บทความ
ฟิลเลอร์อเมริกาอยู่ได้นานแค่ไหน ราคาเท่าไร ต่างกับฟิลเลอร์อื่นไหม
แชร์ :

ฟิลเลอร์อเมริกาอยู่ได้นานแค่ไหน ราคาเท่าไร ต่างกับฟิลเลอร์อื่นไหม

ฟิลเลอร์อเมริกา
อยากอ่านอะไร จิ้มที่หัวข้อได้เลย!

ฟิลเลอร์อเมริกา เป็นหนึ่งฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมสูง เพราะถึงแม้ในปัจจุบันจะมีฟิลเลอร์จากหลายๆ ประเทศออกมา แต่ฟิลเลอร์อเมริกาก็ยังคงติดความนิยมอยู่เสมอ ในบทความนี้ Vincent Clinic จะพามารู้จักกับฟิลเลอร์อเมริกาหลายๆ เรื่อง ทั้งระยะเวลาของผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน ราคาเท่าไร แพงไหม และต่างจากฟิลเลอร์ประเทศอื่นๆ อย่างไรค่ะ

ฟิลเลอร์อเมริกาดีไหม

ฟิลเลอร์อเมริกายี่ห้ออะไร ดีไหม

ฟิลเลอร์อเมริกาในปัจจุบันมีเพียงยี่ห้อเดียวเท่านั้น คือ ฟิลเลอร์ Juvederm ซึ่งผลิตโดยบริษัท Allergan บริษัทเดียวกับโบท็อกซ์ Allergan ซึ่งเป็นโบท็อกซ์แบรนด์แรกของโลกจึงมั่นใจได้ว่า ฟิลเลอร์อเมริกา Juvederm มีความปลอดภัยสูงได้รับการรับรองความปลอดภัยจากหลายๆ ประเทศทั่วโลก ทั้งอย.อเมริกา ยุโรป และไทย

โดยฟิลเลอร์อเมริกา หรือ Juvederm นั้นผลิตด้วยเทคโนโลยี 2 แบบ คือ Hylacross Technology และ Vycross Technology ซึ่งฟิลเลอร์แต่ละรุ่นจะใช้เทคโนโลยีที่ไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นฟิลเลอร์อเมริกาที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Hylacross Technology ตัวฟิลเลอร์จะมีความยืดหยุ่นสูง คงตัวได้ดี ไม่เคลื่อนที่หลังจากฉีด ส่วนฟิลเลอร์ที่ผลิตด้วย Vycross Technology จะช่วยยกกระชับผิวได้ดี โดยยังคงความเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อนหลังจากฉีด แต่ละรุ่นของฟิลเลอร์อเมริกามีการออกแบบให้แตกต่างกัน ออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานในบริเวณต่างๆ โดยมีดังนี้

  • Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์ที่เนื้อนิ่ม และละเอียดที่สุด ออกแบบมาเพื่อฉีดฟื้นฟูผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เป็นฟิลเลอร์งานผิวโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับนำมาฉีดในผิวชั้นตื้น ปกติแล้วจะนำมาฉีดทั่วๆ ใบหน้า หรือถ้านำมาฉีดเฉพาะจุดจะเป็นบริเวณ ใต้ตา ลำคอ หรือมือ
  • Juvederm Ultra XC มีเนื้อฟิลเลอร์ที่นิ่มมาก มีความยืดหยุ่นสูง และสามารถอุ้มน้ำได้ดี จึงให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติเมื่อฉีดเข้าไปในผิว เนื้อฟิลเลอร์สามารถกลืนเข้ากับผิวได้ดีไม่เกิดอาการฟิลเลอร์เป็นก้อน รุ่นนี้เหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นกลางไปจนถึงลึกของผิว ช่วยเติมเต็มริ้วรอยตื้นๆ หรือในบริเวณที่ต้องการเพิ่มความยืดหยุ่น ปกติแล้วจะนำมาฉีดในบริเวณ เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ปาก ขมับ แก้มตอบ คาง 
  • Juvederm Vobella มีเนื้อฟิลเลอร์ที่ค่อนข้างนิ่ม ละเอียดมาก และบางเบา เป็นฟิลเลอร์ที่กลืนกับผิวได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนโดยไม่เกิดก้อน เหมาะสำหรับฉีดในชั้นตื้นถึงกลางของผิวหนัง และผู้ที่มีผิวบาง ช่วยเติมเต็มริ้วรอยตื้นๆ และเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวได้ ได้ ปกติจะนำมาฉีดในบริเวณ เช่น ฟิลเลอร์ปากเพิ่มให้ปากชุ่มชื้น ลดร่องปาก ทาลิปสติกสวยขึ้น ใต้ตา หน้าผาก
  • Juvederm Ultra Plus XC มีเนื้อฟิลเลอร์ที่นิ่ม สามารถในการเติมเต็มเพิ่มวอลลุ่มได้ รุ่นนี้เหมาะสำหรับฉีดในชั้นผิวกลางจนไปถึงลึก ช่วยเติมเต็มบริเวณที่มีการยุบตัวของผิวหรือร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธ์ที่อิ่มฟู และยังคงความเป็นธรรมชาติของผิว ปกติจะนำมาฉีดในบริเวณที่ผิว บุ๋มลึก เช่น ฟิลเลอร์ขมับ แก้มตอบ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และคางให้ชัดเจน และนำมาปรับรูปหน้าในบริเวณกว้างได้ ปกติจะนำมาฉีดในบริเวณ เช่น ฟิลเลอร์หน้าแก้ม ขมับ ใต้ตา แก้มตอบ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก คาง และกรอบหน้า
  • Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์เนื้อนุ่ม มีความยืดหยุ่นสูง สามารถกลืนกับผิวได้ดี ช่วยรายละเอียดผิวทำให้ดูเรียบเนียนหลังฉีด เหมาะสำหรับนำมาฉีดในชั้นกลางถึงลึกของผิว เติมเต็มในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวของผิวบ่อยได้ดี เช่น ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ใต้ตา ขมับ ร่องน้ำหมาก แก้มตอบ และยังสามารถใช้ปรับทรงริมฝีปากให้อวบอิ่มขึ้นได้
  • Juvederm Voluma มีเนื้อฟิลเลอร์ที่แข็งปานกลาง ไม่แข็งจนเกินไป คงรูปได้ดี ไม่เคลื่อนที่ไปจุดอื่นๆ ปั้นทรงได้ง่าย แต่ยังคงความกลืนกับผิวได้ดีเช่นเดียวกับฟิลเลอร์ที่เนื้อนิ่ม เหมาะสำหรับนำมาฉีดในชั้นผิวลึก ช่วยยกกระชับผิว เติมเต็มบริเวณใบหน้าที่ขาดวอลุ่ม เสริมโครงสร้างใบหน้า
  • Juvederm Volux เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็งที่สุด มีโมเลกุลขนาดใหญ่ คงรูปได้ดี เหมาะสำหรับฉีดในชั้นลึก ช่วยปรับรูปหน้า เสริมโครงสร้างต่างๆ ทดแทนกระดูกที่ทรุดตัว ไขมันในผิวที่ลดน้อยลง ยกกระชับผิวได้ดี ปกติแล้วจะนำมาฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าในจุดต่างๆ เช่น คาง กรอบหน้า แก้มตอบ ขมับ หน้าแก้ม

ฟิลเลอร์อเมริกาอยู่ได้นานแค่ไหน

ฟิลเลอร์อเมริกาอยู่ได้นานแค่ไหน

ระยะเวลาของผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์อเมริกาจะอยู่ได้นานประมาณ 8 – 24 เดือน แต่ก็ขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์อเมริกา เพราะแต่ละรุ่นนั้นมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน ทั้งโมเลกุลฟิลเลอร์ เนื้อฟิลเลอร์ ความยืดหยุ่น ซึ่งมีผลต่อผลลัพธ์การอยู่นานของฟิลเลอร์ โดยฟิลเลอร์อเมริกาแต่ละรุ่นอยู่ได้นานดังนี้

  • Juvederm Volite ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 – 8 เดือน
  • Juvederm Ultra XC ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 8 – 12 เดือน
  • Juvederm Vobella ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 8 – 12 เดือน
  • Juvederm Ultra Plus XC ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Juvederm Volift ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 – 18 เดือน
  • Juvederm Voluma ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 18 – 24 เดือน
  • Juvederm Volux ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 18 – 24 เดือน

ฟิลเลอร์อเมริการาคาเท่าไร

ราคาของฟิลเลอร์อเมริกาจะแตกต่างกันไปมีราคาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ และโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกในตอนนั้น ซึ่งฟิลเลอร์อเมริการาคาประมาณ 8,000 – 20,000บาท/CC หากมีราคาถูกกว่านี้มากๆ ควรตรวจสอบให้ละเอียดว่าเป็นฟิลเลอร์ของแท้ เพราะถ้าเกิดเป็นฟิลเลอร์ปลอมแล้วเผลอฉีดอาจเป็นตรายต่อร่าง ทำให้ใบหน้าผิดรูปได้ และยังทำการรักษาแก้ไขได้ยาก

ฟิลเลอร์อเมริกาต่างกับฟิลเลอร์เกาหลีอย่างไร

ฟิลเลอร์ที่นำมาเทียบกันอยู่บ่อยๆ และทำให้หลายคนตัดสินใจไม่ได้ คือ ฟิลเลอร์อเมริกา และฟิลเลอร์เกาหลี ซึ่งถึงแม้จะเป็นฟิลเลอร์เหมือนกันแต่ก็มีความแตกต่างกัน โดยความแตกต่างของทั้ง 2 ประเทศนี้จะต่างกันตรงที่ ระยะเวลาของผลลัพธ์ และราคาฟิลเลอร์เป็นหลัก ระยะเวลาของผลลัพธ์หลังฉีดของฟิลเลอร์อเมริกาจะอยู่ได้นานกว่าเกาหลี แต่ฟิลเลอร์อเมริกามีราคาที่ค่อนข้างแพงกว่าฟิลเลอร์เกาหลี ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ ของฟิลเลอร์อาจจะมีคล้ายกันอยู่บ้างเนื่องจากจะขึ้นอยู่กับรุ่น เพราะฟิลเลอร์หนึ่งยี่ห้อมีให้เลือกใช้หลายรุ่นค่ะ

สรุป

ฟิลเลอร์อเมริกามีอยู่เพียงยี่ห้อเดียว แต่ถึงแม้จะมีแค่รุ่นเดียวแต่ก็มีให้เลือกใช้หลายรุ่น โดยแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน ทั้งคุณสมบัติ บริเวณที่เหมาะสมในการฉีด ระยะเวลาของผลลัพธ์ และราคา ซึ่งสามารถฉีดได้อย่างปลอดภัยทุกรุ่นเพราะได้รับการรองรับจากหลายๆ ที่ หากต้องการฉีดฟิลเลอร์อเมริกาแต่ไม่รู้ว่าจะฉีดรุ่นไหนดี สามารถเข้ามาปรึกษากับ Vincent Clinic Skin โดยจะได้คุยกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง ให้คำแนะนำได้อย่างตรงจุดค่ะ

Scroll to Top