รวมวิธีรักษารอยสิว ทำไมรอยสิวหายยาก ทำอย่างไรให้รอยสิวหายไวขึ้น

วิธีรักษารอยสิว คงเป็นสิ่งหลายๆ คนอยากจะหา อยากรู้ว่ามีวิธีไหนบ้าง อยากรักษาให้หายไว ในบทความนี่จะมาแนะนำเกี่ยวกับวิธีรักษารอยสิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีรักษารอยสิวด้วยหัตถการ หรือวิธีรักษารอยสิวแบบธรรมชาติค่ะ

ทำไมรอยสิวไม่หายสักที

การที่รอยสิวไม่หายสักทีเป็นเพราะว่ารอยสิวบางประเภทจะอยู่บนผิวอย่างยาวนานถึงจะค่อยๆ หายไป หรือไม่สามารถหายเอง โดยรอยสิวแต่ละประเภทสามารถอยู่ได้นานดังนี้

• รอยดำ รอยดำสามารถจางลงเองได้ แต่ใช้เวลาประมาณ 4 – 6 เดือนหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับระดับความเข้มของเม็ดสี
• รอยแดง รอยแดงสามารถจางลงได้เร็วกว่ารอยดำ สามารถจางลงเองได้ โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 – 4 เดือน 
• หลุมสิว เป็นรอยสิวที่ลึกลงไปในชั้นผิว ไม่สามารถหายไปเองได้เหมือนรอยดำหรือรอยแดง ต้องรักษาเท่านั้น

รักษารอยสิวด้วยหัตถการ

หัตถการที่รักษารอยสิวมีด้วยกันหลากหลายประเภทบางหัตถการก็สามารถรักษารอยสิวได้ทุกประเภท บางหัตถการก็สามารถรักษารอยสิวได้แค่บางประเภท ไม่สามารถรักษารอยสิวครบทุกประเภทได้ โดยหัตถการที่สามารถรักษาปัญหารอยสิวได้มีดังนี้

รักษารอยสิวด้วยเลเซอร์

เลเซอร์สามารถช่วยรักษารอยสิวได้หลายประเภทไม่ว่าจะเป็นรอยดำ รอยแดง หรือหลุมสิว โดยมีเครื่องเลเซอร์หลายๆ ชนิด ที่นิยมใช้ในการรักษารอยสิวโดยมีดังนี้

Pico Laser

ใช้พลังงานแสงที่มีความเร็วสูงถึงระดับพิโควินาที (หนึ่งพันล้านล้านวินาที) ทำให้รักษาได้อย่างรวดเร็ว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและผิวใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยรักษารอยสิวทั้งรอยดำและรอยแดงดีขึ้น อีกทั้ง Pico ยังสามารถรักษาหลุมสิวได้ทุกประเภท ตั้งแต่หลุมสิวตื้นไปจนถึงหลุมสิวลึก Rolling Scar Box Scar และ Ice Pick Scar

เจาะลึก : Pico laser คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?

Q-Switch Laser

ตัวเครื่องใช้คลื่นแสงที่มีความเข้มข้นสูงเพื่อกำจัดเม็ดสีที่ไม่ต้องการและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิว Q-Switch Laser สามารถรักษารอยสิวทั้งรอยดำ และรอยแดง ทำให้รอยสิวจางลงและผิวกลับมาเรียบเนียน

Vbeam Laser

ใช้แสงสีชมพูเพื่อรักษารอยแดงจากสิวและปัญหาผิวที่มีเส้นเลือดฝอยแตก ช่วยลดอาการอักเสบและทำให้รอยแดงจางลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Fractional CO2 Laser

ใช้พลังงานแสงในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้ผิวเรียบเนียน ช่วยรักษาหลุมสิวทุกประเภทและทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น สามารถรักษาหลุมสิว Rolling Scar, Box Scar และ Ice Pick Scar ได้ดี

IPL

ใช้พลังงานแสงที่มีหลายความยาวคลื่น เพื่อรักษารอยสิวและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยรักษารอยดำและรอยแดงจากสิวให้รอยสิวจางลง และช่วยรักษาหลุมสิว Rolling Scar ที่ไม่ลึกมาก

เจาะลึก : IPL คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ต่างจากเครื่องเลเซอร์แบบอื่นไหม?

ซึ่งที่ Vincent Skin Center มีเครื่อง Discovery Pico ที่สามารถรักษารอยสิวได้ทุกประเภททั้งรอยดำ รอยแดง หลุมสิว ปรับให้ผิวหน้ากลับมาสม่ำเสมอ ผิวกระจ่างใสขึ้น โดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวเป็นคนยิงเลเซอร์ให้ทุกครั้ง และเป็นเครื่องแท้สามารถตรวจสอบได้ก่อนทำเลเซอร์

เมโสหน้าใสลดรอยสิว

การฉีดเมสโสหน้าใสสามารถช่วยลดรอยสิวได้ โดยจะช่วยรักษารอยแดงจากสิว และรอยดำด้วย เพราะส่วนผสมของ เมโสหน้าใส มีวิตามินหลายๆ ชนิดที่มีประโยชน์กับผิว ช่วยลดรอยสิวได้ดี รวมถึงยังช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส ผิวแข็งแรงขึ้น ลดการเกิดสิวที่เป็นต้นกำเนิดของรอยสิว แต่เพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนว่ารอยสิวลดลงควรฉีดเมโสหน้าใสติดต่อกัน 5 ครั้ง ห่างกันอาทิตย์ละครั้ง และควรมาฉีดซ้ำทุกๆ 2 – 3 สัปดาห์ เพื่อคงสภาพผิวที่ดีเอาไว้

ฟิลเลอร์หลุมสิว

สำหรับคนที่มีปัญหารอยสิวประเภทหลุมสิว อยากแก้ไขปัญหาหลุมสิวแบบเร่งด่วนการ ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว สามารถช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้ทันทีหลังฉีด ไม่ต้องรอผลลัพธ์ แต่ฟิลเลอร์หลุมสิวไม่สามารถแก้ไขหลุมสิวได้ทุกประเภทได้ จะแก้ได้เฉพาะหลุมสิวที่ไม่มีพังผืดอย่าง Rolling scar และ Box Scar เท่านั้น ถ้าเป็นหลุมสิวที่มีพังผืดอย่าง Ice Pick Scar ต้องทำการเลาะพังผืดหลุมสิวก่อนถึงจะฉีดได่ค่ะ

Subcision หลุมสิว

Subcision เป็นวิธีการรักษารอยสิวประเภทหลุมสิวที่ใช้เทคนิคการตัดเลาะพังผืดใต้ผิวหนัง โดยจะใช้เข็มขนาดเล็กสอดเข้าไปในผิวหนังเพื่อทำการตัดเลาะพังผืดที่ทำให้หลุมสิวเกิดความลึก วิธีนี้ช่วยสร้างช่องว่างในหลุมสิวและกระตุ้นให้ร่างกายเริ่มกระบวนการซ่อมแซมผิวใหม่ โดยการสร้างคอลลาเจนที่ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นและผิวเรียบเนียนขึ้น เหมาะสำหรับการรักษาหลุมสิวประเภท Rolling Scar และ Box Scar การทำ Subcision ควรทำครั้งละ 1 เดือนติดต่อกัน 3 ครั้งขึ้นไป เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยั่งยืน

วิธีรักษารอยสิวแบบธรรมชาติ

การลดรอยสิวด้วยวิธีธรรมชาติจจะเป็นวิธีลดรอยสิวที่ไม่ได้เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ แต่ต้องใช้ระยะเวลาสักพัก และทำอย่างสม่ำเสมอถึงจะเห็นผลลัพธ์ โดยวิธีรักษารอยสิวแบบธรรมชาติมีดังนี้

ครีมลดรอยสิว

การเลือกใช้ครีมลดรอยสิวเป็นหนึ่งในวิธีที่สามารถช่วยลดเลือนรอยสิวได้ดี โดยครีมที่มีส่วนผสมเฉพาะที่ช่วยฟื้นฟูผิว เช่น วิตามินซี, คอร์ติโซน, กรดแอสคอร์บิก, อาร์บูติน, กรดโคจิก, เซราไมด์, วิตามินบี 3 และไนอะซิน จะช่วยลดการอักเสบของผิวและช่วยให้รอยดำและรอยแดงจากสิวจางลง แต่การเห็นผลจะใช้เวลานานและต้องใช้ครีมต่อเนื่อง ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนการใช้เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวของแต่ละคนและปัญหาที่กำลังเผชิญ

มาส์กหน้าลดรอยสิว

การใช้มาส์กหน้าที่มีส่วนผสมจากสมุนไพรธรรมชาติเป็นอีกทางเลือกที่ดีในการลดรอยสิว ซึ่งสมุนไพรบางชนิดมีคุณสมบัติในการขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกจากผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น มะขามเปียก, น้ำผึ้ง, มะนาว, มะเขือเทศ และการนำไปผสมกับนมสดหรือโยเกิร์ตจะช่วยบำรุงผิวได้ดี การพอกหน้าด้วยมาส์กสมุนไพรเหล่านี้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะช่วยลดรอยแดงและรอยดำจากสิวให้จางลงได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป

วิธีป้องกันการเกิดรอยสิว

เพื่อไม่ให้เกิดรอยสิวขึ้นมา ซึ่งรอยสิวส่วนมากนั้นรักษาให้หายยาก จึงควรรู้วิธีป้องกันการเกิดรอยสิวดังนี้

หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิว

ไม่ควรแคะ แกะ หรือบีบสิว เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ ทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น และนำไปสู่รอยสิวหรือหลุมสิวได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ มือของเรามีสิ่งสกปรกและแบคทีเรียที่อาจทำให้สิวแย่ลง

ปกป้องผิวจากแสงแดด

แสงแดดเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้รอยสิวเข้มขึ้น เนื่องจากรังสี UV กระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน และหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดโดยตรง 

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำช่วยให้ร่างกายขับสารพิษ ลดความมันส่วนเกิน และทำให้เซลล์ผิวฟื้นฟูเร็วขึ้น ผิวที่ชุ่มชื้นจะลดโอกาสเกิดรอยสิวได้ ควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้วต่อวัน

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ควรเลือกอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และอาหารที่มี Omega 3 วิตามินซี วิตามินอี เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของผิว และเพิ่มอาหารให้ผิวทำให้ผิวฟื้นฟูได้เร็วขึ้น

ไม่ปล่อยสิวทิ้งไว้

ควรรักษาสิวทันทีหลังจากที่สิวขึ้นมาหายปล่อยสิวทิ้งไว้อาจทำให้สิวอักเสบมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นรอยสิว รอยดำ รอยแดง หรืออาจเกิดหลุมสิวได้ซึ่งหลุมสิวเป็นรอยสิวที่รักษาได้

สรุป

วิธีรักษารอยสิวมีทั้งแบบหัตถการ และธรรมชาติ ซึ่งแต่ละแบบจะแตกต่างกันหากต้องการรักษารอยสิวแบบเร่งด่วนจะต้องใช้วิธีรักษารอยสิวจากหัตถาการ แทนแบบธรรมชาติ ที่เห็นผลลัพธ์ได้ช้า และต้องทำอย่างเป็นประจำถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน โดยในแต่ละวิธีรักษาก็จะสามารถแก้ปัญหารอยสิวที่ไม่เหมือนกัน