้น พร้อมกับงอเข่าทั้งสองข้าง และเท้าวางราบไปกับพื้น
  • วางมือทั้งสองข้างชิดติดกันโดยให้ปลายนิ้วมืออยู่บริเวณตรงกลางหน้าท้องระหว่างลิ้นปี่และสะดือ
  • ใช้ปลายนิ้วมือกดลงไปที่หน้าท้อง ค้างไว้ และให้มือขนานไปกับผิวหน้าท้อง
  • จากนั้นให้ยกตัวขึ้นเหมือนทำท่าซิทอัพ แต่เกร็งตัวไว้ในท่าที่กำลังยกตัวขึ้น
  • ขณะทำการยกตัวขึ้น ให้ใช้ปลายนิ้วสัมผัสที่หน้าท้องบริเวณที่คุณวางมือไว้

ถ้ากล้ามเนื้อหน้าท้องปกติ เมื่อทำการเกร็งหน้าท้อง กล้ามเนื้อจะตึงและแข็งขึ้นอย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าหากบริเวณที่มือกดจะไม่แข็งเหมือนปกติ แต่จะรู้สึกถึงร่องหรือช่องว่างที่ยุบลงไป และร่องนั้นอาจมีขนาดกว้างมากกว่า 2 นิ้ว แปลว่าเป็นกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก

ปัญหาที่เกิดจากกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก

ภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกสามารถก่อให้เกิดปัญหาหลายอย่างที่มีผลกระทบทั้งร่างกาย โดยปัญหาที่สามารถพบได้มีดังนี้

  • ปวดหลังและเอว  เมื่อกล้ามเนื้อหน้าท้องไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ จะทำให้เกิดการกระจายแรงที่ไม่สมดุลในบริเวณหลังและเอว จึงทำให้กระดูกสันหลังต้องรับภาระมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังส่วนล่างและปวดเอว
  • ความยากลำบากในการรักษาท่าทาง จะทำให้การยืนหรือนั่งในท่าทางที่ถูกต้องเป็นเรื่องยากขึ้น เพราะการทำงานของกล้ามเนื้อท้องที่ไม่สมบูรณ์จะส่งผลให้เกิดความเครียดที่กระดูกสันหลังและข้อต่อลดลง ส่งผลให้การเคลื่อนไหวต่างๆ เป็นไปได้ยากขึ้น
  • ความเสี่ยงในการเกิดภาวะที่เกี่ยวข้องกับช่องท้อง เช่น ภาวะกรดไหลย้อน หรือปัญหาการขับถ่าย เช่น ท้องผูก เนื่องจากกล้ามเนื้อหน้าท้องไม่สามารถช่วยรองรับแรงดันจากภายในช่องท้องได้ดี
  • ความเสี่ยงในการเกิดการบาดเจ็บ บาดเจ็บได้ง่ายขึ้นจากกิจกรรม เช่น การออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงดันในช่องท้อง หรือการยกของหนัก 
  • เสียบุคลิกภาพ (Poor posture) กล้ามเนื้อหน้าท้องไม่สามารถทำงานได้เต็มที่อาจทำให้เกิดท่าทางที่ไม่ดี เช่น การยืนโค้งหลังหรือเอียงไปข้างหน้า ซึ่งอาจทำให้บุคลิกภาพดูไม่ดีและส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในตัวเอง

รักษากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกด้วย Morpheus8

การรักษากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกและปัญหาหน้าท้องย้วยจากภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกด้วยเทคโนโลยี Morpheus8 เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถช่วยกระชับผิวหน้าท้องและฟื้นฟูสภาพผิวได้โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ซึ่งเป็นทางเลือกที่สะดวกและปลอดภัยสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดีโดยไม่ต้องผ่าตัด 

ซึ่ง Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่าง Microneedling และ Radio frequency (RF) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังลึก โดยการใช้เข็มขนาดเล็กที่มีการปล่อยพลังงาน RF เข้าไปในชั้นผิวที่ต้องการรักษา ทำให้เกิดการฟื้นฟูและกระชับผิวหน้าและผิวกายให้กลับมามีความยืดหยุ่นและกระชับมากขึ้นกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แยกจะค่อยๆ กลับมาประสานกันเหมือนเดิม

เจาะลึก : Morpheus8 หน้าท้อง ฟื้นฟู และยกกระชับผิวหน้าท้องให้เรียบเนียน

AW กล้ามเนื้อหน้าท้องแยก-01

วิธีรักษากล้ามเนื้อหน้าท้องแยก

การรักษากล้ามเนื้อหน้าท้องแยก มีหลายวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับปัญหาว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกมากน้อยแค่ไหน โดยมีวิธีรักษากล้ามเนื้อหน้าท้องดังนี้

ออกกำลังกายและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ 

การออกกำลังกายและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ เป็นวิธีการรักษาเบื้องต้นเน้นการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลาง เพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องให้แข็งแรงขึ้น และลดการแยกของกล้ามเนื้อ 

ใช้เครื่องมือกระตุ้นกล้ามเนื้อ 

วิธีรักษากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกที่ใช้เครื่องมือกระตุ้นกล้ามเนื้อ เช่น การกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMS) หรือการกระตุ้นด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electrical Muscle Stimulation) สามารถช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการออกกำลังกายหนักเกินไป 

ใช้ผ้ารัดหน้าท้องหลังคลอด 

การใช้ผ้ารัดหน้าท้องหลังคลอด เหมาะสำหรับผู้หญิงที่เพิ่งคลอดบุตร สามารถช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าท้องกลับมามีความกระชับมากขึ้น โดยผ้ารัดหน้าท้องจะช่วยรักษาท่าทางที่ถูกต้องและลดการขยายตัวของหน้าท้องในระยะหลังคลอด

การผ่าตัด 

ในกรณีที่กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกออกมากหรือไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมจนเกิดปัญหาด้านการเคลื่อนไหวและสุขภาพ การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกสุดท้ายที่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งการผ่าตัดสำหรับการรักษากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกมีหลายประเภท เช่น

  • Abdominoplasty Abdominoplasty หรือ Tummy Tuck การผ่าตัดในลักษณะนี้จะพับและเย็บส่วนกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แยกออกจากกัน เพื่อให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และทำให้หน้าท้องกระชับขึ้น
  • ผ่าตัดส่องกล้องการผ่าตัดส่องกล้อง เป็นการผ่าตัดด้วยการใช้เครื่องมือพิเศษที่มีขนาดเล็ก เพื่อลดขนาดของแผลและช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

รักษากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกราคาเท่าไร

สำหรับราคาการรักษากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกจะมีราคาไม่เท่ากัน แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวิธีรักษาที่ใช้ โดยอาจจะมีตั้งแต่ราคา 1,000 – 100,000 บาท ซึ่งราคารักษากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกด้วย Morpheus8 จะมีราคาประมาณ 15,000 – 30,000 บาท

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก

แม้ในบทความนี้เราจะอธิบายภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกไว้โดยละเอียดแล้ว แต่หลายคนที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้ อาจยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติม เช่น “ภาวะนี้หายได้เองไหม?”, “ผู้ชายเป็นได้หรือเปล่า?” หรือ “ออกกำลังกายแบบไหนไม่ควรทำ?”

ในส่วนนี้ Vincent Clinic Aesthetic ได้รวบรวมคำถามยอดนิยมที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก พร้อมคำตอบจากมุมมองทางการแพทย์ เพื่อให้คุณเข้าใจอาการได้ลึกขึ้น และวางแผนการดูแลหรือฟื้นฟูได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น

Q : กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกหายเองได้ไหม?

A : กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกสามารถฟื้นตัวเองได้ในบางราย โดยเฉพาะช่วงแรกหลังคลอด ประมาณ 6–12 สัปดาห์ หากมีการดูแลร่างกายและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม แต่หากเวลาผ่านไปแล้วยังไม่ดีขึ้น หรือรอยแยกกว้างมาก การฟื้นตัวเองตามธรรมชาติอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องใช้วิธีรักษาเพิ่มเติม

Q : ผู้ชายสามารถมีภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกได้หรือไม่?

A : ได้ค่ะ แม้จะพบได้น้อยกว่าผู้หญิง โดยเฉพาะหลังคลอด แต่ผู้ชายที่มีภาวะหน้าท้องโตมาก เช่น เคยอ้วน, มีพฤติกรรมออกกำลังกายผิดท่า, ยกของหนักบ่อยๆ หรือมีแรงดันในช่องท้องสูงต่อเนื่อง ก็สามารถเกิดภาวะนี้ได้เช่นกัน

Q : ออกกำลังกายแบบไหนไม่ควรทำ หากมีกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก?

A : ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่เพิ่มแรงดันในช่องท้องมากเกินไป เช่น ท่า Crunch หรือ Sit-up แบบเดิม, การยกน้ำหนักขนาดใหญ่โดยไม่กระชับแกนกลางลำตัว, ท่าที่ทำให้ท้องนูนออกกลางลำตัว และควรเปลี่ยนมาใช้ท่าที่เน้นการเกร็งแกนกลางลำตัว เช่น pelvic tilt, breathing exercises หรือ core stability แบบ low impact แทน

Q : กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกส่งผลต่อการตั้งครรภ์ครั้งถัดไปหรือไม่?

A : ใช่ค่ะ หากยังไม่ได้รับการรักษาหรือฟื้นฟูกล้ามเนื้อให้แข็งแรง อาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นในการเกิดภาวะแยกมากกว่าเดิมในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป และอาจมีอาการปวดหลังหรือหน้าท้องหย่อนคล้อยเร็วกว่าปกติ จึงแนะนำให้ฟื้นฟูสภาพกล้ามเนื้อให้ดีก่อนวางแผนมีบุตรอีกครั้ง

Q : การใช้ผ้ารัดหน้าท้องนานเกินไปมีผลเสียไหม?

A :  แม้ผ้ารัดหน้าท้องจะช่วยพยุงกล้ามเนื้อและกระตุ้นการฟื้นตัวได้ในระยะสั้น แต่การใช้นานเกินไปหรือพึ่งพามากเกินไปอาจทำให้กล้ามเนื้อแกนกลางขี้เกียจทำงาน จึงควรใช้ควบคู่กับการออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นจริง

Q : ภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกเกี่ยวข้องกับไส้เลื่อนหรือไม่?

A :  แม้ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงของไส้เลื่อน แต่หากมีแรงดันในช่องท้องสูงและผนังหน้าท้องอ่อนแรงจากการแยกของกล้ามเนื้อ อาจเพิ่มโอกาสเกิดไส้เลื่อนได้ ดังนั้นการรักษากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกก็มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าว

สรุป

กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกเป็นอาการที่กล้ามเนื้อหน้าท้องหลักแยกออกจากกันจนทำให้ท้องยื่นออกมาดูอ้วน และยังส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพหลายๆ อย่าง โดยส่วนมากจะพบภาวะนี้ได้จากคุณแม่หลังคลอด หรือคนที่เคยอ้วนมากๆ แต่ก็ยังมีวิธีรักษาได้หลายแบบ หากต้องการรักษาอาการกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกสามารถเข้ามาปรึกษากับ Vincent Clinic Aesthetic ได้ค่ะ

Scroll to Top