ร่องจมูกลอกเป็นปัญหาผิวที่หลายคนมักมองข้าม แต่กลับสร้างความรำคาญใจได้ไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อมีอาการแสบ คัน หรือรู้สึกตึงผิวร่วมด้วย ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ดูแล อาจนำไปสู่การอักเสบเรื้อรังและปัญหาผิวอื่น ๆ ที่ตามมาได้ รวมถึงลดความมั่นใจ เพราะแต่งหน้าได้ไม่เรียบเนียน ในบทความนี้ Vincent Clinic Aesthetic จะพามารู้จักกับอาการจมูกลอกว่าเกิดจากสาเหตุไหน รวมถึงวิธีแก้ไข และวิธีป้องกันจมูกลอกในอนาคตค่ะ
Key Takeaways
- ร่องจมูกลอกเป็นอาการที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจนำไปสู่ผิวอักเสบเรื้อรัง แต่งหน้าไม่เรียบเนียน และลดความมั่นใจได้หากไม่ดูแล
- สาเหตุหลักของจมูกลอกมักมาจากผิวแห้ง ขาดน้ำ หรือระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์หรือสิ่งแวดล้อม เช่น ลม แดด อากาศแห้ง หรือพฤติกรรมล้างหน้าที่รุนแรงเกินไป
- การดูแลสามารถทำได้ทั้งหัตถการทางการแพทย์และการบำรุงผิวประจำวัน เช่น Rejuran, Juvelook, Skinvive ร่วมกับมอยส์เจอไรเซอร์และการปรับพฤติกรรมทั้งการดื่มน้ำและทานอาหารที่เหมาะสม
- ป้องกันได้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงน้ำอุ่น และบำรุงผิวต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้กลับมาแห้งลอกซ้ำ
จมูกลอกลักษณะเป็นแบบไหน
ลักษณะของอาการจมูกลอกจะรู้สึกว่าผิวบริเวณจมูกแห้งตึง มีขุยเล็ก ๆ ขึ้นมาที่ร่องจมูก ข้างจมูก หรือบนสันจมูก ในบางคนอาจมีสะเก็ดจากการที่ผิวแตก หรืออาจมีอาการแดงรอบ ๆ จมูก รวมถึงรู้สึกแสบคัน ถ้ามีอาการรุนแรงมากอาจกลายเป็นแผล หรือผิวบริเวณจมูกอักเสบได้ค่ะ
ทำไมร่องจมูกถึงลอกง่ายกว่าบริเวณอื่น?
บริเวณร่องจมูกหรือข้างจมูกนั้นเป็นบริเวณที่มีโครงสร้างผิวแตกต่างจากผิวส่วนอื่น ๆ บนใบหน้า ทั้งเรื่องการผลิตน้ำมัน ความโค้งของผิว และปัจจัยภายนอกที่มากระทบโดยตรง ซึ่งทำให้จุดนี้กลายเป็น จุดอ่อน ของผิวหน้าเมื่อเจอกับปัจจัยกระตุ้น
เหตุผลหลักที่ทำให้ร่องจมูกลอกง่าย ได้แก่
- ผิวบางและไวต่อสิ่งกระตุ้น บริเวณร่องจมูกมีความโค้งและผิวบางกว่าบริเวณแก้มหรือหน้าผาก ทำให้ไวต่ออากาศแห้ง ฝุ่น หรือสารระคายเคือง
- ต่อมน้ำมันทำงานผิดปกติ บริเวณนี้มักมีต่อมน้ำมัน แต่ทำงานไม่สมดุลในบางคน เช่น บางจุดมัน บางจุดแห้ง ทำให้ผิวเกิดการลอกได้ง่าย
- การเสียดสีบ่อย เวลาเช็ดหน้า สั่งน้ำมูก หรือแม้แต่หายใจแรง ๆ อาจเกิดการเสียดสีที่จมูกได้ ทำให้ผิวบางลงและลอก
- เป็นจุดที่เก็บฝุ่นหรือสิ่งสกปรกได้ง่าย รูจมูกเป็นจุดรับอากาศโดยตรง ฝุ่นและสิ่งระคายเคืองจึงมักสะสมที่ข้างจมูก จึงกระตุ้นให้ผิวลอกง่ายหากไม่ได้ล้างหน้าอย่างอ่อนโยน
สาเหตุร่องจมูกลอกเกิดจากอะไร
อาการร่องจมูกลอก รู้สึกแสบคันเกิดได้จากหลาย ๆ ปัจจัย ดังนี้
ผิวแห้ง
ผิวที่ขาดน้ำหรือไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี มักเกิดการลอกเป็นขุย โดยเฉพาะบริเวณข้างจมูกซึ่งเป็นจุดที่ผิวบางและไวต่อการเปลี่ยนแปลง เมื่ออยู่ในที่มีอากาศเย็นจัด อยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน หรือดื่มน้ำน้อย ผิวบริเวณนี้จะยิ่งแห้งและเสื่อมสภาพได้ง่าย
ล้างหน้าบ่อยเกินไป
การที่ล้างหน้าบ่อย ๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ทำความสะอาดรุนแรง เช่น มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ สารลดแรงตึงผิว หรือเม็ดสครับ อาจทำให้ผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติ ซึ่งมีหน้าที่ปกป้อง และเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวแห้ง ลอก และเกิดอาการแสบระคายเคืองตามมา
มีอาการแพ้
ครีม หรือเซรั่มบางชนิดอาจมีสารกระตุ้นให้เกิดการแพ้ เช่น น้ำหอม พาราเบน แอลกอฮอล์ จึงทำให้เกิดผื่นระคายเคือง และผิวแห้งลอกได้
สภาพอากาศ สิ่งแวดล้อม
อากาศแห้ง ลมแรง ความชื้นต่ำ หรือแสงแดดทำให้สูญเสียน้ำในชั้นผิวได้ ส่งผลให้ผิวลอกเป็นขุยได้ง่าย ในขณะเดียวกัน มลภาวะ เช่น ฝุ่น ควัน ก็เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการระคายเคืองผิวบริเวณจมูกได้เช่นกัน
น้ำในร่างกายไม่เพียงพอ
แม้จะมีผิวมัน หรือผิวปกติ แต่หากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ หรือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ก็อาจทำให้ผิวภายนอกแห้งลอกได้
อายุเพิ่มมากขึ้น
เมื่อเข้าสู่วัยกลางคนระบบการผลิตน้ำมันในผิวจะลดลง คอลลาเจนในชั้นผิวเริ่มเสื่อมสภาพ ส่งผลให้ผิวบางลง สูญเสียความยืดหยุ่น และไม่สามารถเก็บความชุ่มชื้นได้ดีเหมือนเดิม ผิวบริเวณร่องจมูกจึงลอกเป็นขุยได้ง่ายขึ้น
อาบน้ำอุ่นบ่อยเกินไป
ความร้อนจากน้ำอุ่นจะดึงความชุ่มชื้นจากผิวออกไป ทำให้ผิวแห้งและขาดสมดุล โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและร่องจมูกที่บอบบางเป็นพิเศษจึงทำให้แห้งลอกได้ง่าย
โรคผิวหนังบางชนิด
ในบางกรณีอาการลอกที่ร่องจมูกอาจเป็นสัญญาณของโรคผิวหนัง เช่น ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis), โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis), เซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis), โรคโรซาเชีย (Rosacea) โรคเหล่านี้มักมีอาการลอก ร่วมกับอาการแดง คัน แสบ หรือมีผื่นบริเวณอื่นร่วมด้วย ซึ่งถ้าเป็นโรคผิวหนังควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษาค่ะ
ร่องจมูกลอกในผู้ชาย เกิดจากอะไร? ดูแลยังไงให้ไม่พัง ดูดีแบบไม่ต้องแต่งหน้า
แม้ผู้ชายจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการดูแลผิวเท่าผู้หญิง แต่ปัญหาผิวร่องจมูกลอกในผู้ชายกลับพบได้บ่อยกว่าที่คิด โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่ทาครีม ไม่ใช้สกินแคร์ หรือชอบล้างหน้าบ่อย ๆ เพื่อความรู้สึกสะอาด ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้มักทำให้ผิวขาดสมดุล สูญเสียน้ำและความชุ่มชื้น จนทำให้ข้างจมูกแห้งลอกเป็นขุย หรือเกิดรอยแดงแสบคันขึ้นมาได้ง่าย
ทำไมผู้ชายถึงมีแนวโน้มจมูกลอกได้ง่าย?
- พฤติกรรมล้างหน้าบ่อย ใช้สบู่แรงเกินไป ผู้ชายหลายคนยังคงใช้สบู่ก้อนหรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีสารลดแรงตึงผิวสูง ซึ่งทำให้ผิวแห้งและลอกง่าย
- ไม่ทาครีมหรือใช้มอยส์เจอไรเซอร์ บางคนมองว่าการทาครีมเป็นเรื่องของผู้หญิง ทำให้ผิวขาดการบำรุงอย่างต่อเนื่อง
- มีหนวดเครา/รูขุมขนกว้าง บริเวณร่องจมูกมักมีต่อมไขมันและรูขุมขนมากกว่าบริเวณอื่น เมื่อล้างหน้าแรงหรือละเลยการบำรุง ก็จะทำให้เกิดการระคายเคืองและแห้งลอก
- กิจกรรมกลางแจ้งหรือเล่นฟิตเนสบ่อย เหงื่อและแสงแดดจัดสามารถทำให้ผิวรอบจมูกแห้งลงเร็วโดยไม่รู้ตัว
วิธีดูแลร่องจมูกลอกในผู้ชายแบบง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก
- ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์อ่อนโยน เลือกเจลล้างหน้าที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีเม็ดสครับ และไม่มีฟองจัด ลดการระคายเคืองผิวในระยะยาว
เริ่มใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ “ไม่มีความมัน” ผู้ชายส่วนใหญ่มักไม่ชอบความเหนอะหนะ แนะนำให้เลือกเนื้อเจลหรือเนื้อบางเบา แต่ให้ความชุ่มชื้นสูง เช่น ที่มี Ceramide หรือ Glycerin - ทาครีมกันแดดทุกวัน เพราะแสงแดดเป็นตัวเร่งให้ ผิวขาดน้ำ ได้ไว แม้วันไหนไม่ได้ออกแดดจ้าโดยตรงก็ควรทา เพื่อรักษาความสมดุลของผิว
- หากลอกหนักหรือเป็นสะเก็ด ควรพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อประเมินว่าเป็นแค่ผิวแห้ง หรืออาจมีภาวะผิวอักเสบเรื้อรัง เช่น Seborrheic Dermatitis ซึ่งต้องได้รับการดูแลเฉพาะทาง
- ทางเลือกเสริมสำหรับผู้ชายยุคใหม่ หากอยากดูดีโดยไม่ต้องแต่งหน้า ลองพิจารณาหัตถการที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว เช่น Skinvive หรือ Juvelook ที่ให้ผิวดูชุ่มชื้น เรียบเนียนโดยไม่เงาวาว ไม่ดูมันเกินไป และไม่ต้องแต่งเติมอะไรเพิ่ม
ร่องจมูกลอกในผู้ชายไม่ใช่เรื่องเล็ก และควรได้รับการดูแลไม่ต่างจากผู้หญิง โดยการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม รวมถึง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กระตุ้นให้ผิวลอก จะช่วยให้ฟื้นฟูผิวได้อย่างปลอดภัย
จมูกลอกตอนเป็นหวัด เกิดจากอะไร แก้ยังไงไม่ให้ผิวพัง?
อาการจมูกลอกในช่วงที่เป็นหวัด หรือเป็นภูมิแพ้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย เพราะในช่วงนั้นเรามักจะสั่งน้ำมูก บิดทิชชู เช็ดจมูกบ่อย ๆ จนเกิดแรงเสียดสีและการเสียน้ำใต้ผิวหนัง จนกลายเป็นร่องจมูกที่ลอก แดง และบางครั้งถึงขั้นแสบหรือเป็นแผล
ทำไมช่วงเป็นหวัด ผิวข้างจมูกถึงลอกง่าย?
- การสั่งน้ำมูกบ่อยเกินไป โดยเฉพาะการใช้กระดาษเนื้อหยาบหรือเช็ดถูแรง ๆ ทำให้เกิดการเสียดสีซ้ำ ๆ จนผิวบางลงและระคายเคือง
- เยื่อบุผิวอักเสบ การอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูกจากหวัดหรือภูมิแพ้ส่งผลให้บริเวณจมูกไวต่อการระคายเคืองมากขึ้น
- ใช้ยาพ่นจมูกบางประเภท เช่น สเตียรอยด์พ่นจมูก อาจทำให้ผิวแห้งได้ในบางราย
- ผิวขาดน้ำมาก โดยเฉพาะถ้าไข้ขึ้นสูง ดื่มน้ำน้อย และนอนพักไม่พอ ร่างกายจะดึงน้ำไปใช้กับระบบสำคัญอื่น ผิวจึงแห้งและขาดการซ่อมแซมตัวเอง
วิธีแก้ไขแบบไม่ทำให้ผิวแย่ลง
- ใช้กระดาษทิชชูนุ่ม หรือผ้าเช็ดหน้าแทนทิชชูหยาบ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียดสีโดยตรง
- ทาวาสลีนหรือบาล์มบาง ๆ รอบจมูกก่อนนอน เพื่อช่วยเคลือบและปกป้องผิวไม่ให้เสียความชุ่มชื้นระหว่างหลับ
- ใช้มอยส์เจอไรเซอร์สูตรไม่มีน้ำหอม หรือเจลว่านหางจระเข้ บรรเทาอาการแสบแดง และลดการลอก
- ดื่มน้ำมาก ๆ และนอนพักเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว ผิวก็จะฟื้นตามไปด้วย
หากคุณมีอาการจมูกลอกช่วงเป็นหวัด อย่ารอให้ผิวพัง ควรบำรุงควบคู่กับการรักษาไข้ เพื่อป้องกันผิวเสียถาวรจากการลอกซ้ำ ๆ หรือเกิดรอยดำบริเวณร่องจมูกในระยะยาว
ร่องจมูกลอกต่างจากโรคผิวหนังยังไง?
แม้อาการ ร่องจมูกลอก จะพบได้บ่อยและส่วนใหญ่ไม่ได้รุนแรง แต่ในบางกรณีก็อาจสับสนกับโรคผิวหนังที่มีอาการคล้ายกัน เช่น เซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis), ผื่นแพ้สัมผัส (Contact Dermatitis) หรือสะเก็ดเงิน (Psoriasis) โดยเฉพาะเมื่อมีอาการร่วม เช่น แสบ คัน ผื่นแดง หรือมีขุยหนาเป็นแผ่น การแยกแยะว่าเป็น แค่ผิวแห้ง หรือ โรคผิวหนัง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรรู้
ตารางเปรียบเทียบ ร่องจมูกลอกทั่วไป vs โรคผิวหนัง
จุดสังเกต | ร่องจมูกลอกทั่วไป | โรคผิวหนัง (เช่น เซ็บเดิร์ม, สะเก็ดเงิน) |
ลักษณะขุย | ขุยบาง สีขาว แห้งลอกเล็กน้อย | ขุยหนา แดง มันเยิมหรือมีสะเก็ดหนา |
อาการร่วม | แห้ง ตึง อาจคันเล็กน้อย | แสบ คันรุนแรง ระคายเคือง ชัดเจน |
พื้นที่ที่ลอก | บริเวณข้างจมูกหรือร่องจมูกเท่านั้น | อาจลอกที่คิ้ว ร่องจมูก ข้างแก้ม หนังศีรษะ |
ปัจจัยกระตุ้น | อากาศแห้ง ขาดน้ำ ใช้สกินแคร์ไม่เหมาะ | ความเครียด แพ้สารเคมี พันธุกรรม |
การตอบสนองต่อมอยส์เจอไรเซอร์ | ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว | ดีขึ้นเพียงชั่วคราว หรือไม่ดีขึ้นเลย |
คำแนะนำ หากมีอาการดังนี้ ควรพบแพทย์ผิวหนังทันที
- ขุยหนา ลอกเป็นแผ่น ร่วมกับอาการแสบคันรุนแรง
- มีผื่นแดง ผิวแตกระแหง หรือมีเลือดซึม
- ใช้ครีมบำรุงแล้วยังแย่ลง
วิธีแก้ร่องจมูกลอก (เมื่อมีอาการแล้ว)
สำหรับวิธีแก้ปัญหาจมูกแห้งลอก ข้างจมูกลอกเป็นขุย สามารถแก้ไขให้ผิวร่องจมูกกลับมาเรียบเนียน ไม่เป็นขุยได้ โดยมีวิธีแก้ไขดังนี้
1.ฟื้นฟูผิวด้วยหัตถการทางการแพทย์
หากอาการลอกมีความรุนแรง หรือต้องการผลลัพธ์ที่เห็นผลไวและยาวนาน การเลือกใช้หัตถการจากแพทย์ผิวหนังหรือคลินิกความงามที่มีประสบการณ์ จะช่วยฟื้นฟูผิวในระดับลึกได้อย่างตรงจุด
ฟื้นฟูผิวลอกด้วย ผิวแข็งแรงจากเซลล์ภายในด้วย Rejuran
Rejuran คือผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจาก Polynucleotide (PN) ซึ่งเป็นอนุพันธ์จาก DNA ของปลาแซลมอน มีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซมผิวระดับเซลล์และฟื้นฟูชั้นผิวที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง เมื่อฉีดแล้วผิวจะมีความชุ่มชื้น และยืดหยุ่นมากขึ้น ลดการลอกของร่องจมูกได้
กระตุ้นคอลลาเจน + เติมความชุ่มชื้นให้ผิวร่องจมูกด้วย Juvelook
Juvelook เป็น Collagen Biostimulator ที่มีส่วนประกอบหลักเป็น PLLA (Poly-L-Lactic Acid) และ Hyaluronic Acid ช่วยทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวในการฉีดครั้งเดียว จะช่วยให้บริเวณจมูกที่แห้งลอกชุ่มชื้นมากขึ้น
เติมน้ำให้ผิวชั้นตื้น ให้จมูกอิ่มฟู เรียบเนียนไม่เป็นขุยด้วย Skinvive
Skinvive เป็น Hyaluronic Acid ที่ออกแบบมาเพื่อเติมน้ำให้ผิวชั้นตื้น ทำให้ผิวดูอิ่มฟู มีความชุ่มชื้น และลดปัญหาผิวแห้งลอกโดยเฉพาะในจุดที่ต้องการความเรียบเนียน เช่น ใต้ตา แก้ม และร่องจมูก
2.บำรุงผิวด้วยสกินแคร์ที่เหมาะสม
หากอาการยังไม่รุนแรง สามารถเริ่มต้นดูแลได้ด้วยสกินแคร์ที่เน้นการเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้น โดยควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
ใช้มอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ
เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์ และมีส่วนผสมที่ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้น เช่น เซราไมด์ (Ceramide), ไฮยาลูรอน(Hyaluronic Acid), กลีเซอรีน (Glycerin) ทุกวัน เพราะถ้าจมูกแห้งลอกจากการขาดความชุ่มชื้น มอยส์เจอไรเซอร์จะเป็นตัวเพิ่มความชุ่มชื้นที่ดี
เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน
ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิว มีความอ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะผิวข้างจมูกที่ลอกมีความอ่อนแออยู่แล้วหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงอาจทำให้ผิวแห้งลอกบริเวณจมูกรุนแรงขึ้นได้
3.เลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว
หลายครั้งอาการผิวลอกเกิดจากพฤติกรรมที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตราย เช่นการล้างหน้าบ่อย หรือเกาผิวโดยไม่รู้ตัว การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว
หยุดการถู หรือเกาผิวบริเวณจมูก เพราะจะทำให้ผิวบางขึ้น และเกิดการเป็นขุย ผิวบริเวณจมูกแดงได้ง่าย และอาจเกิดแผลข้างจมูกได้
ปกป้องผิวจากแสงแดด
ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ ไม่อยู่กลางแจ้งบ่อย ๆ ใส่หมวก หรือใช้ร่มเมื่อต้องเจอแดด เพื่อป้องกันผิวแห้งเสียจนทำให้เกิดจมูกแห้งลอก
4.เสริมความชุ่มชื้นจากภายใน
แม้จะดูแลผิวจากภายนอกได้ดีแล้ว แต่อาการผิวแห้งลอกจำนวนไม่น้อยก็เกิดจากการขาดน้ำภายในร่างกาย การปรับสมดุลจากภายในจะช่วยให้ผลการบำรุงเห็นผลชัดเจนขึ้น
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำสะอาดประมาณ 8–10 แก้วต่อวันจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ลดการแห้งลอกบริเวณจมูกที่เกิดจากน้ำในร่างกายไม่เพียงพอ
รับประทานไขมันดีและสารต้านอนุมูลอิสระ
รับประทานอาหารที่อุดมด้วยไขมันดี เช่น โอเมก้า 3 จากปลา ถั่ว และเมล็ดพืช รวมถึงผักผลไม้สดที่อุดมไปด้วยวิตามิน A, C, E และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว ลดความหมองคล้ำ และเพิ่มความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว
อ่านเพิ่มเติม : ผิวหน้าชุ่มชื้น มีวิธีไหนบ้าง ลดปัญหาหน้าแห้ง กู้ผิวให้สุขภาพดี
จมูกลอกจากการใช้ Retinol หรือกรดผลัดเซลล์ ควรหยุดไหม?
ผู้ที่เริ่มต้นใช้ Retinol, AHA, BHA หรือกรดผลัดเซลล์ผิวมักพบอาการ ข้างจมูกลอก ในช่วงแรก ซึ่งอาจเกิดจากการระคายเคืองเล็กน้อยตามธรรมชาติของผลิตภัณฑ์ แต่หากอาการรุนแรงเกินไป ก็ไม่ควรละเลย
แนวทางเบื้องต้นเมื่อลอกจาก Retinol หรือ AHA/BHA
- หากลอกแบบบาง + ไม่มีแสบแดง อาจเป็น Purging หรือระยะปรับตัวของผิว สามารถ “ลดความถี่ในการใช้” เหลือสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง
- หากลอกเป็นขุยชัด + แสบหรือแดง ให้หยุดใช้ชั่วคราว และบำรุงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีเซราไมด์หรือกลีเซอรีน
- หากมีอาการแสบ คัน ลอกลึก ควรหยุดใช้ทันที และปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาความเหมาะสม
- งดการใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์อื่น เช่น โทนเนอร์ AHA, โฟมล้างหน้าที่มีกรด ฯลฯ
- ใช้ควบคู่กับ Barrier Cream เพื่อฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว เช่น ครีมที่มี Niacinamide หรือ Panthenol
การใช้ Retinol ไม่จำเป็นต้องหยุดถาวรเสมอไป แต่หากเกิดการลอกบริเวณร่องจมูก ควรลดความถี่หรือปรับสูตรให้เหมาะสมกับสภาพผิวบริเวณนั้นก่อน เพื่อป้องกันการระคายเคืองเรื้อรังในระยะยาว
วิธีป้องกันร่องจมูกแห้งลอก (เมื่อหายแล้ว)
หลังจากร่องจมูกกลับมาเป็นปกติแล้ว ควรดูและป้องกันไม่ให้จมูกกลับมาแห้งลอกอีก โดยมีวิธีป้องกันร่องจมูกลอกดังนี้
ใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยน
ถึงแม้จมูกจะหายเป็นขุย หายแห้งลอกแล้ว แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อ ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย บริเวณจมูก ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลัดเซลล์ผิวอย่างรุนแรง จะช่วยป้องกันการเกิดผิวแห้ง ทำให้บริเวณจมูกไม่กลับมาแห้งลอก
ทาครีมบำรุงหลังล้างหน้าเป็นประจำ
ทาครีมบำรุงผิวทันทีในขณะที่ผิวยังหมาด เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในชั้นผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเสริมเกราะป้องกันผิว เช่น เซราไมด์ กลีเซอรีน หรือกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำ และทำให้ผิวบริเวณร่องจมูกชุ่มชื้น
หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น
การอาบน้ำอุ่นเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาข้างจมูกลอก จึงควรลดการอาบน้ำอุ่น หรือถ้าต้องการอาบน้ำอุ่นก็อย่าให้น้ำอุ่นโดนบริเวณหน้าเพื่อป้องกันผิวหน้าแห้งลอก
ใช้ครีมกันแดด
แสงแดดเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวแห้งเสียและเกิดการลอก ควรใช้ครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน แม้จะไม่โดนแดด เพื่อป้องกันการระคายเคืองบริเวณจมูก
เสริมความชุ่มชื้นจากภายใน
การดูแลผิวจากภายในมีความสำคัญไม่แพ้การบำรุงจากภายนอก ควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันอย่างน้อย 8 แก้ว และเลือกรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันดี เช่น โอเมก้า 3 รวมถึงอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผัก ผลไม้ ถั่วและเมล็ดพืช ซึ่งช่วยเสริมสุขภาพผิวจากภายในให้แข็งแรงและชุ่มชื้นยิ่งขึ้น
ขอบจมูกลอกจำเป็นต้องพบแพทย์ไหม
การที่ขอบจมูกลอกไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ถ้ามีอาการเล็กน้อย แต่ถ้ามีอาการผิวจมูกลอกเยอะ ไม่ได้ลอกเป็นขุย ลอกเป็นแผ่นขนาดใหญ่ รู้สึกแสบคันบริเวณจมูก มีอาการแดงบวมมาก ๆ แนะนำให้รีบพบแพทย์เพราะอาการเหล่านี้เป็นอาการร่องจมูกลอกที่ผิดปกติ ควรรีบหาสาเหตุ และวิธีแก้ไขก่อนที่จะแย่ลงค่ะ
จมูกลอกจากใส่แมสก์บ่อย ทำยังไงไม่ให้ผิวพัง?
ในยุคที่การใส่แมสก์กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน หลายคนอาจเจอกับปัญหาข้างจมูกลอกหรือผิวระคายเคืองจากการเสียดสีของขอบแมสก์ ซึ่งอาจทำให้ผิวลอก แห้ง แดง หรือแม้แต่เกิดสิวตามมาได้
สาเหตุหลักเกิดจาก “แรงเสียดสี” บริเวณขอบแมสก์ รวมถึง “การสะสมของความชื้น-เหงื่อ” ที่รบกวนสมดุลผิว และสร้างภาวะอักเสบซ้ำซ้อน
แนวทางการดูแลผิวเมื่อจำเป็นต้องใส่แมสก์บ่อย
- เลือกแมสก์ที่อ่อนโยน ที่มีขอบสัมผัสนุ่ม ไม่บาดผิว และขนาดพอดี ไม่รัดแน่นจนเกินไป หากเป็น ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกแมสก์ที่ระบุว่า hypoallergenic หรือใช้แมสก์ผ้าแบบซักได้ซ้อนด้านใน
- บำรุงผิวก่อนใส่แมสก์ ด้วยการทาครีมเนื้อบางเบา หรือบาล์มเนื้อบางบริเวณข้างจมูกก่อนใส่แมสก์ทุกครั้ง เพื่อสร้างฟิล์มบาง ๆ ปกป้องผิวจากแรงเสียดสี หลีกเลี่ยงครีมหรือเซรั่มที่มีกรดผลไม้ (AHA, BHA) ก่อนใส่แมสก์ เพราะจะทำให้ผิวไวต่อการระคายเคืองมากขึ้น
- ดูแลผิวหลังถอดแมสก์ ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์อ่อนโยน และทามอยส์เจอไรเซอร์ทันที เพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่ผิวเสียไประหว่างวัน หลีกเลี่ยงการขัดผิวหรือใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวบ่อยในช่วงที่ผิวข้างจมูกลอกหรือบางลง
- พักผิวเป็นระยะ หากอยู่ในที่ปลอดภัย ให้ถอดแมสก์ออกเป็นระยะ เพื่อให้ผิวได้หายใจ ลดความอับชื้น
ถ้าจมูกลอกจากแมสก์ไม่หายภายใน 1–2 สัปดาห์ หรือเริ่มมีอาการแดง แสบ คันรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพราะอาจมีภาวะผิวอักเสบเรื้อรังร่วมด้วย
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์ หากร่องจมูกลอกไม่หาย?
แม้ว่าอาการร่องจมูกลอก ส่วนใหญ่จะสามารถดูแลได้เองด้วยการบำรุงผิวที่เหมาะสมและปรับพฤติกรรม แต่หากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีสัญญาณที่บ่งบอกถึง ความผิดปกติที่ต้องรักษาโดยแพทย์ ควรรีบพบแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียด
สัญญาณที่ควรพบแพทย์ทันที
- ผิวลอกเป็นแผ่นใหญ่ ไม่ใช่แค่ขุยเล็ก ๆ
- มีอาการแสบ คัน เจ็บ หรือปวดร่วมด้วย
- ผิวรอบจมูกแดง บวม หรือมีตุ่มน้ำใส/ผื่นคัน
- อาการลอกเป็น ๆ หาย ๆ เป็นเวลานาน
- ใช้สกินแคร์/มอยส์เจอไรเซอร์แล้วไม่ดีขึ้นภายใน 7–10 วัน
- มีประวัติโรคผิวหนัง เช่น เซ็บเดิร์ม, โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง, โรซาเชีย
- จมูกลอกหลังใช้ยารักษาสิว หรือสารผลัดเซลล์ผิวแล้วลอกรุนแรง
- มีผื่นหรืออาการลอกที่ลามไปยังส่วนอื่น เช่น ข้างแก้ม รอบปาก หน้าผาก
การพบแพทย์ผิวหนังจะช่วยอะไรได้บ้าง?
- แพทย์จะสามารถวินิจฉัยว่าอาการลอกนั้นเกิดจากผิวแห้งปกติ หรือมีโรคผิวหนังซ่อนอยู่
- อาจมีการจ่ายยาทาเฉพาะทาง เช่น ยาแก้อักเสบ สเตียรอยด์อ่อน หรือยาต้านเชื้อรา (ในกรณีเป็นเซ็บเดิร์ม)
- ปรับแผนการดูแลผิวให้เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาเฉพาะจุด
- หากมีภาวะซ้ำซ้อน เช่น สิวร่วมกับผิวแห้งลอก แพทย์จะออกแบบการรักษาให้ไม่กระตุ้นอาการให้แย่ลง
อย่าปล่อยให้ผิวลอกเรื้อรังจนกลายเป็นจุดอ่อนของผิวในระยะยาว เพราะอาจเสี่ยงต่อการอักเสบ แพ้ง่าย หรือเกิดแผลเป็นได้ในอนาคต
ข้างจมูกลอก แต่งหน้าไม่ติด แก้ยังไงดี?
อาการข้างจมูกลอกจนทำให้ แต่งหน้าไม่ติด หรือ รองพื้นตกร่อง เป็นปัญหาที่หลายคนต้องเจอ โดยเฉพาะในช่วงเช้าหลังตื่นนอนหรือฤดูหนาวที่อากาศแห้ง เพราะบริเวณข้างจมูกเป็นจุดที่ผิวบาง ระเหยน้ำเร็ว และเกิดการเสียดสีง่ายจากการเช็ดหน้า แว่นตา หรือแม้แต่การเกาที่ไม่รู้ตัว
แนวทางการแก้ไข
- บำรุงผิวก่อนแต่งหน้า ให้ทาครีมบำรุง หรือมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อครีม (ไม่ใช่เจล) อย่างน้อย 10–15 นาที ก่อนลงรองพื้น เพื่อให้ผิวมีเวลาซึมซับ และช่วยให้รองพื้นเกาะผิวดีขึ้น
เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเซราไมด์หรือกรดไฮยาลูโรนิก เพื่อเก็บน้ำไว้ในผิว - ลงไพรเมอร์เฉพาะจุด ใช้ไพรเมอร์เนื้อซิลิโคนบางเบา บริเวณข้างจมูกก่อนลงรองพื้น จะช่วยให้ผิวเรียบลื่นและไม่เป็นขุย
- แต่งหน้าด้วยฟองน้ำชุบน้ำหมาด ๆ วิธีนี้ช่วยลดการดึงความชื้นจากรองพื้น และช่วยให้เนื้อรองพื้นติดผิวได้แนบสนิทโดยไม่เน้นขุยแห้ง
- เลี่ยงรองพื้นแบบแมตต์จัด หากข้างจมูกแห้งมาก ให้เลี่ยงรองพื้นแบบแมตต์หรือแบบปิดเต็มที่ (Full coverage) เพราะจะยิ่งดึงความชื้นจากผิว ทำให้ลอกมากกว่าเดิม
- ดูแลผิวต่อเนื่องช่วงกลางคืน ทาครีมเข้มข้นก่อนนอน เช่น สลีปปิ้งมาสก์ หรือน้ำมันบำรุงผิว เพื่อฟื้นฟูผิวช่วงพักผ่อนให้กลับมาแข็งแรง ไม่ลอกง่าย
หากแต่งหน้าทุกวัน แต่อาการจมูกลอกยังเป็นซ้ำ ๆ ควรประเมินสกินแคร์หรือพฤติกรรมที่อาจไปทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว เช่น การสครับแรงเกินไป หรือใช้โทนเนอร์ที่มีแอลกอฮอล์สูง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับร่องจมูกลอก
หลายคนที่ประสบกับอาการร่องจมูกลอกอาจยังมีข้อสงสัยในรายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุที่เกิดเฉพาะช่วงเวลา การดูแลฉุกเฉินแบบไม่มีผลิตภัณฑ์เฉพาะ หรือข้อแตกต่างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงในแง่การดูแลผิว เพื่อให้ข้อมูลครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ที่พบได้จริง บทความนี้จึงรวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับร่องจมูกลอก พร้อมคำตอบที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทันทีในชีวิตประจำวัน
Q : จมูกลอกเฉพาะตอนเช้า เกิดจากอะไร?
A : อาการจมูกลอกที่เด่นชัดในช่วงเช้ามักเกิดจากการนอนในห้องแอร์เป็นเวลานาน ซึ่งทำให้ความชื้นในอากาศลดลงมาก ผิวจึงสูญเสียน้ำตลอดคืน ส่งผลให้เมื่อตื่นมาจะเห็นขุยผิวชัดเจนบริเวณร่องจมูก โดยเฉพาะในคนที่ไม่ได้ทาครีมบำรุงก่อนนอนหรือไม่ได้ดื่มน้ำเพียงพอในช่วงเย็น
Q : ใช้ลิปบาล์มทาร่องจมูกได้ไหมถ้าไม่มีมอยส์เจอไรเซอร์?
A : ในกรณีฉุกเฉิน ลิปบาล์มที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือเมนทอลสามารถใช้ทาบริเวณร่องจมูกได้เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ระยะยาว เพราะลิปบาล์มไม่ได้ออกแบบมาเพื่อผิวหน้า อาจก่อให้เกิด สิวอุดตัน ในภายหลัง ควรหามอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวหน้าจะปลอดภัยกว่า
Q : จมูกลอกแต่ยังมันบริเวณ T-Zone แบบนี้ผิดปกติไหม?
A : ไม่ผิดปกติค่ะ อาการผิวมันและลอกพร้อมกันสามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในคนที่มี ผิวขาดน้ำ ผิวจะผลิตน้ำมันออกมาเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำ แต่ยังคงขาดความชุ่มชื้นในระดับลึก ส่งผลให้เกิดหน้ามัน และลอกเป็นขุยได้พร้อมกัน
Q : ร่องจมูกลอกเป็นแผล ต้องทำยังไง?
A : หากเริ่มมีแผลหรือผิวลอกจนเลือดซึม ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองทันที หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าและใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เน้นฟื้นฟูผิว เช่น มีเซราไมด์ หรือแพนทีนอล และหากอาการไม่ดีขึ้นใน 3 วัน ควรพบแพทย์ผิวหนัง
Q : ร่องจมูกลอกบ่อย เกิดจากภูมิแพ้ไหม?
A : เป็นไปได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มี ภูมิแพ้จมูก (Allergic Rhinitis) ที่ต้องสั่งน้ำมูกหรือเช็ดจมูกบ่อย ๆ อาจทำให้ผิวบางและลอกซ้ำ ๆ ได้ ควรรักษาภูมิแพ้ร่วมด้วย และบำรุงผิวสม่ำเสมอ
Q : เป็นผู้ชายไม่แต่งหน้า จำเป็นต้องดูแลร่องจมูกไหม?
A : แม้ไม่แต่งหน้า แต่ผิวบริเวณจมูกที่แห้งลอก อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจได้ และยังมีโอกาสอักเสบหากไม่ดูแล จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงพื้นฐาน เช่น มอยส์เจอไรเซอร์อ่อนโยนประจำวัน
สรุป
ร่องจมูกแห้งลอกเป็นปัญหาที่ดูเหมือนจะแก้ไขได้ง่าย ๆ แต่ถ้าละเลย ปล่อยทิ้งไว้อาจจะทำให้อาการจมูกลอกหนักขึ้นได้ และมีปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่นอาการแสบคัน แต่งหน้าไม่เรียบเนียน ไม่ติดทน จึงควรใส่ใจกับปัญหาร่องจมูก และรักษาทันทีที่รู้ว่าเป็น หากอยากเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเพื่อแก้ปัญหาข้างจมูกลอกสามารถเข้ามาปรึกษากับ Vincent Clinic Aesthetic ก่อนได้ค่ะ