บทความ
ฟิลเลอร์อิตาลีมีอะไรบ้าง หลังจากฉีดอยู่ได้นานแค่ไหน ราคาเท่าไร
แชร์ :

ฟิลเลอร์อิตาลีมีอะไรบ้าง หลังจากฉีดอยู่ได้นานแค่ไหน ราคาเท่าไร

ฟิลเลอร์อิตาลี
อยากอ่านอะไร จิ้มที่หัวข้อได้เลย!

ฟิลเลอร์อิตาลีหลายคนอาจจะยังไม่รู้จักว่ามียี่ห้ออะไรบ้าง ดีกว่าฟิลเลอร์จากประเทศอื่นๆ อย่างไร อยู่ได้นานไหม รวมถึงราคาของฟิลเลอร์อิตาลี ในบทความนี้ Vincent Clinic Skin จะพามารู้จักกับฟิลเลอร์อิตาลีแบบเจาะลึกให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะ

ฟิลเลอร์อิตาลีดีไหม

ฟิลเลอร์อิตาลีมียี่ห้ออะไรบ้าง ดีไหม

ฟิลเลอร์อิตาลีในปัจจุบันมีด้วยกันอยู่ 2 ยี่ห้อ คือ Definisse และ Neauvia ซึ่งทั้งสองตัวนี้นั้นมีความแตกต่างกันดังนี้

ฟิลเลอร์อิตาลี Neauvia

หรือเรียกกันอีกชื่อว่าฟิลเลอร์อิตาลีกล่องแดง ผลิตโดยบริษัท Matex Lab และเริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2012 ปัจจุบันมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก และผลิตด้วยเทคโนโลยี SMART XROSS LINK หรือ SXT ซึ่งเป็นกรรมวิธี Crosslink พิเศษที่ให้ความคงตัวของเนื้อเจลสูง และยังใช้สาร Polyethylene Glycol (PEG) แทนสาร BDDE ลดความเสี่ยงในการเกิดการระคายเคืองหรือแพ้

นอกจากนี้ ยังมีการผสมสารสำคัญอย่าง L-Proline และ Glycine ซึ่งเกี่ยวข้องกับการผลิตคอลลาเจนในผิวลงไปในฟิลเลอร์ และในบางรุ่นยังมีการเสริมด้วย Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนกลุ่มที่ 1 และ 3 ได้โดยตรง ช่วยให้ผิวแน่นขึ้นและดูอ่อนเยาว์มากขึ้นในระยะยาว ที่สำคัญคือสามารถใช้ร่วมกับเครื่องเลเซอร์ได้ เพราะมีคุณสมบัติทนความร้อนสูง ไม่สลายง่าย

โดยในปัจจุบันฟิลเลอร์อิตาลี Neauvia มีทั้งหมด 3 รุ่น ดังนี้

  • Neauvia Hydro Deluxe รุ่นนี้มี HA 18 mg/ml และ CaHA 0.01% เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มที่ออกแบบมาสำหรับฉีดในผิวชั้นตื้น เพื่อให้ผิวดูฉ่ำวาวชุ่มชื้น กระชับรูขุมขน และฟื้นฟูผิว สามารถนำมาฉีดฟิลเลอร์งานผิวทั่วๆ ใบหน้า และฉีดเฉพาะจุด เช่น ใต้ตา แก้ม และลำคอ 
  • Neauvia Stimulate รุ่นนี้มี HA 26 mg/ml ผสมกับ CaHA 1% และกรดอะมิโน L-Proline กับ Glycine เนื้อแข็งปานกลาง ใช้บริเวณที่ต้องการทั้งเติมเต็ม และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก แก้มตอบ คาง และบริเวณที่มีร่องลึกหรือหลุมสิว 
  • Neauvia Intense รุ่นนี้มีความเข้มข้นของกรดไฮยาลูรอนิก (HA) อยู่ที่ 28 mg/ml มี L-Proline และ Glycine ผสมอยู่ เนื้อฟิลเลอร์ค่อนข้างแข็ง มีความยืดหยุ่นสูง สามารถเติมเต็มร่องลึกหรือโครงหน้าที่มีการยุบตัว หรือต้องการปรับโครงสร้าง เหมาะสำหรับฉีดบริเวณ เช่น ฟิลเลอร์ขมับ หน้าแก้ม กรอบหน้า และคาง สามารถเติมเต็มร่องลึกหรือโครงหน้าที่มีการยุบตัวได้ดี 

ฟิลเลอร์อิตาลี Definisse

หรือเรียกกันอีกชื่อว่าฟิลเลอร์อิตาลีกล่องดำ ผลิตโดยบริษัท Relife ซึ่งอยู่ในเครือ A. Menarini Group จากประเทศอิตาลีเช่นกัน ใช้เทคโนโลยีเฉพาะทางที่ชื่อว่า XTR™ Technology หรือ eXcellent Three-Dimensional Reticulation ซึ่งพัฒนากระบวนการผลิตฟิลเลอร์ให้ได้โครงสร้างโมเลกุลที่มีความเสถียรสูง ไม่บวมน้ำ และให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำตั้งแต่หลังฉีด

โดยกระบวนการผลิตของ Definisse มีทั้งหมด 3 ขั้นตอนสำคัญ ได้แก่

  • การจัดโครงสร้างของกรดไฮยาลูรอนิกให้เหมาะสม ด้วยการผสมผสานโมเลกุลขนาดเล็กและใหญ่
  • การ Cross-link เพื่อเพิ่มความแน่นของเจล และให้ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้ง่าย
  • การ Purification ที่ช่วยกำจัดสารตกค้าง BDDE เพื่อเพิ่มความบริสุทธิ์ ลดโอกาสการแพ้ในผู้ใช้

อีกหนึ่งจุดเด่นคือเข็มฟิลเลอร์มีการออกมามาให้ฉีดได้ง่ายขึ้น และใช้แก้วในการผลิตเพื่อลดการใช้พลาสติก ช่วยลดแรงในการกดฉีด ลดการใช้พลาสติก และป้องกันการปนเปื้อนจากภายนอกได้ดี ในปัจจุบันฟิลเลอร์อิตาลี Definisse มีทั้งหมด 3 ดังนี้

  • Definisse Touch Filler เป็นรุ่นที่มีเนื้อนิ่ม เหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นตื้น ใช้สำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นในบริเวณที่ผิวบางมาก เช่น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือริมฝีปาก ช่วยเติมความอิ่มฟูให้ปากเรียบเนียน แก้ปัญหาปากแห้งแตก และไม่ทำให้บวมน้ำหลังฉีด
  • Definisse Restore Filler เนื้อแข็งปานกลาง แต่สามารถกลืนกับผิวได้ดีโดยไม่เป็นก้อนหลังฉีด เหมาะสำหรับการเติมวอลุ่มให้ผิว และเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก เช่น ฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม แก้มตอบ และขมับ 
  • Definisse Core Filler เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่สุด เหมาะกับการปรับโครงหน้า ยกกระชับบริเวณที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจน เช่น ฟิลเลอร์หน้าแก้ม แก้มส้ม ขมับ คาง และกรอบหน้า

ฟิลเลอร์อิตาลีอยู่ได้นานแค่ไหน

ฟิลเลอร์อิตาลีอยู่ได้นานแค่ไหน

ผลลัพธ์หลังจากฉีดฟิลเลอร์อิตาลีสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 – 18 เดือน โดยจะขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ เนื่องจากแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน และยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดด้วย โดยฟิลเลอร์อิตาลีแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นอยู่ได้นานดังนี้

ฟิลเลอร์อิตาลียี่ห้อ Definisse

  • Definisse Touch Filler ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 8 – 12 เดือน
  • Definisse Restore Filler ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Definisse Core Filler ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน

ฟิลเลอร์อิตาลียี่ห้อ Neauvia

  • Neauvia Hydro Deluxe ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 – 9 เดือน
  • Neauvia Stimulate ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Neauvia Intense ผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน

เพื่อให้หลังฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น และผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการควรดูแลหลังฉีดให้ดู เช่น ดื่มน้ำเยอะๆ และไม่โดนความร้อนบ่อยๆ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายไวกว่าปกติได้

ฟิลเลอร์อิตาลีต่างจากฟิลเลอร์ประเทศอื่นอย่างไร

ฟิลเลอร์อิตาลีเป็นที่มีจำหน่ายในตลาดความงามทั่วโลก แม้จะยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่าฟิลเลอร์จากอเมริกา หรือสวีเดน แต่ก็มีจุดแข็งเฉพาะที่ทำให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ฟิลเลอร์อิตาลีบางยี่ห้อไม่ใช้สาร BDDE ซึ่งมักพบในฟิลเลอร์ทั่วไป แต่เปลี่ยนมาใช้สาร PEG (Polyethylene Glycol) ซึ่งมีความเสถียรสูง ลดการระคายเคือง การอักเสบภายหลังการฉีด และยังมีการผสมสารอื่นๆ ที่ช่วยปรับผิวให้แข็งแรง รวมถึงฟิลเลอร์ยังมีความเข้มข้น ปลอดภัย ไม่แพ้ฟิลเลอร์จากประเทศอื่นๆ เลยค่ะ

ฟิลเลอร์อิตาลีราคาเท่าไร

สำหรับราคาฟิลเลอร์อิตาลีจะมีราคาไม่เท่ากันแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ รุ่นฟิลเลอร์ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ และโปรโมชั่นของฟิลเลอร์ในตอนนั้น โดยฟิลเลอร์อิตาลีราคาประมาณ 12,000 – 25,000 บาท/CC

สรุป

ฟิลเลอร์อิตาลีในปัจจุบันมีด้วยกันอยู่ 2 ยี่ห้อ โดยมักจะเรียกกันว่า ฟิลเลอร์อิตาลีกล่องแดง และฟิลเลอร์อิตาลีกล่องดำ และในแต่ละยี่ห้อก็จะใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ทำให้คุณสมบัติที่ได้ไม่เหมือนกัน สามารถนำมาฉีดแก้ปัญผิวได้หลายๆ จุด ถ้าต้องการฉีดฟิลเลอร์แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ สามารถปรึกษากับ Vincent Clinic Skin โดยให้คำแนะนำได้อย่างตรงจุดค่ะ

Scroll to Top