ฟิลเลอร์งานผิว หรือที่เรียกกันว่า ฟิลเลอร์ฉีดหน้าใส เป็นการฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่ชั้นผิวเพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวในหลายด้าน เช่น เพิ่มความชุ่มชื้น กระชับรูขุมขน ลดริ้วรอยเล็ก ๆ และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น แตกต่างจากฟิลเลอร์ที่ใช้เติมเต็มร่องลึกหรือเสริมโครงหน้า โดยฟิลเลอร์งานผิวเน้นให้ผิวดูสุขภาพดี ฉ่ำวาว และมีออร่าแบบเป็นธรรมชาติ
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักการฉีดฟิลเลอร์งานผิว บทความนี้จะพาไปรู้จักว่า ฟิลเลอร์ฉีดหน้าใสคืออะไร, มีแบรนด์ไหนบ้างที่ใช้ฉีดได้, ข้อดีของแต่ละยี่ห้อ, รวมถึง ราคาของฟิลเลอร์งานผิว เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าฟิลเลอร์ชนิดนี้เหมาะกับคุณหรือไม่
ฟิลเลอร์งานผิว คืออะไร
ฟิลเลอร์งานผิว หรือ ฟิลเลอร์หน้าใส คือ การฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ที่มีขนาดโมเลกุลเล็กและเนื้อนิ่มเข้าไปใต้ผิวหนังในบริเวณที่มีปัญหา โดย Hyaluronic Acid (HA) เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ แต่อายุมากขึ้น ผิวขาดการบำรุง ปริมาณ HA ในผิวจะลดลงส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้น
การฉีดฟิลเลอร์หน้าใสจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี กระชับรูขุมขนให้เล็กลง ผิวสวยขึ้นผิว ปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม อ่อนเยาว์ ดูอิ่มน้ำเหมือนกับผิว Glass Skin ช่วยลดริ้วรอยร่องตื้นเล็ก ๆ ให้ลดน้อยลง และยังช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้น
ซึ่งการฉีดหน้าใสนี้เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ต้องการเติมน้ำให้ผิว ปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น ต้องการผิวที่เรียบเนียน แก้ไขปัญหาผิวอย่างเร่งด่วน อยากได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และไม่การต้องพักฟื้นหลังทำ
ฉีดฟิลเลอร์งานผิว ยี่ห้อไหนบ้าง
สำหรับฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการนำมาฉีดฟิลเลอร์งานผิว ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มี เนื้อละเอียด ฉีดเก็บรายละเอียดผิวในชั้นตื้นได้ดี ฉีดแล้วไม่เป็นก้อนใต้ผิว มีความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ โดยยี่ห้อฟิลเลอร์ที่สามารถนำมาฉีดฟิลเลอร์งานผิวมีดังนี้
Restylane Vital Light
Restylane Vital Light เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด อนุภาคเล็ก มีความยืดหยุ่นสูง และสามารถอุ้มน้ำได้ดี ผลิตด้วยเทคโนโลยี NASHA Technology ซึ่งช่วยให้ฟิลเลอร์คงตัวและกระจายตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการแก้ไขในจุดเล็ก ๆ ที่ต้องการความละเอียดสูง หลังฉีดช่วยเติมความชุ่มชื้น ทำให้ผิวอิ่มฟูและดูเรียบเนียนขึ้น โดยผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังฉีด
Skinvive
Skinvive เป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ตัวใหม่ที่พัฒนาจาก Juvederm Volite มีส่วนประกอบของ กรดไฮยาลูรอนิกไมโครดรอปเล็ท ซึ่งมีเนื้อฟิลเลอร์ละเอียดระดับไมโคร สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวได้ดี ช่วย กระชับรูขุมขน แก้ปัญหาผิวแห้งขาดน้ำ และทำให้ผิวดูเนียนใสขึ้น โดยผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 9 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ
Belotero Revive
Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมหลัก 2 ชนิด ได้แก่ กรดไฮยาลูรอนิก และ กลีเซอรอล ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์เรียบเนียน กลืนเข้ากับผิวได้ดี ทำให้ผิวดูฉ่ำวาวและเพิ่มความยืดหยุ่นอย่างเป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์ตัวนี้ช่วย กักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน ลดปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ และช่วยให้ผิวเล่นแสงสวยขึ้น โดยผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 9 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ
Juvelook
Juvelook เป็น Skin Booster ที่ช่วยบำรุงและปรับสภาพผิวให้แข็งแรงขึ้น โดยมีส่วนประกอบหลักคือ PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) และ Hyaluronic Acid (HA) หลังฉีดจะเห็นผลลัพธ์ทันทีจาก ไฮยาลูรอนิก ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และในระยะยาว PDLLA จะค่อยๆ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอย และเพิ่มความยืดหยุ่น โดยผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ
Rejuran
Rejuran เป็น Skin Booster ในกลุ่ม เมโสหน้าใส ที่มีส่วนประกอบหลักคือ Polynucleotide (PN) เข้มข้น ซึ่งสกัดจาก DNA Salmon ที่มีโครงสร้างคล้ายกับ DNA ของมนุษย์ ช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างสภาพผิวให้แข็งแรง ลดเลือนริ้วรอย พร้อมเพิ่มความฉ่ำวาวและความยืดหยุ่นให้ผิว โดยผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 – 8 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ
Sculptra
Sculptra เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มีส่วนประกอบหลักคือ Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ซึ่งช่วย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ลดเลือนริ้วรอย และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น โดยผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ
มาเด้คอลลาเจน
มาเด้คอลลาเจน เป็นหนึ่งในกลุ่ม เมโสหน้าใส ที่ช่วย ดีท็อกซ์ผิว ขับสารพิษตกค้าง ลดการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งช่วยลดสิวและป้องกันการเกิดสิวใหม่ในอนาคต นอกจากนี้ ยังช่วยลดรอยสิว ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน และทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น โดยผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 1 – 2 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ
ฉีดฟิลเลอร์หน้าใส ตรงไหนได้บ้าง
ตำแหน่งสำหรับการฉีดฟิลเลอร์หน้าใสนั้นสามารถฉีดได้ทั่วใบหน้า แต่ก็สามารถฉีดเฉพาะจุดที่รู้สึกกังวลได้ เช่น มีริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม แต่โดยปกติแล้วถ้าอยากให้ผิวดูฉ่ำวาว สุขภาพดีแบบผิวกระจกจะฉีดฟิลเลอร์ไปทั่วใบหน้าเพื่อปรับสภาพผิว นอกจากผิวหน้าแล้วยังสามารถ ฉีดฟิลเลอร์มือ เพื่อลดริ้วรอยบนมือ และทำให้มือดูนุ่มชุ่มชื้นค่ะ
ฟิลเลอร์งานผิว ฉีดหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เพื่อปรับให้ผิวชุ่มชื้นนั้นฉีดเพียงแค่ครั้งเดียวก็สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำว่าผิวดูอิ่มน้ำมากขึ้น เนื่องจากฟิลเลอร์มีส่วนประกอบเป็นสารไฮยาลูรอนิก แอซิดที่เมื่อฉีดไปแล้วจะเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวทันที แต่ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์นั้นไม่ได้ถาวร ถ้าอยากให้ผิวหน้าฉ่ำวาวอยู่ตลอดต้องกลับมาฉีดฟิลเลอร์งานผิวซ้ำเมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลายค่ะ
ระหว่างฉีดฟิลเลอร์หน้าใสเจ็บไหม
อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยระหว่างทำ แต่ก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์หน้าใสจะมีการแปะยาชาเพื่อลดความเจ็บก่อนฉีด และตัวของฟิลเลอร์งานผิวส่วนมากจะมีส่วนผสมของยาชาอยู่ทำให้แทบไม่รู้สึกเจ็บเลย แต่ความเจ็บจะขึ้นอยู่กับการทนความเจ็บของแต่ละคนไปค่ะ
วิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์งานผิว ฟิลเลอร์หน้าใส
เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์งานผิวอยู่ได้นาน ผิวชุ่มชื้น ผิวสวยยาวนาน ควรดูแลดังนี้
- ควรดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน
- ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์
- ระวังการโดนความร้อนหลังฉีดประมาณ 2 สัปดาห์
- งดการแต่งหน้าหลังจากฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 1 วัน
- งดการออกกำลังกาย 2 วันหลังฉีดฟิลเลอร์
- งดการกินอาหารหมักดอง 2 สัปดาห์
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบ
- ระวังการบีบนวดหน้า 2 สัปดาห์
ฟิลเลอร์หน้าใสราคาเท่าไร
ราคาฟิลเลอร์งานผิวหรือหน้าใสจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ และโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก ในตอนนั้น ซึ่งฟิลเลอร์หน้าใสราคาประมาณ 8,000 – 16,000 บาท
ฟิลเลอร์งานผิว แตกต่างจาก ฟิลเลอร์เติมเต็ม หรือไม่
ฟิลเลอร์เติมเต็มและฟิลเลอร์งานผิวมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย ฟิลเลอร์เติมเต็ม เน้นใช้เพื่อ เติมเต็มร่องลึก เสริมโครงหน้า และเพิ่มวอลลุ่ม เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม คาง และขมับ ในขณะที่ ฟิลเลอร์งานผิว หรือ ฟิลเลอร์ฉีดหน้าใส มีเนื้อละเอียดกว่า ใช้เพื่อ เพิ่มความชุ่มชื้น กระชับรูขุมขน และทำให้ผิวฉ่ำวาว โดยฉีดเข้าไปในชั้นผิวตื้นเพื่อฟื้นฟูสภาพผิว หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างของฟิลเลอร์ทั้งสองประเภท รวมถึงตัวเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะกับคุณ สามารถอ่านต่อได้ที่ ฟิลเลอร์เติมเต็ม vs ฟิลเลอร์งานผิว
สรุป
ฟิลเลอร์งานผิวหรือฟิลเลอร์หน้าใสสามารถฉีดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น กระชับรูขุมขน และปรับสภาพผิวให้ดูฉ่ำวาว สุขภาพดี แต่ต้องเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มี เนื้อละเอียด เนื้อนิ่ม และสามารถกลืนกับผิวได้ดี เท่านั้น หากใช้ฟิลเลอร์ชนิดที่มีความหนืดหรือแข็งมากเกินไป อาจเสี่ยงต่อการเกิดก้อนหรือดูไม่เป็นธรรมชาติได้ ที่ Vincent Clinic Skin มีฟิลเลอร์งานผิวให้เลือกหลายตัว ซึ่งสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างตรงจุด พร้อมทั้งมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับผิวให้เรียบเนียน เงาสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ