บทความ
Skinvive คืออะไร ฉีดแล้วช่วยเรื่องอะไร หน้าฉ่ำวาวไหม ราคาเท่าไร
แชร์ :

Skinvive คืออะไร ฉีดแล้วช่วยเรื่องอะไร หน้าฉ่ำวาวไหม ราคาเท่าไร

Skinviveคืออะไร
อยากอ่านอะไร จิ้มที่หัวข้อได้เลย!

Skinvive ฟิลเลอร์งานผิวตัวใหม่จากบริษัท Allergan ที่มีการพัฒนาต่อยอดจนได้รุ่นนี้ออกมา สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น รูขุมขนกว้าง ในบทความนี้จะพามาแนะนำให้รู้จักกับ Skinvive ว่าดีไหม ช่วยเรื่องอะไร ราคาเท่าไร และเรื่องอื่นๆ ที่ควรรู้ก่อนจะฉีด Skinvive

Skinvive คืออะไร

Skinvive (สกินวิฟฟ์) คือ ฟิลเลอร์ที่พัฒนาต่อยอดจากฟิลเลอร์ Juvederm Volite ผลิตโดยบริษัท Allergan Aesthetics ซึ่งเป็นแบรนด์เดียวกับ มีชื่อเต็มว่า Skinvive by Juvederm โดยมีการปรับแต่งพัฒนาใช้สารไฮยาลูรอนิกแบบไมโครดรอปเล็ต (Microdroplets of Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นไฮยาลูรอนิกที่มีโมเลกุลเล็กกว่ากรดไฮยาลูรอนิกทั่วไป กักเก็บน้ำได้มากกว่าปกติถึง 1000 เท่า ทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวได้ดี ฉีดเข้าสู่ผิวแล้วเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อนหลังฉีด เรียบเนียนไปกับผิว และยังช่วยเพิ่มการทำงาน AQP3 (Aquaporin 3) ที่เป็นโปรตีนทำหน้าที่ส่งน้ำให้เซลล์ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว กักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวยาวนาน และปลอดภัยต่อการนำมาฉีดได้การรับรองความปลอดภัยจากอย.อเมริกา รวมถึงอย.ไทย

ฉีด Skinvive ช่วยอะไร

Skinvive เป็นฟิลเลอร์ที่คล้ายกับ Skin Booster ซึ่งนอกจาการจะช่วยเติมเต็มผิวได้ ยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ด้วย โดยคุณสมบัตินี้ทำให้ Skinvive สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลายๆ อย่างดังนี้

  • ลดความแห้งของผิว ช่วยเติมเต็ม และกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างยาวนาน ทำให้ผิวที่เคยแห้งกร้าน ขาดน้ำ ผิวกลับมาดูสดใสสุขภาพดี และเมื่อผิวมีความชุ่มชื้นเพียงพอ จะช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้นและไม่เป็นคราบ
  • กระชับรูขุมขน ช่วยแก้ไขปัญหารูขุมขนที่กว้างให้รูขุมขนเล็กลง ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ลดปัญหาผิวไม่สม่ำเสมอ ทำให้ใบหน้าดูละเอียดและเนียนขึ้น
  • เติมเต็มริ้วรอย ช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ ที่อยู่บนผิว เช่น ริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา หน้าผาก ริ้วรอยรอบริมฝีปากให้ตื้นขึ้น 
  • เพิ่มความฉ่ำวาวให้ผิว ผิวดูชุ่มชื้นมากขึ้น ฉ่ำวาวราวกับผิวกระจก  และดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

Skinvive vs Volite ต่างกันไหม

Skinvive และ Juvederm Volite ต่างเป็นฟิลเลอร์ที่มีลักษณะคล้ายกัน แต่ Skinvive จะมีเนื้อที่ละเอียดกว่ามาก ซึ่งจริงๆ แล้ว Skinvive ได้ต่อยอดพัฒนามากจากฟิลเลอร์ Juvederm Volite ทำให้เหมาะกับการนำมาฉีดที่ผิวชั้นตื้นโดยตรง ปรับให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำขึ้นทันหลังทำ

Skinviveฉีดตรงไหนได้บ้าง

ฉีด Skinvive บริเวณไหนได้บ้าง

Skinvive สามารถฉีดได้หลายบริเวณที่ต้องการความชุ่มชื้น ปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น ผิวชุ่มชื้น ผิวเรียบเนียนขึ้น โดยบริเวณที่นิยมฉีดกันมีดังนี้

  • ทั่วใบหน้า ช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นทั่วทั้งผิวหน้า ทำให้ผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำวาว และเรียบเนียนขึ้น
  • หน้าผาก ลดความแห้งกร้านของผิว ปรับสภาพให้หน้าผากดูเรียบเนียนลดริ้วรอย
  • แก้ม บริเวณนี้เป็นจุดที่มักมีรูขุมขนกว้าง จะช่วยกระชับรูขุมขน และทำให้แก้มเรียบเนียน
  • ใต้ตา ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวรอบดวงตาดูสดใสขึ้น
  • หลังมือ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวบริเวณหลังมือดูอ่อนเยาว์ ไม่เหี่ยว
  • ลำคอ ลดริ้วรอยลำคอ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวบริเวณลำคอ ทำให้ดูเรียบเนียนและเต่งตึงขึ้น

Juvederm Skinvive อยู่ได้นานไหม

หลังฉีด Skinvive จะช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว มีความเรียบเนียน กระชับรูขุมขน และดูสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติทันที ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 9 เดือน โดยระยะเวลาของผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพผิว อายุ การใช้ชีวิต และการดูแลผิวหลังฉีด Skinvive

ควรฉีด Skinvive กี่ CC

สำหรับ Skinvive ปริมาณที่ควรฉีดจะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข โดยแพทย์จะเป็นคนประเมินให้ก่อนฉีดว่าควรต้องใช้กี่ CC เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน โดยปริมาณที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 2 – 4 CC แต่สามารถใช้ปริมาณเยอะกว่านี้ได้หากแพทย์ประเมินว่าจำเป็นต้องใช้ สำหรับ Skinvive 2 CC จะเหมาะกับคนที่มีผิวแห้งเล็กน้อย ต้องการเพิ่มความฉ่ำวาว และกระชับรูขุมขน ส่วน Skinvive 4 CC เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวแห้งขาดน้ำมาก ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นผิวอย่างเต็มที่ และมีปัญหารูขุมขนค่อนข้างกว้างค่ะ

ผลข้างเคียงหลังฉีด Skinvive

ผลข้างเคียงหลังจากที่ฉีด Skinvive ไปแล้วจะเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไป โดยหลังฉีดอาจมีอาการบวมเล็กน้อย และอาจมีรอยเข็มบนผิวเล็กน้อยซึ่งจะค่อยๆ หายไปเองประมาณ 2 – 3 วัน แต่ถ้าหากมีอาการปวดแสบร้อนหลังฉีด ผิวในบริเวณที่ฉีดเปลี่ยนสีมีความคล้ำผิดปกติ สัมผัสแล้วรู้สึกเจ็บมาก อาการบวมมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ลดลง เป็นผลข้างเคียงที่ไม่ปกติแนะนำให้รีบพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษา ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เพราะอาจทำให้อาการแย่ลง

วิธีดูแลหลังฉีดSkinvive

วิธีดูแลหลังฉีด Skinvive

หลังจากฉีด Skinvive ควรดูแลผิวให้ถูกต้องเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนาน และออกมาตามความคาดหวัง โดยมีวิธีดูแลหลังฉีด Skinvive ดังนี้

  • ดื่มน้ำเยอะๆ ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 1.5-2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้ Hyaluronic Acid (HA) ใน Skinvive ทำงานได้อย่างเต็มที่ และกักเก็บน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเยอะๆ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสและนวดผิวบริเวณที่ฉีด ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด ควรหลีกเลี่ยงการกด นวด หรือสัมผัสผิวแรง ๆ เพื่อไม่ให้ Skinvive เคลื่อนที่ไปอยู่ในจุดที่ไม่ต้องการ
  • งดการออกกำลังกายหนัก การคาร์ดิโอ วิ่ง หรือเวทเทรนนิ่ง จะกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และการเผาผลาญในร่างกาย อาจทำให้ฟิลเลอร์บวม และสลายได้ไวขึ้น
  • งดโดนความร้อน การอบซาวน่า แช่น้ำร้อน หรือโดนควันร้อน เพราะความร้อนไม่ถูกกับฟิลเลอร์ทำให้ฟิลเลอร์สลายได้ไวขึ้น

ทำ Skinvive พร้อมหัตถการอื่นได้ไหม

Skinvive สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เช่น การฉีดโบท็อกซ์เพื่อช่วยลดริ้วรอย และกระชับรูขุมขน หรือการฉีดCollagen Biostimulator และเพื่อเพิ่มคอลลาเจน และความยืดหยุ่นของผิว หากทำควบคู่กันจะทำให้สภาพผิวดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่วรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ เพราะความร้อนที่เลเซอร์ส่งออกมาสามารถทำให้ Skinvive สลายตัวได้ไวกว่าปกติ 

Skinvive ราคาเท่าไร

ราคา Skinvive จะไม่เท่ากันในแต่ละคลินิก ราคาจแตกต่างกันออกไป โดยขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ และโปรโมชั่นของคลินิกในตอนนั้น ซึ่ง Skinvive ราคาประมาณ 8000 – 15000 บาท/กล่อง ใน 1 กล่องจะมีอยู่ 2 CC ควรเช็คให้ดีก่อนฉีดว่ามีปริมาณครบ หากเป็นปริมาณ 1 CC ราคาจะถูกกว่านี้เนื่องจากเป็นการแบ่งขาย เพื่อความปลอดภัยต้องตรวจเช็กให้ดีว่าเป็นของแท้ทุกครั้ง และถ้าฉีด Skinvive แบบแบ่งขายยิ่งต้องเช็กให้ดีว่าเป็นของแท้เนื่องจากการแบ่งขายมักจะเปิดกล่องไว้แล้ว จึงต้องเช็กให้ดีว่าเลข Lot. บนกล่องฟิลเลอร์กับ ไซริงค์ฟิลเลอร์ตรงกัน

สรุป

Skinvive มีโมเลกุลเล็ก และฟิลเลอร์เนื้อละเอียดมาก เหมาะสำหรับนำมาฉีดเพื่อปรับสภาพผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวโดยเฉพาะ และยังช่วยกระชับรูขุมขน ลดริ้วรอยบนผิวได้ สำหรับใครที่ต้องการแก้ไขปัญาผิวหน้า อยากเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวสามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่คลินิก Vincent Clinic Skin ได้ค่ะ

Scroll to Top