หน้ามันเป็นปัญหาที่ทำให้เสียความมั่นใจ และยังอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหลาย ๆ อย่างด้วย ซึ่งในบทความนี้จะพอทุกคนมาเจาะลึกเกี่ยวกับหน้ามันว่าหน้ามันเกิดจากอะไร มีวิธีลด วิธีแก้ไขปัญหาหน้ามันแบบไหนบ้างที่ช่วยลดความมันบนใบหน้า ให้หน้าไม่มันกลับมาสุขภาพดีได้
หน้ามันคืออะไร
หน้ามัน (Oily skin) คือ สภาพผิวที่มีความมันมากมีความเงามันเยิ้มอยู่ตลอดเวลา เมื่อลองแตะผิวจะรู้สึกถึงความมัน หรือน้ำมันติดมือมา และเมื่อล้างหน้าไปแล้ว แต่เพียงไม่นานความมันก็จะกลับมาเหมือนเดิม การที่หน้ามันสามารถมันได้ทั่วทั้งหน้า และมันมากโดยเฉพาะในบริเวณ T-zone อย่าง หน้าผาก จมูก และคาง การที่หน้ามันไม่ได้หมายความว่าจะมีแค่คนที่ผิวมันเท่านั้นที่หน้ามันได้ แต่คนที่มีผิวแห้งมากๆ ก็สามารถหน้ามันได้เพราะผิวแห้งจนขาดความชุ่มชื้นอย่างหนัก จนต้องผลิตน้ำมันออกมาเพิ่มความชุ่มชื้นทำให้กลายเป็นหน้ามัน ซึ่งมักเรียกผิวแบบนี้ว่าผิวแห้งขาดน้ำค่ะ
หน้ามันเกิดจากสาเหตุอะไร
สาเหตุที่ทำให้หน้าเกิดได้จากหลายปัจจัยโดยมีสาเหตุหลักคือต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามาก ซึ่งสาเหตุที่กระตุ้นให้หน้ามัน ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากมีดังนี้
- เมื่อผิวขาดความชุ่มชื้นมาก ร่างกายจะสั่งให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ใบหน้า ป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำ หรือแห้งมากขึ้น แต่เมื่อน้ำมันมากเกินไปจึงทำให้หน้ามันตลอดเวลา
- มีการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกาย เช่น มีฮอร์โมนเพศชาย (แอนโดรเจน) ในร่างกายมากเกินไป ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่กระตุ้นการผลิตน้ำมันในผิวหน้า โดยมักจะเจอฮอร์โมนชนิดนี้ได้เยอะเฉพาะในช่วงวัยรุ่น หรือผู้หญิงในช่วงที่มีประจำเดือน หรือตั้งครรภ์
- ลักษณะผิวหน้ามันสามารถถ่ายทอดจากกรรมพันธุ์ โดยมากจากพ่อ แม่ หรือคนในครอบครัวที่มีปัญหาผิวมันได้
- สภาพอากาศก็มีผลที่ทำให้หน้ามันได้ เช่น มีอากาศร้อน หรืออาการแห้งมากๆ ต่อมไขมันก็จะผลิตน้ำมันออกมาเพื่อปกป้องไม่ให้ผิวแห้งจนเกินไป แต่ถ้ามีหน้ามันจากสาเหตุนี้จะมีหน้ามันแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น หลังจากที่กลับมาอยู่ในสภาพอากาศที่ปกติ หน้าก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม และหน้ามันน้อยลง
- การรับประทานอาหารที่มีไขมันหรือน้ำตาลสูง เช่น ของมัน ของทอด หรือขนมหวาน จะกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น เมื่อรับประทานอาหารเหล่านี้บ่อยๆ ก็อาจทำให้หน้ามันได้
- เมื่อร่างกายมีความเครียดมากๆ จะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) มากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้ส่งผลให้การผลิตน้ำมันในผิวหน้าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวหน้ามัน และอาจมีสิวได้
- การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil-based) หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวหน้าอาจทำให้เกิดปัญหาผิวมันตามมา
- การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึกจะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่กระตุ้นการผลิตน้ำมันในผิวหน้าเพิ่มขึ้น
หน้ามันแล้วทำให้เกิดปัญหาอะไร
การที่มีปัญหาหน้ามันนอกจากจะทำให้หน้าดูมันเยิ้มแล้ว ยังเป็นต้นเหตุของการเกิดหลายๆ ปัญหาอีกด้วย เช่น
- รูขุมขนกว้าง ทำให้มองเห็นรูขุมขนได้ชัดเจน
- หน้ามันแล้วเป็นสิว เกิดสิวได้ง่ายขึ้นเนื่องจากความที่มันจนเกินไปอาจจะเข้าไปอุดตันอยู่ในรูขุมขนทำให้เกิดสิว
- ทำให้เสียบุคลิก หน้าดูโทรม เพราะมีความมันมากเกิน
- แต่งหน้ายาก แต่งหน้าไม่ติดเครื่องสำอางหลุดง่าย
หน้ามัน กับ Glass Skin (ผิวกระจก) ต่างกับอย่างไร
หน้ามัน และ Glass Skin (ผิวกระจก) แม้จะดูเงาวาวเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในด้านลักษณะและสาเหตุของการเกิดขึ้น หน้ามัน (Oily Skin) เกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ส่งผลให้ผิวดูมันเยิ้ม โดยเฉพาะบริเวณ T-zone และมักมาพร้อมกับรูขุมขนกว้าง สิวอุดตัน หรือสิวอักเสบ ผิวหน้ามันอาจทำให้เครื่องสำอางหลุดง่าย ต้องซับหน้าบ่อย และทำให้ผิวดูไม่สดใส ในขณะที่ Glass Skin เป็นผิวที่ดูฉ่ำวาวสุขภาพดีจากความชุ่มชื้นที่สมดุล ไม่ใช่ความมันส่วนเกิน ผิวจะดูเนียนละเอียด รูขุมขนกระชับ ไม่มีสิวอุดตัน และดูใสเป็นธรรมชาติ การมี Glass Skin ต้องอาศัยการบำรุงที่ดี เช่น การเติมความชุ่มชื้นให้เพียงพอ การใช้เซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยกักเก็บน้ำในผิว รวมถึงการป้องกันผิวจากแสงแดด ต่างจากผิวมันที่ต้องเน้นการควบคุมความมันและทำความสะอาดรูขุมขนอย่างเหมาะสม ดังนั้น หากต้องการให้ผิวดูโกลว์สวยสุขภาพดี ควรเน้นการดูแลให้ผิวมีความชุ่มชื้นและสมดุล มากกว่าการปล่อยให้หน้ามันโดยไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง
แก้ปัญหาหน้ามันด้วยโบท็อกซ์
การฉีด โบท็อกซ์ สามารถรักษาหน้ามันได้ โดยจะฉีดโบท็อกซ์ซึ่งมีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ ระงับระบบประสาทเข้าไปที่ต่อมไขมัน ซึ่งจะช่วยลดการทำงานของต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมาน้อยลง ทำให้หน้าหายมัน ความมันบนใบหน้าลดน้อยลง โดยจะเห็นผลหลังจากฉีดประมาณ 2 – 3 วันว่าหน้ามันน้อยลง และผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 3 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกซ์ที่เลือกใช้
วิธีลดหน้ามันด้วย Rejuran
การฉีด Rejuran เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ เนื่องจาก Rejuran มีส่วนประกอบหลักเป็น Polynucleotide ซึ่งสามารถฟื้นฟู และซ่อมแซมผิวได้ โดยจะฉีด Rejuran เข้าสู่ชั้นหนังแท้โดยตรง จากนั้นจะช่วยกระชับรูขุมขน ลดความมันบนใบหน้า แต่จะเห็นผลลัพธ์ประมาณ 3 – 5 วันหลังจากฉีด และควรฉีดติดต่อกันอย่างน้อย 4 ครั้ง ห่างกันประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาชัดเจน และเพื่อคงสภาพผิวที่ดีเอาไว้ค่ะ
วิธีแก้หน้ามันแบบธรรมชาติ และวิธีป้องกันหน้ามัน
วิธีแก้ปัญหาหน้ามันแบบธรรมชาติ เป็นหนึ่งในวิธีลดหน้ามันแบบง่ายๆ สามารถแก้ไขด้วยตัวเอง ทำให้หน้ามันน้อยลง และป้องกันหน้ามันเพิ่มมากขึ้นได้ดังนี้
- ล้างหน้าให้สะอาด 2 ครั้งต่อวัน แต่ไม่ควรล้างบ่อยเกินไปเพราะถ้าล้างบ่อยเกินไปอาจทำให้หน้าแห้งจนผิวขาดน้ำ และหน้ากลับมามันได้
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าและเครื่องสำอางที่ออกแบบมาสำหรับคนผิวมัน ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพื่อลดการอุดตัน
- แสงแดดแรงๆ สามารถทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันส่วนเกินมากขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และใช้ครีมกันแดดที่
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ของทอด ของหวาน เพราะสามารถส่งผลให้ผิวมันมาก
- ใช้กระดาษซับมันระหว่างวันเพื่อลดความมันของ แต่ไม่ควรใช้บ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 8 แก้ว จะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น และลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินจากภายใน
- สครับผิวเพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าและลดความมันบนใบหน้า แต่ไม่ควรสครับผิวบ่อยเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวแห้งได้
- มาสก์หน้าเพิ่มความชุ่มชื้น 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยปรับสมดุลของผิวและกระชับรูขุมขน
- เลือกรับประทานอาหารที่ดี วิตามินบีในธัญพืช วิตามินเอในผักใบเขียวและผลไม้ต่างๆ ช่วยลดการผลิตความมันบนใบหน้าได้
สำหรับคนที่สงสัยว่ามีปัญหาหน้ามันเป็นสิว ใช้อะไรดี ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid, Retinoids หรือ Tea Tree Oil ซึ่งส่วนผสมพวกนี้สามารถลดการเกิดสิว และลดการอักเสบของสิวได้ดีค่ะ
สรุป
หน้ามันเป็นสภาพผิวที่มีความมันบนใบหน้าจนเกิดไป ซึ่งอาจทำให้เกิดสิว และรูขุมขุนกว้างตามมากได้ โดยสาเหตุของหน้ามันเกิดได้หลายจากสาเหตุทั้งหน้าแห้งมากเกินไปจนต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมา หรือฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงก็ทำให้หน้ามันได้ แต่ยังมีวิธีการรักษาหน้ามันให้หายไปอยู่หลายวิธี เช่น วิธีแก้ปัญหาหน้ามันรวดเร็วอย่างการฉีดโบท็อกซ์ หรือ Rejuran แต่ก็สามารถรักษาหน้ามันด้วยตัวเองด้วยตัวเองได้ เช่น การล้างหน้าให้สะอาดลดความมัน หรือมาส์กหน้าเพิ่มความชุ่มชื้นค่ะ