ฟิลเลอร์ Juvederm คืออะไร ดีไหม ราคาเท่าไร ฉีดแล้วอยู่ได้นานไหม

ฟิลเลอร์ Juvederm ฟิลเลอร์ยอดนิยมจากอเมริกาที่ในปัจจุบันมีวางขายไปหลายที่ทั่วโลก ใครที่กำลังสนใจอยากจะฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ แต่ไม่รู้จะฉีดรุ่นไหนดี ในบทความนี้จะมาแนะนำเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Juvederm อย่างละเอียดให้ทุกคนรู้จักกันค่ะ

ฟิลเลอร์ Juvederm คืออะไร

ฟิลเลอร์ Juvederm (ฟิลเลอร์จูวีเดิม)คือ ฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา เป็นหนึ่งในยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมสูง สามารถนำมาใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มผิว แก้ปัญหาริ้วรอย และปรับรูปหน้าได้หลายๆ จุด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาร่องแก้ม แก้มตอบ ร่องน้ำหมาก ก็สามารถฉีดเพื่อเติมเต็มได้ 

ซึ่งฟิลเลอร์ผลิตโดยบริษัท Allergan ที่เป็นบริษัทเดียวกับโบท็อกซ์ Allergan จึงเชื่อถือได้ว่าฟิลเลอร์ Juvederm มีความปลอดภัย รวมถึงยังได้รับรองความปลอดภัยจากอย.อเมริกา ยุโรป เกาหลี ไทย และอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลกด้วย ในไทยมีการนำเข้า และจัดจำหน่ายโดยบริษัท Allergan Thailand

จุดเด่นฟิลเลอร์ Juvederm

จุดเด่นของฟิลเลอร์ Juvederm นั้นอยู่ที่มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะในการผลิต ฟิลเลอร์ ขึ้นมา ทำให้ฟิลเลอร์คุณภาพสูง นำมาฉีดเติมเต็ม แก้ไขปัญหาได้ดี โดยมีการใช้ถึง 2 เทคโนโลยีในการผลิต คือ Hylacross Technology และ Vycross Technology โดยฟิลเลอร์ที่ผลิตจากเทคโนโลยี 2 ตัวนี้จะมีความแตกต่างกันดังนี้

Hylacross Technology

เป็นเทคโนโลยีแรกของฟิลเลอร์ Juvederm มีคุณสมบัติเด่นตรงที่สามารถอุ้มน้ำได้ดี เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง และคงที่ได้ดีไม่เคลื่อนไปอยู่ในจุดอื่น ฉีดแล้วฟูสวย เหมาะสำหรับบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวเยอะๆ

Vycross Technology

เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของ Filler Juvederm เทคโนโลยีนี้จะทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีคุณสมบัติที่สามารถยกกระชับได้ดี ปรับให้มีอาการบวมน้อยหลังจากฉีดฟิลเลอร์ และกลืนกับผิวได้ดีทำให้หลังฉีดดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน 

นอกจากเทคโนโลยีในการผลิตของฟิลเลอร์ Juvederm แล้วยังมีการออกแบบเข็มฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ง่ายต่อการฉีด ควบคุมปริมาณฟิลเลอร์ที่ปล่อยออกมาได้ ช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิดระหว่างฉีด

ฟิลเลอร์ Juvederm มีกี่รุ่น อยู่ได้นานไหม

ปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันหลายรุ่น โดยแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ทั้งความแข็งของเนื้อฟิลเลอร์ ระยะเวลา ซึ่งรุ่นฟิลเลอร์ Juvederm ที่ผ่านอย.ไทย มีทั้งหมดดังนี้

• Juvederm Ultra XC ใช้เทคโนโลยี Hylacross Technology ในการผลิต เนื้อฟิลเลอร์มีความนิ่มมาก อุ้มน้ำได้ดี ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน กลืนกับผิวได้ดี นำมาฉีดแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึกได้ ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 8 – 12 เดือน
• Juvederm Ultra Plus XC ใช้เทคโนโลยี Hylacross Technology ในการผลิต เนื้อฟิลเลอร์นิ่ม อุ้มน้ำได้ดี เมื่อฉีดไปแล้วมีความอิ่มฟู ฉีดเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกได้ดี ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
• Juvederm Voluma ใช้เทคโนโลยี Vycross Technology ในการผลิต เนื้อฟิลเลอร์แข็งปานกลาง แข็ง ปั้นทรงได้ง่าย และคงตัวได้ดี แต่ยังกลืนกับผิวได้ดีไม่เป็นก้อน ยกกระชับผิวได้ดี ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 18 – 24 เดือน
• Juvederm Volift ใช้เทคโนโลยี Vycross Technology ในการผลิต ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เหมาะสำหรับคนที่มีผิวบาง ฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอย เก็บรายละเเอียดบนผิวได้ดี หลังฉีดมีความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 – 18 เดือน
• Juvederm Vobella ใช้เทคโนโลยี Vycross Technology ในการผลิต เนื้อฟิลเลอร์มาก และละเอียด กลืนกลับผิวได้ดี ไม่เป็นก้อน มีความเป็นธรรมชาติหลังจากฉีด ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 18 – 24 เดือน
• Juvederm Volite ใช้เทคโนโลยี Vycross Technology ในการผลิต เนื้อฟิลเลอร์นิ่มละเอียด ใช้ฉีดในผิวชั้นตื้นได้ดี กลืนกับผิวได้ดีดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 8 เดือน
• Juvederm Volux ใช้เทคโนโลยี Vycross Technology ในการผลิต เนื้อฟิลเลอร์แข็งมากที่สุดกว่าทุกรุ่น โมเลกุลขนาดใหญ่ ปั้นขึ้นทรงได้ดี และคงรูปสวย เหมาะสำหรับฉีดเพื่อปรับรูปหน้า ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน

ฉีดฟิลเลอร์ Juvederm บริเวณไหนได้บ้าง

บริเวณที่สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้จะขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกใช้ โดยแต่ละรุ่นของฟิลเลอร์ Juvederm สามารถนำมาฉีดได้หลายบริเวณดังนี้

• Juvederm Ultra XC เหมาะสำหรับใช้ฉีดแก้ไขริ้วรอยในบริเวณต่างๆ เติมเต็มให้ริ้วรอยตื้นขึ้น เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก ริ้วรอยมุมปาก และยังสามารถนำมาฉีดเติมเต็มในจุดที่มีความเว้า ความลึก เช่น ขมับ แก้มตอบ หรือคางก็สามารถเติมได้
• Juvederm Ultra Plus XC เหมาะสำหรับใช้ฉีดเติมริ้วรอย และในบริเวณที่เว้าลึกลงไป เช่น ขมับ ฟิลเลอร์แก้มตอบ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก คาง
• Juvederm Voluma เหมาะสำหรับใช้ฉีดได้หลายบริเวณ เช่น ขมับ ใต้ตา แก้มตอบ หน้าแก้ม ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก คาง และนำมาฉีดที่กรอบหน้าเพื่อยกกระชับกรอบหน้า และทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น
• Juvederm Volift เหมาะสำหรับใช้ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก แก้มตอบ และสามารถฉีดเพื่อปรับรูปทรงปากได้
• Juvederm Vobella เหมาะสำหรับใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มริ้วรอยหน้าผาก ใต้ตา และแก้ไขปัญหาร่องปาก ฉีดฟิลเลอร์ปากเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก 
• Juvederm Volite เหมาะสำหรับใช้ฉีดผิวชั้นตื้น ฉีดทั่วๆ ผิวหน้าเพิ่มความชุ่มชื้น นำมาฉีด ฟิลเลอร์หน้าใส ได้ รวมถึงริ้วรอยใต้ตา และริ้วรอยลำคอ
• Juvederm Volux เหมาะสำหรับใช้ฉีดบริเวณที่ต้องการปรับรูปหน้า ยกกระชับหน้า เช่น ขมับ แก้มตอบ ฟิลเลอร์หน้าแก้ม คาง และกรอบหน้า 

ฟิลเลอร์ Juvederm ราคาเท่าไร

สำหรับราคาฟิลเลอร์ Juvederm จะไม่เท่ากัน ราคาแตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกใช้ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ และโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก ซึ่งฟิลเลอร์ Juvederm มีราคาประมาณ 8,000 – 20,000 บาท และที่ Vincent Clinic Skin ราคาฟิลเลอร์ Juvederm เริ่มต้นที่ 9,999 บาทค่ะ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ : โปรโมชั่น Filler Juvederm เติมความสวยทุกมุมมองและมิติ

วิธีเช็กฟิลเลอร์ Juvederm ของแท้

เพื่อความปลอดภัยก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้งต้องเช็คให้ดีว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นฟิลเลอร์แท้ ไม่ใช่ฟิลเลอร์ปลอม เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อันตราย เช่น ผิวอักเสบหลังฉีด ฟิลเลอร์ไหลไปอยู่จุดอื่น และย้อยเป็นก้อน ซึ่งวิธีการเช็กฟิลเลอร์ Juvederm มีดังนี้

• มีเลข Lot วันเดือนปีที่ผลิตฟิลเลอร์ และหมดอายุของฟิลเลอร์ไว้ที่ บนกล่องฟิลเลอร์ สติ๊กเกอร์ ถาดฟิลเลอร์ และบนหลอดฟิลเลอร์ ซึ่งทุกที่ต้องเหมือนกันทุกจุด
• มีฉลากภาษาไทย และเลขอย.ติดไว้บนกล่องฟิลเลอร์ 
• ต้องมีเอกสารเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Juvederm เป็นภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• โทรสอบถามเพื่อเช็กเลขผลิตภัณฑ์ และคลินิกที่ฉีดว่าใช้ของแท้กับบริษัท Allergan Thailiand ที่นำเข้า และจัดจำหน่าย ติดต่อได้ที่ 02-640-4999 ต่อ 1

สรุป

ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา ใช้เทคโนโลยีเฉพาะในการผลิตฟิลเลอร์ และมีฟิลเลอร์ให้เลือกใช้มากถึง 7 รุ่น โดยแต่ละรุ่นจะมีเนื้อฟิลเลอร์ และบริเวณที่เหมาะกับการนำมาฉีดที่แตกต่างกัน แต่ก่อนฉีดควรเช็กให้ดีว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ โดยที่ Vincent Clinic Skin ใช้ฟิลเลอร์ Juvederm ของแท้ทุกรุ่นสามารถตรวจเช็กได้ และแพทย์คอยให้คำปรึกษาก่อนฉีดทุกครั้งเพื่อให้ผลลัพธ์ของคนไข้ออกมาดีค่ะ