ลบรอยแผลเป็น มีด้วยกันหลายวิธีซึ่งให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งระดับตื้น ระดับกลาง หรือระดับรุนแรง รูปทรงและขนาดก็แตกต่างกันออกไป จึงต้องเลือกวิธีที่เหมาะสมมากที่สุด โดยทั่วไปคนมักจะนิยมเลือกการทาครีมเพราะทำได้ง่าย ทำได้ด้วยตัวเอง หรือในรายที่ต้องการเห็นผลที่รวดเร็ว ชัดเจน ก็อาจจะเลือกใช้เครื่องเลเซอร์เข้ามาช่วยแก้ปัญหาได้เช่นกัน สำหรับใครที่ยังสงสัยว่าแผลเป็นเกิดขึ้นได้อย่างไร มีสาเหตุจากอะไรบ้าง รักษาได้ด้วยวิธีไหนบ้าง สามารถป้องกันได้ไหม ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความนี้
รอยแผลเป็น คืออะไร?
รอยแผลเป็น คือ รอยที่เกิดขึ้นบนผิวหนังหลังจากอาการบาดเจ็บหายไป สาเหตุมาจากการที่ร่างกายทำการสมานแผลตามธรรมชาติแต่เกิดภาวะของการที่คอลลาเจนมีการเพิ่มจำนวนมากกว่าปกติในบริเวณที่มีบาดแผลและมีการจัดเรียงของคอลลาเจนที่ไม่เป็นระเบียบจึงขาดความยืดหยุ่น มองเห็นความแตกต่างจากเนื้อเยื่อโดยรอบได้ชัดเจน กลายเป็นรอยแผลเป็น
รอยแผลเป็น มีกี่แบบ?
ชนิดของรอยแผลเป็น ถูกแบ่งออกเป็น 5 ชนิดหลัก ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันออกไปแต่ละรายบุคคล โดยมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งเสริมให้รอยแผลลุกลามรุนแรงได้ โดยแต่ละชนิดมีรายละเอียดดังนี้
- รอยแผลเป็นปกติ รอยแผลชนิดนี้จะมีความเรียบ สีซีดจาง และจะค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา
- รอยแผลเป็นคีลอยด์ มีลักษณะที่นูนใหญ่มากกว่าปกติ เกิดจากการที่ร่างกายผลิตคอลลาเจนเพื่อช่วยสมานแผลมากเกินไป พบได้บ่อยในคนที่มีผิวสีเข้ม ในบางรายอาจรู้สึกคันหรือรู้สึกเจ็บได้
- รอยแผลเป็นนูนโต มีลักษณะที่นูนออกมาอยู่ในขอบเขตของรอยแผลไม่ลุกลามออกนอกรอยแผลเดิมเหมือนแบบคีลอยด์ และยังมีคอลลาเจนที่ถูกผลิตออกมาสมานบาดแผลที่น้อยกว่าอีกด้วย ซึ่งอาจเกิดอาการคันหรือเจ็บได้บ้างขึ้นอยู่กับรายบุคคล
- รอยแผลเป็นชนิดหลุม มีลักษณะของการยุบตัวของผิวหนัง ซึ่งเกิดขึ้นได้จากปัญหาสิวที่รุนแรง สาเหตุมาจากคอลลาเจนที่ถูกผลิตออกมาเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวจากอาการบาดเจ็บมีน้อยเกินไป ซึ่งหลายคนรู้จักในชื่อของ หลุมสิว
- รอยแผลเป็นหดรั้ง สามารถพัฒนามาจากการเป็นรอยแผลเป็นแบบนูนโต มักจะพบบริเวณข้อต่อของร่างกายสาเหตุมาจากข้อต่อที่กำลังสมานแผลและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ อาจทำให้เกิดความพิการหรืออาการเจ็บที่มากเป็นพิเศษเพราะการเคลื่อนตัวของข้อต่อถูกกำจัดเอาไว้
ลบรอยแผลเป็น มีวิธีอะไรบ้าง?
ลบรอยแผลเป็นบนใบหน้า สามารถทำได้หลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการทายา หัตถการทางการแพทย์ หรือการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับระดับปัญหาและความต้องการของแต่ละคนที่แตกต่างกัน โดยแพทย์จะช่วยประเมินปัญหา และเลือกวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละรายบุคคลมากที่สุด โดยมีวิธีที่นิยมเลือกใช้แก้ปัญหา ดังนี้
- รักษาด้วยการทาครีม เป็นวิธีรักษาเบื้องต้นที่สามารถทำได้เองด้วยการซื้อครีมสำหรับแก้ปัญหารอยแผลเป็นซึ่งมักจะมีส่วนผสมของวิตามินและสารที่ช่วยสมานแผล ทำให้รอยแผลนุ่มลง สีจางลงกลืนกับผิวโดยรอบมากขึ้น เช่น วิตามินอี วิตามินเอ วิตามินบี3 สารAsiatic Acid สารมิวโคโพลีแซคคาไรด์ เป็นต้น วิธีนี้ผลลัพธ์ค่อนข้างช้า ใช้ระยะเวลานาน เหมาะกับคนที่รอยแผลขนาดเล็ก
- รักษาด้วยเลเซอร์ เป็นการใช้พลังงานลำแสงปล่อยลงสู่ชั้นผิวเพื่อเข้าไปช่วยปรับโครงสร้างผิวบริเวณรอยแผลเป็นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อใหม่ในส่วนที่ถูกปรับโครงสร้าง ช่วยให้ผิวแข็งแรงและมีความเรียบเนียนมากขึ้น โดยเครื่องเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมเลือกใช้คือ Discovery Pico ซึ่งสามารถช่วยเคลียร์ผิวกระจ่างใส ปรับ texture ผิวให้เรียบเนียน รูขุมขนกระชับ แก้ปัญหาหลุมสิวให้ตื้นขึ้น รวมถึงรักษาแผลเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- รักษาด้วยการฉายแสง เป็นการใช้พลังงานจากรังสีเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้รอยแผลเป็นนูนมากขึ้นกว่าเดิม ช่วยให้ดีขึ้นในระดับหนึ่ง หากทำอย่างต่อเนื่องความเข้มของรอยแผลจะจางลง ผิวเรียบเนียนมากขึ้น แต่ไม่ใช่วิธีรักษาให้หายขาดแบบสมบูรณ์
- รักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ เหมาะกับลักษณะของแผลเป็นที่ยุบตัวลงเป็นหลุม โดยสารเติมเต็มจะเข้าไปช่วยเติมเต็มเนื้อเยื่อส่วนที่ขาดหายไปทำให้รอยยุบตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนมากขึ้น แต่เนื่องจาก ฟิลเลอร์ สามารถสลายไปได้โดยไม่เกิดการตกค้างในร่างกายจึงต้องมีการฉีดเติมอยู่เรื่อย ๆ
- รักษาด้วยการผ่าตัด เป็นการใช้เทคนิคทางการแพทย์แก้ปัญหารอยแผลด้วยผ่าตัดเอาแผลเป็นออกไปและเย็บผิวหนังเข้าด้วยกันใหม่ ไม่เหมาะกับแผลเป็นขนาดใหญ่หรือแผลเป็นที่เพิ่งเกิด เป็นวิธีการที่มีค่าใช้จ่ายสูง มีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เกิดรอยแผลเป็นขึ้นใหม่หลังผ่าตัด
- รักษาด้วยการลอกผิว เหมาะกับการรักษาแผลเป็นที่ขนาดเล็กหรือตื้นเกิดบนชั้นผิวหนังกำพร้า ด้วยการใช้กรดผลไม้เข้ามาช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก กระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่มาทดแทน ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อช่วยควงคุมความเข้มข้นให้เหมาะสม หากใช้ความเข้มข้นสูงจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง ผิงบางไวต่อแสง รวมไปถึงอาจทำให้เกิดความหมองคล้ำหรือจุดด่างดำได้
- รักษาด้วยการฉีดสเตียรอยด์ เหมาะกับรอยแผลเป็นที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่เกินระยะเวลา 1 ปี ช่วยลดความนูน ทำให้แผลนิ่มลง หากทำอย่างต่อเนื่องสามารถทำให้แผลเป็นเรียบเนียนได้ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ดีระดับปานกลาง โดยต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงตามมา
รอยแผลเป็น มีวิธีป้องกันและดูแลอย่างไร?
รอยแผลเป็น สามารถป้องกันได้ตั้งแต่เริ่มเกิดบาดแผลโดยไม่ต้องรอแก้ไขปัญหาภายหลัง ซึ่งมีวิธีป้องกันและดูแลตัวเองดังนี้
- หลังจากเกิดบาดแผลขึ้นควรทำความสะอาดทันทีด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสะอาด ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่แผลและเกิดการอักเสบติดเชื้อลุกลามทำให้เนื้อเยื่อถูกทำลายมากขึ้น
- ใส่ยาฆ่าเชื้อหรือทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อเพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อ
- ไม่ควรให้แผลถูกน้ำหรือเกิดความอับชื้น รวมถึงทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอ
- ในระยะของแผลที่สมานตัวหรือสะเก็ดหลุดแล้วแนะนำให้ใช้ยาทาช่วยลดรอยแผลเป็นอย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการเสียดสี สัมผัส หรือกระแทกบริเวณรอยแผล
- งดการแกะ เกา หรือแคะ สะเก็ดแผลเพื่อลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็นให้น้อยลง ควรปล่อยให้สะเก็ดหลุดออกไปเอง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดในบริเวณที่มีแผลเป็นเกิดขึ้นเพราะจะทำให้สีผิวบริเวณนั้นเข้มมากขึ้น และควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ
ลบรอยแผลเป็น ราคาเท่าไหร่?
ลบรอยแผลเป็นบนใบหน้า มีด้วยกันหลายวิธีซึ่งแพทย์จะเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิว ระดับปัญหา ประเภทของแผลเป็น ขนาด และความลึกของรอยแผล รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษา สุดท้ายคือความต้องการของแต่ละรายบุคคลที่แตกต่างกันออกไป ค่าใช้จ่ายในการรักษาจึงไม่เท่ากัน แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับแพทย์โดยตรงเพื่อรับคำปรึกษาที่ถูกต้องครบถ้วนมากที่สุด
ตัวอย่างวิธีการรักษาและราคา
การฉีดยารักษาแผลเป็น : เหมาะสำหรับแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 500 บาทต่อ CC
การฉีดโบท็อกซ์ลบรอยแผลเป็น : ราคาอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท
การกรอแผลเป็น : ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 5,000 บาท
การผ่าตัดตกแต่งแผลเป็น : ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 6,000 บาท
การรักษาด้วยเลเซอร์ : เช่น เลเซอร์ Pico Laser ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 790 บาทต่อครั้ง
สรุป
ลบรอยแผลเป็น อีกหนึ่งความต้องการของใครหลายคนที่ต้องการความมั่นใจ อยากเคลียร์ผิวกระจ่างใสเรียบเนียน สนุกกับการใช้ชีวิตและแต่งตัวตามเทรนด์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งมีด้วยกันหลายวิธีขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ของแพทย์ให้เหมาะกับระดับปัญหาและความต้องการของคนไข้แต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน หากใครที่ต้องการดูแลผิวพรรณ รักษารอยแผลเป็นได้อย่างเห็นผล โดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic เพื่อให้แพทย์ช่วยออกแบบการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัย