Pico vs CO2 ต่างก็เป็นเลเซอร์รักษาหลุมสิวที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวที่ไม่เรียบเนียนซึ่งเกิดขึ้นหลังจากสิวหายไป บั่นทอนความมั่นใจให้ลดลง ทำให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส หากไม่รีบดูแลหรือรักษาอย่างถูกวิธีจะส่งผลทำให้ปัญหาลุกลามหนักขึ้นจนยากต่อการแก้ไข เพื่อช่วยให้เข้าใจเลเซอร์ทั้งสองประเภทนี้มากขึ้นว่าคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร อันไหนรักษาหลุมสิวได้ดีกว่ากัน เหมาะกับปัญหาหลุมสิวแบบไหนบ้าง สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากรายละเอียดที่ Vincent Clinic Aesthetic ได้รวบรวมมาไว้ให้ในเนื้อหาต่อไปนี้
Key Takeaways
- Pico vs CO2 ต่างก็เป็นเลเซอร์ที่สามารถใช้ในการรักษาหลุมสิว ปรับผิวเรียบเนียน กระตุ้นคอลลาเจนให้เพิ่มขึ้นได้
- เลเซอร์หลุมสิว Pico Laser VS CO2 Laser ใช้พลังงานที่ต่างกัน โดย Pico จะเป็นการใช้พลังงานแสงความเร็ว 1 ต่อล้านล้านวินาที ในส่วนของ CO2 ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
- รักษาหลุมสิวด้วย Pico กับ Co2 สามารถเลือกใช้ได้ตามประเภทของหลุมสิวที่ต้องการรักษา ลักษณะของกระบวนการทำงานและความลึกที่พลังงานสามารถลงไปถึงได้แตกต่างกัน
- Pico vs CO2 เลเซอร์รักษาหลุมสิว ซึ่งใช้จำนวนครั้งที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับระดับของปัญหา สภาพผิว และแพทย์ผู้ทำการรักษา
- Pico Laser รักษาหลุมสิว เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ให้สามารถตอบโจทย์ปัญหาและความต้องการได้อย่างครอบคลุม
เลเซอร์รักษาหลุมสิว Pico Laser กับ CO2 Laser คืออะไร?
Pico Laser คือ เลเซอร์ความเร็วสูงที่ปล่อยพลังงานแสงได้อย่างแม่นยำในระดับ พิโควินาที (picosecond) ซึ่งมีความเร็วถึง 1 ต่อล้านล้านวินาที ทำให้เม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติแตกตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็กละเอียด ช่วยให้ร่างกายสามารถกำจัดออกได้ง่าย นอกจากนั้นยังไม่ทำให้เกิดความร้อนสะสมในเนื้อเยื่อ ลดอาการผิวเบิร์น สามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวได้อีกด้วย เป็นเลเซอร์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว
CO2 Laser คือ เลเซอร์ที่ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ปล่อยพลังงานออกมาเป็นอินฟราเรดซึ่งมีความยาวคลื่นอยู่ที่ 10.600 nm โดยลำแสงที่ปล่อยออกมาจะมีขนาดเล็กเข้าไปจับกับโมเลกุลของน้ำที่อยู่ในชั้นผิว ทำให้เกิดเป็นความร้อนสูงทำให้เนื้อเยื่อในบริเวณนั้นถูกทำลายและหลุดออกไป
เลเซอร์หลุมสิว Pico Laser VS CO2 Laser ต่างกันอย่างไร?
ระหว่างเลเซอร์หลุมสิว Pico Laser VS CO2 Laser ใช้พลังงานที่ไม่เหมือนกัน จึงมีคุณสมบัติเด่น ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ ระดับความลึกของชั้นผิวที่พลังงานสามารถลงไปถึง โดยมีรายละเอียดความแตกต่างกัน ดังนี้
- Pico Laser ปล่อยพลังงานในระดับ Picosecond (หนึ่งต่อล้านล้านวินาที) มีความยาวคลื่นให้เลือกหลากหลายตามความเหมาะสม เช่น 532 nm, 755 nm และ 1,064 nm เป็นต้น ปล่อยพลังงานเข้าไปจับกับเม็ดสีเมลานินให้แตกตัวเป็นอนุภาคเล็กละเอียด สามารถลงลึกได้ถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) โดยไม่ทำร้ายผิวหนังชั้นบน ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน แก้ปัญหา หลุมสิว ลบรอยสัก รวมไปถึงลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว กระชับรูขุมขน ผิวเรียบเนียน ปรับสีผิวกระจ่างใสสม่ำเสมอ
- CO2 Laser ใช้พลังงานเลเซอร์จากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเป็นอินฟราเรดมีความยาวคลื่นอยู่ที่ 10,600 nm เข้าไปจับกับโมเลกุลของน้ำในเซลล์ผิวจนเกิดเป็นความร้อนทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นถูกทำลาย สามารถลงลึกได้ถึงชั้นหนังแท้และทำให้ผิวชั้นบนเกิดการลอกออกไป ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซม และฟื้นฟูเซลล์ผิว รวมไปถึง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้เพิ่มขึ้น จึงเหมาะกับการใช้เพื่อแก้ปัญหาหลุมสิวลึก จัดการติ่งเนื้อ ไฝขนาดเล็ก กระชับรูขุมขน เป็นต้น
รักษาหลุมสิวด้วย Pico กับ Co2 เหมาะกับหลุมสิวแบบไหน?
สำหรับ Pico Laser จะเหมาะกับการรักษาหลุมสิวตื้นไปจนถึงระดับปานกลาง เช่น Boxcar Scar หรือ Rolling Scar เพราะพลังงานที่ปล่อยลงไปจะเข้าไปช่วยให้เซลล์ผิวฟื้นฟูตัวเองและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เพิ่มขึ้น หลุมสิวจึงค่อยๆ ตื้นขึ้น ในส่วนของ Fractional Co2 Laser เหมาะกับหลุมสิวที่มีความลึกค่อนข้างมาก เช่น Ice Pick Scar เพราะพลังงานจะเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในตำแหน่งที่ต้องการเพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิว และสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ รวมไปถึงกระตุ้นคอลลาเจนให้เพิ่มขึ้น ซึ่งแพทย์อาจพิจารณา Subcision ร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละรายบุคคล
Pico Laser กับ Fractional Co2 Laser ต้องรักษาหลุมสิวกี่ครั้ง?
รักษาหลุมสิวด้วย Pico กับ Co2 จะใช้จำนวนครั้งที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสภาพผิว ประเภทของหลุมสิว การฟื้นตัวของร่างกาย และพลังงานที่ใช้ เป็นต้น โดยเฉลี่ยทั่วไปแล้ว Pico Laser จะใช้จำนวนครั้งในการรักษาหลุมสิวที่ไม่ลึกมากอยู่ที่ประมาณ 3 – 5 ครั้ง หากมีขนาดความลึกค่อนข้างมากอาจต้อง 5 – 6 ครั้งขึ้นไป ในส่วนของ Co2 Laser จะใช้จำนวนครั้งในการรักษาอยู่ที่ประมาณ 4 – 6 ครั้งขึ้นไป โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหา วิเคราะห์สภาพผิว และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับรายบุคคล
ราคาเลเซอร์หลุมสิว Pico กับ Co2 ต่างกันไหม?
สำหรับราคาเลเซอร์หลุมสิว Pico กับ Co2 มีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น จำนวนครั้งในการรักษา ระดับความรุนแรงของปัญหา ยี่ห้อเครื่องเลเซอร์ ประเภทของหัวยิงพลังงาน ประสบการณ์ของแพทย์ และโปรโมชั่นในแต่ละช่วงเวลา โดย Pico ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 – 7,000 บาท ในส่วนของ Co2 ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 – 20,000 บาท แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์โดยตรงเพื่อรับการประเมินและวางแผนการรักษาเฉพาะรายบุคคล
สามารถดูราคาเพิ่มเติมได้ที่ : โปรโมชั่นเลเซอร์งานผิว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลเซอร์หลุมสิว Pico Laser กับ CO2 Laser
สำหรับ Pico vs CO2 เลเซอร์รักษาหลุมสิวที่มีความแตกต่างกันในหลายด้าน จึงทำให้หลายคนยังมีข้อสงสัยอื่น ๆ เพิ่มเติม ในเนื้อหาต่อไปนี้จึงได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยและคำตอบมาไว้ให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ทั้งยังช่วยคลายข้อสงสัยให้ลดลง ดังนี้
Q: มีหลุมสิวลึกแบบ Ice Pick Scar ควรเลือก Pico หรือ Co2
A: สำหรับคนที่มีหลุมสิวลึกแบบ Ice Pick Scar สามารถเลือกทำ Co2 Laser ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น หรือจะเลือกทำ Pico Laser ที่ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีรุ่นใหม่ซึ่งสามารถเลือกทำโหมด Fractional หรือที่รู้จักกันในชื่อ Pico หน้าแดง ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน เลือกทำได้ตามความต้องการของคนไข้โดยอยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์
Q: ถ้ามีรอยดำด้วย รักษาหลุมสิวด้วย Pico Laser หรือ CO2 Laser ดีกว่ากัน?
A: หากต้องการรักษาหลุมสิวควบคู่ไปกับการลดเลือนรอยดำ แนะนำให้เลือก Pico laser เนื่องจากสามารถปรับได้ทั้งโหมดดูแลผิวกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำ และโหมดสำหรับแก้ปัญหาหลุมสิว ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ในส่วนของ Co2 Laser จะเน้นในเรื่องการแก้ปัญหาหลุมสิวลึก ทำลายเนื้อเยื่อเพื่อกระตุ้นให้สร้างใหม่
Q: วิธีดูแลหลังรักษาหลุมสิวด้วย Fractional Co2 กับ Pico ต่างกันไหม?
A: สำหรับการดูแลหลังทำ Pico และ CO2 เลเซอร์รักษาหลุมสิว จะไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก โดยหลักๆ จะเป็นการห้ามไม่ให้โดนน้ำประมาณ 1 – 2 วัน งดใช้ผลิตภัณฑ์ทาผิวหน้าที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม เน้นผลิตภัณฑ์บำรุงที่ให้ความชุ่มชื้น หรือ มอยส์เจอไรเซอร์ สูตรอ่อนโยน ไม่ควรแกะ เกา ขัด ถู หรือสัมผัสแรงๆ บริเวณผิวหน้าที่ทำเลเซอร์ หลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างน้อย 2 – 3 สัปดาห์หลังทำ ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำเพื่อเสริมเกราะให้ผิว หากมีสะเก็ดแผลเกิดขึ้นควรปล่อยให้หลุดไปเองห้ามแกะ เพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็น
Q: ระหว่าง Pico Laser VS CO2 Laser รักษาหลุมสิวด้วยตัวไหนดี?
A: การรักษาหลุมสิวด้วย Pico กับ Co2 มีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป แนะนำให้ปรึกษาแพทย์โดยตรงเพื่อรับการประเมินที่ถูกต้องและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับระดับของปัญหา สภาพผิว และความต้องการของแต่ละคนที่แตกต่างกัน
Q: ผิวแพ้ง่าย มีหลุมสิวควรเลือก Pico หรือ Co2 ?
A: ระหว่าง Pico vs CO2 หากต้องนำไปใช้รักษาหลุมสิวกับคนที่ผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง แนะนำเป็น Pico Laser เพราะมีความเร็วในการส่งพลังงานค่อนข้างสูง ผลข้างเคียงและอาการบาดเจ็บที่เนื้อเยื่อน้อยกว่า ฟื้นตัวได้ไว เห็นผลเร็ว ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ
สรุป
Pico vs CO2 ต่างก็เป็นเลเซอร์รักษาหลุมสิวที่ได้รับความนิยมสูง เพราะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียน แก้ปัญหาหลุมสิวได้หลากหลาย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาทดแทนของเดิมที่เสื่อมสภาพ ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น โดยเฉพาะ Pico Laser ที่มีทั้งโหมดเคลียร์ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ และโหมดปรับ Texture ผิว หรือ พิโค่หน้าแดง ที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระชับรูขุมขน หลุมสิวตื้นขึ้นได้อย่างเห็นผล สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องของหลุมสิว ผิวหน้าไม่เรียบเนียน ต้องการดูแลผิวพรรณให้กระจ่างไม่หมองคล้ำ แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Aesthetic เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินปัญหา วิเคราะห์สภาพผิว และออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล

