บทความ
ฟิลเลอร์ e.p.t.q จากเกาหลี ดีไหม อยู่ได้นานแค่ไหน ราคาเท่าไร
แชร์ :

ฟิลเลอร์ e.p.t.q จากเกาหลี ดีไหม อยู่ได้นานแค่ไหน ราคาเท่าไร

filler eptq
อยากอ่านอะไร จิ้มที่หัวข้อได้เลย!

ฟิลเลอร์ e.p.t.q จากประเทศเกาหลีอีกหนึ่งตัวที่กำลังเป็นที่นิยม สามารถนำมาเติมเต็มผิว แก้ไขปัญหาใบหน้าได้หลายบริเวณ ในบทความนี้จะพามารู้จักกับฟิลเลอร์ตัวนี้ว่าดีไหม มีกี่รุ่น ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน และแต่ละรุ่นราคาเท่าไรค่ะ

ฟิลเลอร์ e.p.t.q คืออะไร

ฟิลเลอร์ e.p.t.q. (อี.พี.ที.คิว) คือฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี ที่ผลิตโดยบริษัท Jetema Co., Ltd. ซึ่ง e.p.t.q นั้นย่อมาจาก Exquisite Precision Technique Quality ซึ่งแต่ละคำมีความหมายดังนี้

  • Exquisite ใช้สารไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีความเข้มข้น เนื้อละเอียด
  • Precision ใช้กระบวนการผลิตที่ทำให้ฟิลเลอร์มีความปลอดภัย
  • Technology ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทำให้ฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมาะสำหรับฉีดในชั้นผิว
  • Quality ใช้มาตรฐานระดับสากลในการควบคุมคุณภาพการผลิตให้

ในปัจจุบันมีการนำเข้าและจัดจำหน่ายฟิลเลอร์ e.p.t.q ในประเทศไทยอย่างถูกต้องโดยบริษัท Aestema Thailand ซึ่งฟิลเลอร์ตัวนี้เป็นสารเติมเต็มที่มีความปลอดภัยสูง นำมาฉีดเข้าสู่ชั้นผิวโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย ได้รับการรับรองความปลอดภัยโดยอย.ยุโรป อเมริกา เกาหลี และไทย

ฟิลเลอร์ e.p.t.q ดีไหม ต่างจากรุ่นอื่นอย่างไร

ฟิลเลอร์ e.p.t.q มีความเข้มข้นของสารไฮยาลูรอนิกถึง 24 mg/ml โดยมีการใช้เทคโนโลยีการผลิตด้วยกันถึง 2 เทคโนโลยีดังนี้

เทคโนโลยีฟิลเลอร์ eptq

2CM Technology (Two Crosslinking Method)

เทคโนโลยีนี้จะทำให้โมเลกุลของฟิลเลอร์เกาะกัน 2 รูปแบบ ได้แก่

  • Chemical Crosslinking ทำให้โมเลกุลของ Hyaluronic Acid (HA) มีความแข็งแรงและคงตัว
  • Physical Crosslinking ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ทำให้ฟิลเลอร์สามารถปรับรูปทรงได้ดี

ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะลดการใช้สาร BDDE ซึ่งเป็นสารเชื่อมพันธะฟิลเลอร์เข้าด้วยกัน ให้เหลือเพียงแค่ 1% เท่านั้น ซึ่งหากใช้มากเกินไปอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ และเทคโนโลยีนี้ยังส่งผลให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง อยู่ได้นาน รวมถึงสามารถยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ZEEP Technology (Zero Endotoxin & BDDE Entire Process)

เทคโนโลยีนี้ช่วยลดการปนเปื้อนของสาร Endotoxin ซึ่งคือสารพิษที่มีอยู่บริเวณด้านนอกของผนังเซลล์แบคทีเรียแกรมลบ ให้มีน้อยกว่า 0.1 EU/ml ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นๆ นอกจากนี้ยังมีขั้นตอน Downing Process ที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีอนุภาคขนาดเล็ก กลืนไปกับผิวได้ดี

และยังมีกระบวนการผลิตที่ปลอดภัยใช้ THE 9 PROCESS ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตที่มีความเข้มงวด ที่ทำให้ฟิลเลอร์มีความปลอดภัย มีค่าความเป็นกรดด่างที่เหมาะสมกับผิว ลดอาการอักเสบหลังฉีด และผลข้างเคียงให้น้อยลง

ฟิลเลอร์ e.p.t.q มีกี่รุ่น 

ในปัจจุบันฟิลเลอร์ e.p.t.q ที่ผ่านอย.ไทย มีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่นดังนี้

  • e.p.t.q S100 (กล่องสีเขียว) เป็นรุ่นนี้มีเนื้อนิ่มที่สุด เนื้อฟิลเลอร์มีความละเอียด โมเลกุลเล็กมาก เหมาะสำหรับนำมาฉีดในชั้นตื้น แก้ไขริ้วรอยตื้นๆ บนผิว กลืนไปกับผิวได้ดีมีความเป็นธรรมชาติ ฉีดแล้วฟิลเลอร์ไม่เป็นก้อน
  • e.p.t.q S300 (กล่องสีส้ม) มีเนื้อแข็งปานกลาง ยืดหยุ่นสูง เกาะกับผิวได้ดี เหมาะสำหรับนำมาฉีดในผิวชั้นกลาง และผิวชั้นลึก แก้ไขริ้วรอยร่องลึก รวมถึงปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อนหลังจากฉีด
  • e.p.t.q S500 (กล่องสีน้ำเงิน) เป็นรุ่นที่มีเนื้อแข็งมากที่สุด เนื้อฟิลเลอร์คงตัวได้ดี ไม่เคลื่อนที่ไปจากจุดที่ฉีด แต่ยังยืดหยุ่นได้ เหมาะสำหรับนำมาฉีดในผิวชั้นลึก ปรับแต่งรูปหน้า ทดแทนกระดูกที่ทรุดตัวลง ยกกระชับใบหน้าได้ดี ไม่ควรนำมาฉีดที่ผิวชั้นตื้นเพราะเนื้อแข็งอาจเกิดเป็นก้อนได้

ฉีดฟิลเลอร์ e.p.t.q บริเวณไหนได้

บริเวณที่สามารถฉีดได้จะขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์ e.p.t.q โดยแต่ละรุ่นจะมีบริเวณที่เหมาะสมกับเนื้อฟิลเลอร์ที่ไม่เหมือนกัน โดยแต่ละรุ่นของ e.p.t.q filler สามารถนำมาฉีดได้ดังนี้

  • e.p.t.q S100 (กล่องสีเขียว) เหมาะสำหรับนำมาฉีดชั้นตื้น แก้ไขริ้วรอยที่บริเวณหน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตาชั้นตื้น ฉีดขมับได้ แต่ถ้ามีปัญหาขมับตอบมากอาจเติมเต็มได้ไม่ดี และสามารถนำมาฉีดเพื่อลดร่องริมฝีปากทำให้ทาลิปสติกได้สวยขึ้น ลิปไม่ตกร่อง
  • e.p.t.q S300 (กล่องสีส้ม) เหมาะสำหรับนำมาฉีดเพื่อเติมเต็มปรับรูปหน้าในผิวชั้นกลางถึงลึก โดยมักจะใช้มาฉีดที่หน้าผากเพื่อเพิ่มความนูนของหน้าผาก ปรับทรงหน้าผากให้เป็นตามที่ต้องการ ฉีดฟิลเลอร์ขมับเติมเต็มขมับตอบ ฉีดที่ร่องแก้ม และเติมวอลลุ่มให้ริมฝีปาก ปรับทรงปากให้อวบอิ่มมากขึ้น
  • e.p.t.q S500 (กล่องสีน้ำเงิน) เหมาะสำหรับนำมาฉีดเพื่อเติมเต็มในชั้นลึก เช่น มีปัญหาใต้ตาเป็นหลุมลึก ทำให้ใบหน้าดูโทรมรุ่นนี้สามารถเข้าไปเติมเต็มใต้ตาชั้นลึก เพื่อทดแทนกระดูกช่วงใต้ตาทำให้เมื่อฉีดใต้ตาชั้นตื้นฟิลเลอร์จะได้ไม่ไหล และยังสามารถนำมาแก้ปัญหาบนใบหน้าได้หลายที่อีกอย่างมีปัญหาหน้าแก้มแบน กระดูกหน้าแก้มทรุดตัว รวมถึงการนำมาฉีดที่จมูก คาง ฉีดที่กรอบหน้าเพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้าเหมาะสำหรับผู้ชาย และยังนำไปฉีดยกกระชับได้ทั่วใบหน้า แต่ต้องเป็นชั้นลึกเท่านั้นถ้าฉีดในชั้นตื้นจะเป็นก้อน ดูไม่เป็นธรรมชาติ

หลังฉีด e.p.t.q filler อยู่ได้นานไหม

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ e.p.t.q สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 – 15 เดือน แต่จะขึ้นอยู่กับรุ่น และการดูแลหลังฉีด ซึ่งระยะเวลาการอยู่ได้นานของแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันดังนี้

  • e.p.t.q S100 (กล่องสีเขียว) ผลลัพธ์หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 6 – 9 เดือน
  • e.p.t.q S300 (กล่องสีส้ม) ผลลัพธ์หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 9 – 12 เดือน
  • e.p.t.q S500 (กล่องสีน้ำเงิน) ผลลัพธ์หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 12 – 15 เดือน

ฟิลเลอร์ e.p.t.q ราคาเท่าไร

ราคาของฟิลเลอร์ e.p.t.q จะแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกใช้ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ และราคาของแต่ละคลินิกในตอนนั้น โดยฟิลเลอร์ e.p.t.q ราคาประมาณ 5,000 – 10,000 บาท/cc  หากมีราคาที่ถูกเกินไปควรเช็กให้ดีก่อนตัดสินใจฉีด

วิธีเช็ค eptq ของแท้

วิธีเช็กฟิลเลอร์ e.p.t.q ของแท้

เนื่องจากในปัจจุบันฟิลเลอร์เป็นที่นิยมอย่างมาก จึงมีการผลิตฟิลเลอร์ออกมาหลายๆ รุ่น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปลอมนั้นทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตราย และแก้ไขได้ยาก ดังนั้นก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้งควรตรวจสอบให้ละเอียดว่าฟิลเลอร์เป็นฟิลเลอร์แท้ มีการนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย โดยมีวิธีเช็คฟิลเลอร์ e.p.t.q ดังนี้

  • สามารถแสกน QR Code เพื่อเช็กได้ ซึ่งหากเป็นของแท้จะขึ้นว่า “ผลิตภัณฑ์นี้เป็นของแท้” หากขึ้นรูปกากบาทแทน แปลว่าเป็นฟิลเลอร์ปลอม
  • มีเลขอย. และเอกสารเกี่ยวกับฟิลเลอร์เป็นภาษาไทย
  • มีโลโก้บริษัท เอสทีมา จำกัด ที่เป็นบริษัทที่จัดจำหน่ายในไทยบนกล่อง

สรุป

ฟิลเลอร์ e.p.t.q เป็นฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลีโดยในปัจจุบันมีให้เลือกใช้ทั้งหมด 3 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน และเหมาะสำหรับฉีดในบริเวณที่แตกต่างกัน ฟิลเลอร์ e.p.t.q จึงสามารถนำมาฉีดแก้ปัญหาผิวหน้าได้อย่างครอบคลุม สำหรับคนที่สนใจอยากจะฉีดฟิลเลอร์ ที่มีปัญหาใบหน้าแต่ไม่รู้จะเลือกใช้หัตถการไหนดี สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic Skin โดยทีมแพทย์จะคอยให้คำปรึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดค่ะ

Scroll to Top