โบท็อกเกาหลี ดีไหม ราคาเท่าไหร่ ต่างจากโบท็อกประเทศอื่นอย่างไร?

โบท็อกเกาหลี ตัวเลือกดูแลใบหน้าและลดเลือนริ้วรอยที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกหลายยี่ห้อตามความต้องการของแต่ละคนที่แตกต่างกัน Vincent Clinic Aesthetic จึงได้ทำการรวบรวมเอาข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โบเกาหลีคืออะไร มีทั้งหมดกี่ยี่ห้อ ควรเลือกใช้แบบไหน ฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ราคาเท่าไหร่ ต่างจากโบท็อกประเทศอื่นอย่างไรบ้าง สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาต่อไปนี้

Key Takeaways

• โบท็อกเกาหลี ถึงแม้จะเป็นโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) เหมือนกัน แต่เทคโนโลยีการผลิตต่างกัน โบเกาหลีแต่ละยี่ห้อจึงให้ผลลัพธ์และความคงทนไม่เท่ากัน
• โบท็อกเกาหลีมีด้วยกันหลายยี่ห้อ เช่น Nabota, Aestox, Neuronox, Hutox และ MBTOX ซึ่งแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน แต่ได้รับการรับรองจากทั้ง KFDA และ อย. ไทย เหมือนกัน
• หลังฉีดโบเกาหลีจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ช่วง 3–5 วันแรก และจะค่อย ๆ ดีขึ้นจนเห็นผลเต็มที่ในช่วง 2 – 4 สัปดาห์ 
• โบเกาหลี และ โบประเทศอื่น มีความแตกต่างกันในหลายด้าน ทั้งเรื่องของเทคโนโลยีการผลิต ความบริสุทธิ์ การกระจายตัว รวมไปถึงความคงทนของผลลัพธ์ 
• ก่อนฉีดโบเกาหลีควรศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วน เลือกทำกับคลินิกที่น่าเชื่อถือ แพทย์มีประสบการณ์ และเลือกใช้โบท็อกแท้ที่สามารถตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง

โบท็อกเกาหลีคืออะไร?

โบท็อกเกาหลี คือ สารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีของบริษัทจากประเทศเกาหลี และส่งออกโดยประเทศเกาหลี ซึ่ง โบท็อก จากเกาหลีมีให้เลือกหลากหลายราคา รวมไปถึงผลลัพธ์ และความคงทนก็แตกต่างกันออกไปตามเทคโนโลยีการผลิตของแต่ละยี่ห้อที่ไม่เหมือนกัน

โบท็อกเกาหลีมียี่ห้ออะไรบ้าง?

สำหรับยี่ห้อโบท็อกเกาหลีที่มีในท้องตลาดปัจจุบันค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป โดยรายละเอียดของโบเกาหลีแต่ละยี่ห้อ มีดังนี้

• โบท็อกเกาหลี Nabota ผลิตโดยบริษัท แดวูง ฟาร์มาซูทิคอล จำกัด ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ Hi-PURE Technology ทำให้ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ลดโอกาสดื้อโบให้น้อยลง และสามารถออกฤทธิ์ได้ไวขึ้น ผ่านการรับรองคุณภาพและมาตรฐานจาก US FDA, KFDA และ อย.ไทย มีด้วยกันสองขนาด ได้แก่ กล่องสีดำ 100 ยูนิต และ กล่องสีแดง 200 ยูนิต
• โบท็อกเกาหลี Aestox ผลิตโดยบริษัท Hugel Inc. ผ่านการรับรองคุณภาพและมาตรฐานจาก อย. ไทย และ KFDA มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ลดโอกาสดื้อโบท็อกให้น้อยลง สามารถออกฤทธิ์ได้ไวมีความใกล้เคียงกับโบท็อกอเมริกา Allergan  โดยมีราคาที่ถูกกว่า แต่ผลลัพธ์คงอยู่ได้สั้นกว่า มีด้วยกัน 3 ขนาด ได้แก่ กล่องสีชมพู 50 ยูนิต กล่องสีฟ้า 100 ยูนิต และกล่องสีส้ม 200 ยูนิต
• โบท็อกเกาหลี Neuronox ผลิตโดยบริษัท Medytox โดยเลือกใช้แบคทีเรีย Clostridium botulinum สายพันธุ์ออริจินัล Hall A Hyper ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกันกับของ Allergan โบท็อกอเมริกา จึงมีประสิทธิภาพที่คล้ายกัน ทั้งการกระจายตัวและการออกฤทธิ์ ผ่านการรับรองจากทั้ง KFDA และ อย.ไทย มีด้วยกัน 3 ขนาด ได้แก่ กล่องสีแดง 50 ยูนิต กล่องสีฟ้า 100 ยูนิต และ กล่องสีส้ม 200 ยูนิต
• โบท็อกเกาหลี Hutox ผลิตโดยบริษัท Huons BioPharma เลือกใช้แบคทีเรีย Clostridium Botulinum (รหัส HU-014) มีน้ำหนักโมเลกุลอยู่ที่ประมาณ 900 kDa จึงทำให้ตัวยามีความบริสุทธิ์ 99.8% ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก KFDA และ อย.ไทย มีขนาดอยู่ที่ 100 ยูนิต
• โบท็อกเกาหลี MBTOX ผลิตโดยบริษัท Huons Biopharma ผ่านการรับรองจาก KFDA อย. ไทย และอีก 10 ประเทศทั่วโลก มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.8% ลดโอกาสดื้อโบให้น้อยลง นอกจากนั้นยังมีการทำ Clinical Study Phase 1,2,3 การวิจัยทดลองกับคนเพื่อทดสอบประสิทธิภาพและผลลัพธ์ ซึ่งมีการทดสอบกับรอยย่นระหว่างคิ้ว รอยย่นรอบดวงตา โดยมีขนาดอยู่ที่ 100 ยูนิต

ฉีดโบท็อกเกาหลีกี่ครั้งเห็นผล อยู่ได้นานไหม?

โดยทั่วไปหลังฉีดโบท็อกเกาหลีจะสามารถเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงได้ในช่วงระยะเวลาประมาณ 3 – 5 วัน และจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ในช่วง 2 – 4 สัปดาห์หลังทำ ซึ่งสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 3 – 5 เดือน ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ยี่ห้อ ปริมาณ เทคนิคการฉีด ตำแหน่งที่ฉีด 

โบท็อกเกาหลีราคาเท่าไหร่?

สำหรับโบท็อกเกาหลีราคาโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 – 20,000 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปริมาณยูนิต ตำแหน่งที่ฉีด ประสบการณ์ของแพทย์ และโปรโมชันของแต่ละคลินิกที่แตกต่างกันออกไป โดยรายละเอียดราคาของแต่ละยี่ห้อมีดังนี้

• โบเกาหลี Nabota (กล่องสีดำ) 100 ยูนิต ราคาประมาณ 7,000 – 10,000 บาท
• โบเกาหลี Nabota (กล่องแดง) 200 ยูนิต ราคาประมาณ 15,000 – 18,000 บาท
• โบเกาหลี Aestox (กล่องชมพู) 50 ยูนิต ราคาประมาณ 3,000 – 4,000 บาท
• โบเกาหลี Aestox (กล่องฟ้า) 100 ยูนิต ราคาประมาณ 7,000 – 8,000 บาท
• โบเกาหลี Aestox (กล่องส้ม) 200 ยูนิต ราคาประมาณ 14,000 – 16,000 บาท
• โบเกาหลี Neuronox 50 ยูนิต ราคาประมาณ 3,500 – 6,000 บาท
• โบเกาหลี Neuronox 100 ยูนิต ราคาประมาณ 7,000 – 10,000 บาท
• โบเกาหลี Neuronox 200 ยูนิต ราคาประมาณ 12,000 – 18,000 บาท
• โบเกาหลี Hutox 100 ยูนิต ราคาประมาณ 3,900 – 6,000 บาท 
• โบเกาหลี MBTOX 100 ยูนิต ราคาประมาณ 5,000 บาท – 10,000 บาท

สามารถดูราคาโบท็อกอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ : โปรโมชั่นโบท็อก

โบท็อกเกาหลีต่างจากโบท็อกประเทศอื่นอย่างไร?

ความแตกต่างของโบท็อกเกาหลี กับโบท็อกประเทศอื่น มีอยู่ด้วยกันหลายประเด็นที่ควรทราบไว้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา เพราะเทคโนโลยีการผลิตต่างกันส่งผลทำให้การออกฤทธิ์ การกระจายตัว หรือความบริสุทธิ์ไม่เหมือนกัน ซึ่งจุดเด่นของโบเกาหลีที่ทำให้ได้รับความนิยมคือความหลากหลายของยี่ห้อและราคาที่ถูกกว่า โดยมีรายละเอียดความแตกต่าง ดังนี้

โบท็อกเกาหลี VS โบท็อกอเมริกา

สำหรับโบท็อกเกาหลีเมื่อเทียบกับโบท็อกอเมริกา จะแตกต่างกันที่เรื่องของการออกฤทธิ์และผลลัพธ์ โบเกาหลีมีการกระจายตัวแคบ ออกฤทธิ์ไว แต่ผลลัพธ์คงอยู่ได้สั้นกว่า ในขณะที่โบอเมริกาออกฤทธิ์ไว กระจายตัวแคบ ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานมากกว่าถึง 20 % เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น และมีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% ซึ่งมีความใกล้เคียงกับโบท็อกเกาหลีในหลาย ๆ ยี่ห้อ

โบท็อกเกาหลี VS โบท็อกอังกฤษ

โบเกาหลีกับโบอังกฤษมีหลายเรื่องที่แตกต่างกัน แต่ที่เห็นได้ชัดเจนคือเรื่องของการกระจายตัวของตัวยา โดยโบท็อกอังกฤษจะกระจายตัวค่อนข้างกว้างไม่กระจุกตัว มีความบริสุทธิ์ 99.5 % ออกฤทธิ์เร็ว เห็นผลไว เหมาะกับการฉีดลดเลือนริ้วรอยในบริเวณที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ลดขนาดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น โบท็อกลดต้นแขน โบท็อกลดน่อง หรือโบท็อกลดเหงื่อ ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานพอ ๆ กับโบเกาหลี

โบท็อกเกาหลี VS โบท็อกเยอรมัน

ระหว่างโบท็อกเกาหลี กับ โบท็อกเยอรมัน จะแตกต่างชัดเจนในเรื่องของความบริสุทธิ์และผลลัพธ์ที่ได้ โดยโบเยอรมันจะใช้เทคโนโลยีการผลิต XTRACT Technology กำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็นออกจากตัวยาทำให้มีความบริสุทธิ์ที่สูงมาก โมเลกุลของตัวยามีน้ำหนักน้อยจึงกระจายตัวได้ดี ฉีดแล้วไม่ตึงมากเกินไป มีความเป็นธรรมชาติ นอกจากนั้นยังสามารถนำไปฉีดให้กับคนที่มีประวัติดื้อโบที่หยุดการฉีดมาแล้วประมาณ 2 – 3 ปี โดยผลลัพธ์คงอยู่ได้นานใกล้เคียงกันกับโบเกาหลี

วิธีเช็กโบท็อกเกาหลีแท้ก่อนฉีด

วิธีการเช็กโบท็อกเกาหลีเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญซึ่งจะช่วยทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ไม่เกิดผลข้างเคียงตามมา โดยสามารถเช็ก โบท็อกแท้ และรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ก่อนฉีดได้ดังนี้

• แพทย์ต้องแกะกล่องใหม่และผสมยาต่อหน้า โดยกล่องจะต้องอยู่ในสภาพปกติ มีสติ๊กเกอร์ปิดทับไม่มีการแกะหรือฉีกขาด บนกล่องต้องมีการระบุชื่อผู้ผลิต ผู้นำเข้า เลขใบอนุญาตจาก อย. 
• ต้องมีการระบุวันที่ผลิต วันที่หมดอายุ เลข Lot No. ติดไว้ที่กล่องและต้องตรงกันกับที่ระบุไว้บนขวดยา
• มี QR Code หรือ Serial Number ที่สามารถสแกนและนำไปตรวจสอบกับแอปพลิเคชันของบริษัทผู้นำเข้า
• ปริมาณยูนิตที่ระบุไว้ต้องตรงกับข้อมูลของบริษัทผู้ผลิต หากมีการโปรโมทการฉีดในปริมาณยูนิตที่ไม่ตรงกับข้อมูลจริงจากผู้ผลิต อาจเจอโบปลอมหรือมีการแบ่งฉีดหลายคน ทำให้ตัวยาเสื่อมคุณภาพ
• ควรเลือกทำกับคลินิกที่น่าเชื่อถือ เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขใบอนุญาตติดไว้หน้าคลินิกชัดเจน นอกจากนั้นต้องฉีดโดยแพทย์จริงที่มีประสบการณ์ สามารถตรวจสอบประวัติได้จากแพทยสภา

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโบท็อกเกาหลี (FAQ)

เนื่องจากโบท็อกเกาหลีมีด้วยกันหลากหลายยี่ห้อ ทำให้หลายคนเกิดความสับสนหรือยังคงมีข้อสงสัยในบางประเด็น ในเนื้อหาต่อไปนี้จะเป็นการรวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยและคำตอบที่จะช่วยไขข้อข้องใจในหลาย ๆ ประเด็น ดังนี้

Q: โบท็อกเกาหลีปลอดภัยไหม?
A: สำหรับโบเกาหลีที่ถูกนำเข้ามาใช้ในประเทศไทยนั้นมีความปลอดภัยไม่ต่างจากโบท็อกจากประเทศอื่น ๆ เพราะผ่านการรับรองจากทั้ง KFDA ของประเทศเกาหลีใต้ และ อย. ประเทศไทย ทำให้มั่นใจว่าจะได้รับตัวยาที่มีมาตรฐานและคุณภาพ

Q: ฉีดโบท็อกเกาหลีบ่อย ๆ ทำให้ดื้อโบจริงไหม?
A: หากฉีดโบท็อกเกาหลีบ่อยหรือใช้ปริมาณที่มากเกินไป อาจเพิ่มโอกาสที่จะทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกได้ง่ายขึ้น เนื่องจากร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันออกมาต่อต้านโบทูลินัมท็อกซินมากกว่าปกติ จึงต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม

Q: ฉีดลดริ้วรอยด้วยโบท็อกเกาหลีนานไหมกว่าจะเห็นผล?
A: โดยทั่วไปหลัง ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย ด้วยโบเกาหลีจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในช่วงระยะเวลาประมาณ 3 – 5 วัน และจะดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเห็นผลเต็มที่ในอีกประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับปัญหา ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ตำแหน่งที่ฉีด ปริมาณที่ใช้ ยี่ห้อโบท็อก เทคนิคของแพทย์ และการดูแลตัวเองหลังทำ

Q: ถ้าเคยฉีดโบท็อกอเมริกามาก่อนแล้วมาฉีดโบเกาหลีได้ไหม?
A: หากใครที่ฉีดโบท็อกอเมริกามาแล้วจะเปลี่ยนไปฉีดโบท็อกเกาหลี แพทย์จะไม่ค่อยแนะนำให้ทำ เนื่องจากโมเลกุลของตัวยาในแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันสามารถกระตุ้นทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะดื้อโบได้มากขึ้น หากไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแพทย์ก็มักจะแนะนำให้ฉีดยี่ห้อเดิม

Q: เลือกโบท็อกเกาหลียี่ห้อไหนดี?
A: สำหรับการเลือกยี่ห้อโบท็อกเกาหลีนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ซึ่งควรคำนึงจากงบประมาณ การออกฤทธิ์ของตัวยา ความคงทนของผลลัพธ์ ตำแหน่งที่ต้องการฉีด ความเหมาะสมกับปัญหา ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและคัดยี่ห้อโบท็อกที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนมาให้เลือกอีกครั้ง พร้อมทั้งอธิบายความแตกต่างกัน ข้อดี-ข้อด้อย เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป 

สรุป

โบท็อกเกาหลี มีด้วยกันหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ตามความต้องการ ปัญหา และงบประมาณที่แตกต่างกันในแต่ละคน ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีข้อดีและข้อด้อยที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นก่อนที่จะฉีดโบท็อกควรศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วนและต้องเลือกใช้โบท็อกที่เป็นของแท้เท่านั้น หรือเข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Aesthetic เพื่อรับการประเมินปัญหาและออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล