ฉีดไขมันร่องแก้ม เป็นหนึ่งในวิธีปรับรูปหน้า และลดริ้วรอยร่องแก้มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน การเติมร่องแก้มด้วยไขมันตัวเองนั้นไม่เพียงช่วยให้ผิวดูเต็มฟูและลดความลึกของร่องแก้ม แต่ยังมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูผิวในระดับเซลล์ ด้วยองค์ประกอบของสเต็มเซลล์ในไขมัน ในบทความนี้ Vincent Clinic Aesthetic จะพามาทำความรู้จักเกี่ยวกับฉีดไขมันร่องแก้ม
Key Takaways
- ฉีดไขมันร่องแก้ม คือการดูดไขมันตัวเองจากหน้าท้องหรือต้นขา แล้วฉีดเติมร่องแก้มที่ลึกให้ตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ให้หน้าเด็กลงด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ต้องใช้สารสังเคราะห์ และช่วยฟื้นฟูผิวด้วยสเต็มเซลล์ในไขมัน
- การเติมร่องแก้มด้วยไขมันด้วยเอง มีความปลอดภัย เพราะใช้ไขมันของตัวเอง ลดความเสี่ยงแพ้สารแปลกปลอมได้ดี
- การฉีดไขมันร่องแก้มตอบโจทย์กับผู้ที่มีร่องแก้มลึก อยากเลี่ยงฟิลเลอร์ และมีไขมันสะสมเพียงพอ
- ผลลัพธ์ของการฉีดร่องแก้มด้วยไขมัน จะเริ่มเห็นผลหลังพักฟื้น 5-14 วัน เห็นผลชัดเต็มที่ใน 1-3 เดือน ผลลัพธ์ของการฉีดไขมันร่องแก้ม สามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปี และอาจนานถึง 5 ปีหากเติมซ้ำและดูแลดี
- ควรหลีกเลี่ยงนวดหน้า ออกกำลังกาย และเลเซอร์อย่างน้อย 2-3 เดือนแรกหลังฉีดไขมันร่องแก้ม
- ราคาของการฉีดเติมไขมันที่หน้าโดยประมาณ อยู่ที่ 15,000-20,000 บาท แล้วแต่แพ็กเกจและปริมาณไขมัน
- ความแตกต่งของการฉีดไขมันกับการฉีดฟิลเลอร์ คือไขมันอยู่ได้นานกว่า ดูเป็นธรรมชาติ แต่ใช้เวลาฟื้นตัว ส่วนฟิลเลอร์เห็นผลไว ไม่ต้องดูดไขมัน แต่ผลอยู่ไม่นาน
ฉีดไขมันร่องแก้ม คืออะไร
ฉีดไขมันร่องแก้ม หรือเติมไขมันร่องแก้ม คือการนำไขมันส่วนเกินจากร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก จากนั้นนำไขมันไปปั่นแยกแล้วนำเซลล์ไขมันที่คุณภาพดีมาใช้เติมเต็มบริเวณร่องแก้มที่ลึกยุบตัว เพื่อให้ร่องแก้มตื้นขึ้น ดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติใบหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์ค่ะ
การฉีดไขมันร่องแก้ม อันตรายไหม
การฉีดไขมันร่องแก้มมีความปลอดภัยสูง เพราะใช้ไขมันของตัวเองในการเติมเต็ม จึงลดความเสี่ยงในการแพ้หรือเกิดอาการแพ้สารแปลกปลอมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากไขมันที่นำมาใช้จะนำไปปั่นแยกเพื่อคัดเลือกเฉพาะเซลล์ไขมันที่มีคุณภาพดีที่สุดมาใช้ จากนั้นนำไขมันที่คัดแยกแล้วมากรองอีกทีด้วยหัวกรองชนิดพิเศษ ซึ่งไขมันที่คัดแยกจะมีส่วนประกอบของเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูสภาพผิว
แต่ถึงแม้การฉีดไขมันร่องแก้มจะไม่อันตราย แต่อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยหลังฉีด เช่น อาการบวมหลังฉีด มีรอยเขียวช้ำในบริเวณร่องแก้ม และจุดที่ดูดไขมันออกมาใช้ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการปกติที่จะเกิดขึ้นหลังจากฉีดเติมไขมันใบหน้าค่ะ
เติมไขมันร่องแก้มมีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง
การฉีดเติมไขมันที่ร่องแก้มเป็นหนึ่งในวิธีแก้ไขร่องแก้มลึกที่ได้รับความนิยม ซึ่งมีข้อดี และข้อเสียของการฉีดไขมันร่องแก้มที่ควรรู้ก่อนฉีดดังนี้
ข้อดีของการฉีดไขมันร่องแก้ม
- ใช้ไขมันจากร่างกายตัวเอง ลดโอกาสเกิดอาการแพ้หรือปฏิกิริยาต่อต้านจากร่างกาย
- ช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มลึกอย่างได้ผล ดูอ่อนวัยและสดใสมากขึ้น
- เจ็บตัวเพียงครั้งเดียวทั้งในขั้นตอนดูดและฉีดไขมัน โดยไม่ต้องฉีดซ้ำบ่อย ๆ
- ระยะพักฟื้นไม่นานสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ภายในไม่กี่วัน
- มีความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับวิธีการแก้ไขปัญหาร่องแก้มด้วยวิธีอื่น ๆ
ข้อเสียของการฉีดไขมันร่องแก้ม
- ผู้ที่มีไขมันในร่างกายน้อยเกินไปอาจไม่สามารถเข้ารับการฉีดไขมันได้ เพราะไม่มีไขมันส่วนเกินเพียงพอสำหรับการดูด และนำมาใช้
- ในช่วงแรกหลังการฉีดอาจต้องมีการติดตามผลการเกาะตัวของไขมันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากไขมันบางส่วนอาจสลายตัวไปตามธรรมชาติ
- มีโอกาสที่ไขมันที่ฉีดเข้าไปจะสลายตัวทำให้ต้องเติมไขมันเพิ่ม
- การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักตัวในอนาคต เช่น การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลต่อปริมาณไขมันที่เติมทำให้ผลลัพธ์เปลี่ยนแปลงได้
- หากเทคนิคไม่เหมาะสม อาจทำให้ไขมันไม่ติด หรือเกิดก้อนแข็งใต้ผิวหนัง
- ใช้เวลาในการทำนานเนื่องจากต้องมีการเตรียมไขมันและปั้นแต่งอย่างละเอียด
การเติมไขมันร่องแก้มเหมาะกับใคร
สำหรับผู้ที่ต้องการเติมไขมันร่องแก้ม สงสัยว่าตัวเองเหมาะกับการทำหัตถการนี้หรือไม่ มีใครบ้างที่เหมาะกับการเติมไขมันที่ร่องแก้ม
- ผู้ที่มีร่องแก้มลึกจากวัยหรือโครงสร้างใบหน้า เมื่ออายุเพิ่มขึ้นผิวหนังจะสูญเสียคอลลาเจนและความยืดหยุ่นตามธรรมชาติ ส่งผลให้ร่องแก้มดูเด่นชัดขึ้น หรือบางคนแม้อายุยังน้อยแต่มีโครงสร้างใบหน้าที่ทำให้เกิดร่องแก้มลึกตามพันธุกรรม
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขร่องลึกด้วยไขมันตัวเอง การใช้ไขมันของตัวเองในการเติมเต็มถือเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงสารสังเคราะห์ เช่น ฟิลเลอร์ เพราะไขมันจากร่างกายมีความปลอดภัยสูง และลดความเสี่ยงต่อการแพ้หรือการเกิดปฏิกิริยาต่อสารแปลกปลอม
- ผู้ที่มีไขมันสะสมเพียงพอ การเติมไขมันร่องแก้มต้องอาศัยไขมันจากร่างกายของตัวเอง ดังนั้นต้องมีไขมันสะสมที่เพียงพอ ถ้าผอมมาก หรือมีไขมันในร่างกายน้อยอาจไม่สามารถดูดไขมันมาใช้งานได้
- ผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวรุนแรง การเติมไขมันร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคเรื้อรังที่อาจส่งผลต่อกระบวนการสมานตัวของแผล เช่น โรคเบาหวาน หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบการแข็งตัวของเลือด
วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดไขมันร่องแก้ม
การเตรียมตัวอย่างถูกต้องก่อนเข้ารับบริการฉีดไขมันร่องแก้ม เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน โดยมีวิธีเตรียมตัวก่อนฉีดไขมันร่องแก้มดังนี้
- หลีกเลี่ยงอาหารเสริมและยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ก่อนเข้ารับบริการประมาณหนึ่งสัปดาห์ ควรงดรับประทานวิตามินทุกชนิด น้ำมันตับปลา สมุนไพร และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาช้ำ หรือเลือดออกมากในระหว่างหรือหลังการทำหัตถการ หากมียาประจำที่ต้องรับประทาน ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบเพื่อประเมินความเสี่ยงและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม
- หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มบางประเภท ก่อนฉีดไขมันร่องแก้มควรงดบริโภคของหมักดอง แอลกอฮอล์ บุหรี่ รวมถึงชาและกาแฟอย่างน้อย 1-2 วัน เพื่อไม่ให้ร่างกายมีภาวะอักเสบ หรือเกิดการบวมช้ำมากกว่าปกติ และควรงดอาหารก่อนทำการรักษาประมาณ 6 ชั่วโมง แต่สามารถจิบน้ำได้เล็กน้อยหากรู้สึกกระหาย
- ดูแลสุขภาพให้พร้อมก่อนวันนัด ควรหลีกเลี่ยงการเข้ารับบริการในช่วงที่ร่างกายไม่สมบูรณ์ เช่น กรณีมีไข้ ไอ เจ็บคอ หรืออาการป่วยต่าง ๆ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของบาดแผล และเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อ หากมีประวัติโรคประจำตัว การแพ้ยา หรือเคยมีการผ่าตัดหรือทำศัลยกรรมมาก่อน ต้องแจ้งแพทย์อย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัย
- การดูแลตัวเองให้พร้อม ในวันนัดหมายควรสระผมให้เรียบร้อยล่วงหน้า งดแต่งหน้า ทาครีม หรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทุกชนิดบนใบหน้า เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ถอดง่าย เช่น เสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า เพื่อความสะดวกหลังฉีดไขมันร่องแก้ม
ขั้นตอนการฉีดไขมันร่องแก้ม
การฉีดไขมันร่องแก้มเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยทั้งความชำนาญทางการแพทย์ กระบวนการทำงานมีความละเอียดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผนไปจนถึงการฉีดไขมันจริงบนใบหน้า โดยขั้นตอนการฉีดไขมันร่องแก้มดังนี้
- วางแผน และออกแบบ ก่อนทำการฉีดไขมัน แพทย์จะวิเคราะห์รูปหน้าโดยละเอียด วาดและมาร์กจุดที่มีปัญหาร่องลึก รวมถึงออกแบบตำแหน่งที่ต้องการเติมไขมัน เพื่อให้ผลลัพธ์สอดคล้องกับสัดส่วนใบหน้าของแต่ละบุคคล
- การเตรียมบริเวณที่จะดูดไขมัน แพทย์จะทำการมาร์กตำแหน่งที่จะดูดไขมัน เช่น หน้าท้องหรือต้นขา จากนั้นทายาฆ่าเชื้อ และฉีดยาชาด้วยเทคนิค Tumescent ซึ่งช่วยลดการเสียเลือด อาการบวม และความเจ็บปวดระหว่างทำหัตถการ
- ดูดไขมัน การดูดไขมันจะใช้เครื่องดูดระบบสั่น (PAL : Power-Assisted Liposuction) ร่วมกับไซริงค์ขนาดเล็ก เพื่อรักษาคุณภาพของเซลล์ไขมันให้อยู่ในสภาพดีที่สุด ลดการทำลายเซลล์และเพิ่มโอกาสในการเกาะตัวภายหลังการฉีด
- การสกัดและเตรียมไขมัน ไขมันที่ดูดออกมาจะถูกนำไปปั่นแยกด้วยเครื่องคุณภาพสูง เพื่อคัดกรองเฉพาะไขมันที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังมีการเสริมประสิทธิภาพเซลล์ไขมันด้วยการเติม Super PRP (เกล็ดเลือดเข้มข้น) เพื่อช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อและเพิ่มอัตราการอยู่รอดของไขมัน
- ฉีดไขมันเข้าร่องแก้ม แพทย์จะฉีดไขมันเข้าสู่ใบหน้าโดยใช้เทคนิค Microdroplet และ Nanodroplet ซึ่งเป็นการฉีดไขมันปริมาณน้อย ๆ อย่างสม่ำเสมอในแต่ละชั้นผิว วิธีนี้ช่วยให้ไขมันกระจายตัวดี มีการสัมผัสกับเนื้อเยื่อโดยรอบอย่างทั่วถึง
- รอดูอาการหลังทำ หลังจากฉีดไขมันเสร็จจะดูอาการประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง จากนั้นสามารถกลับบ้านได้โดยไม่ต้องนอนพักที่คลินิก หรือสถานพยาบาล
ฉีดไขมันร่องแก้มต้องพักฟื้นไหม กี่วันเห็นผล
หลังการฉีดไขมันร่องแก้ม ผู้รับบริการมักกังวลว่าใบหน้าจะบวมช้ำนานแค่ไหน และเมื่อไหร่จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติ หัวข้อนี้จะพาคุณเข้าใจช่วงเวลาฟื้นตัว ตั้งแต่วันแรกจนถึงจุดที่ใบหน้าเข้าที่
- 24 ชม. แรก : หลีกเลี่ยงการสัมผัส
- 3–7 วัน : ช้ำ/บวม ระยะฟื้นตัวเบื้องต้น
- 2–4 สัปดาห์ : หน้าเริ่มเข้าที่ เห็นผลชัดระดับหนึ่ง
- 1–3 เดือน : เห็นผลเต็มที่ ไขมันเริ่ม “ติดจริง” สวยธรรมชาติ
เติมไขมันร่องแก้มอยู่ได้นานไหม
สำหรับหลายคนที่สนใจฉีดไขมันร่องแก้ม คำถามสำคัญที่มักเกิดขึ้นคือ “ไขมันที่ฉีดไปจะอยู่ได้นานแค่ไหน?” ในหัวข้อนี้ เราจะพาไปเจาะลึกเรื่องความคงตัวของไขมันหลังฉีด และปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์อยู่กับเราได้นานขึ้น
- เติมครั้งแรก อยู่ได้เฉลี่ย 1–2 ปี
- หากเติมซ้ำในช่วง 3–6 เดือน อยู่ได้นาน 2–5 ปี หรือมากกว่านั้น
- ไขมันที่ “ติดดี” จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้าอย่างถาวร
- น้ำหนักตัว/การออกกำลังกาย/ฮอร์โมน ส่งผลต่อการสลายตัวของไขมัน
- เทคนิคแพทย์และการดูแลหลังทำมีผลอย่างมาก
วิธีดูแลหลังฉีดไขมันร่องแก้ม
หลังฉีดไขมันร่องแก้มการดูแลตัวเองในช่วงแรกมีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปสามารถปรับตัว และไขมันติดได้ดี ส่งผลให้ผลลัพธ์สวยเป็นธรรมชาติและคงอยู่ได้นาน โดยวิธีการดูแลหลังฉีดไขมันร่องแก้มมีดังนี้
- ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ไม่ควรนวด ทาครีม หรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใด ๆ เพราะอาจรบกวนตำแหน่งที่แพทย์เติมไขมันไว้ และเพิ่มโอกาสการติดเชื้อ ในช่วงนี้ควรเน้นการพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการนอนดึก และควรนอนในท่าศีรษะสูงเพื่อช่วยลดอาการบวม
- ภายใน 2–3 วันแรก ควรงดการแต่งหน้า ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์รุนแรง หรือใช้โฟมล้างหน้าที่มีฟองจัด รวมถึงควรเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด อากาศเย็นจัด หรือความร้อน เช่น การเข้าอบซาวน่า
- ในช่วงสัปดาห์แรก ให้หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง รสจัด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรงดการสูบบุหรี่เพราะอาจรบกวนการฟื้นตัวของเนื้อเยื่อ รวมถึงงดการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันมากเกินไป เพราะอาจทำให้ไขมันที่เติมเข้าไปสลายตัวได้เร็วขึ้น
- หลังการฉีดไขมันร่องแก้มประมาณ 2–4 สัปดาห์ ควรระมัดระวังการขยับใบหน้าแรง ๆ เช่น การอ้าปากกว้าง ยิ้มเกร็ง หรือขมวดคิ้ว และหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ ควรนอนหงายเพื่อป้องกันแรงกดทับที่อาจเปลี่ยนรูปของไขมันที่เพิ่งเติมไป
- 2 – 3 เดือนหลังฉีดไขมันร่องแก้ม ห้ามเข้ารับบริการที่ใช้พลังงานความร้อน เช่น เลเซอร์ อัลตร้าซาวด์ หรือทรีตเมนต์หน้า
- ควรเข้าพบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง เพื่อติดตามผลลัพธ์ ตรวจสอบอาการ และให้คำแนะนำเพิ่มเติมตามความเหมาะสม หากพบอาการผิดปกติ เช่น บวมแดงมากกว่าปกติ เจ็บรุนแรง หรือมีไข้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
ฉีดไขมันร่องแก้มราคาเท่าไร
สำหรับราคาของการฉีดไขมันร่องแก้มจะแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ และโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกในตอนนั้น โดยฉีดไขมันร่องแก้มราคาประมาณ 15,000 – 20,000 บาทค่ะ
ฉีดไขมันร่องแก้ม VS ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ร่องแก้มลึกเป็นปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุและเหนื่อยล้า การเติมเต็มร่องแก้มจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งในปัจจุบันมี 2 วิธีหลัก ได้แก่ การฉีดไขมันร่องแก้ม และการฉีดฟิลเลอร์ ทั้งสองวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน การเลือกใช้จึงควรพิจารณาจากความต้องการของแต่ละบุคคลและคำแนะนำจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์
ฉีดไขมันร่องแก้ม
การฉีดไขมันคือการนำไขมันจากร่างกายของตัวเอง เช่น จากหน้าท้องหรือต้นขา มาผ่านกระบวนการสกัดคัดแยก แล้วฉีดกลับเข้าไปยังร่องแก้ม เพื่อเติมเต็มร่องลึกให้ดูอ่อนเยาว์ วิธีนี้ใช้เนื้อเยื่อธรรมชาติ จึงลดความเสี่ยงในการแพ้หรือเกิดผลข้างเคียงจากสารแปลกปลอม
ข้อดีของการฉีดไขมันคือมีความปลอดภัยระยะยาว เมื่อเซลล์ไขมันสามารถเกาะตัวได้ดี ไขมันส่วนนี้จะอยู่ได้นานหลายปีหรืออาจถาวรตามสภาพร่างกายของแต่ละคน อีกทั้งยังมีสเต็มเซลล์ในไขมันที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูสุขภาพดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ไขมันที่ฉีดเข้าไปบางส่วนอาจสลายไปได้ในช่วงแรก จึงอาจต้องมีการเติมซ้ำในภายหลังเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือการใช้สารเติมเต็ม เช่น ไฮยาลูโรนิกแอซิด ซึ่งเลียนแบบสารธรรมชาติในร่างกาย มาฉีดบริเวณร่องแก้มเพื่อปรับผิวให้เรียบเนียน ฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์รวดเร็ว ไม่ต้องดูดไขมัน และใช้เวลาในการทำไม่นาน
ฟิลเลอร์ร่องแก้มไม่ต้องการพักฟื้นหรือเจ็บตัวจากการดูดไขมัน แต่ฟิลเลอร์มีอายุการใช้งานจำกัดอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลรักษาหลังทำ และหากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจเกิดปัญหาบวมเป็นก้อนหรือดูไม่เป็นธรรมชาติได้
การเลือกว่าจะฉีดไขมันร่องแก้ม หรือฟิลเลอร์ร่องแก้มควรพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพผิว ความลึกของร่องแก้ม ปริมาณที่ต้องเติม ความต้องการผลลัพธ์ระยะสั้นหรือยาว รวมถึงงบประมาณและเวลาพักฟื้น หากคุณมีไขมันส่วนเกินและต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน การฉีดไขมันร่องแก้มอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ในขณะที่ฟิลเลอร์เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลทันที และไม่ต้องพักฟื้นค่ะ
ตารางเปรียบเทียบ ฉีดไขมันร่องแก้ม VS ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
รายการเปรียบเทียบ | ฉีดไขมันร่องแก้ม | ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม |
สารที่ใช้เติม | ไขมันจากร่างกายตัวเอง | สาร Hyaluronic Acid (HA) สังเคราะห์ที่คล้ายสารธรรมชาติในร่างกาย |
แหล่งที่มา | ดูดจากหน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพกของผู้รับบริการ | ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจากผู้ผลิตฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรอง |
ความปลอดภัย | สูงมาก เพราะใช้ไขมันของตัวเอง | ปลอดภัยหากใช้ฟิลเลอร์แท้ และฉีดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ |
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน | 1–2 ปี หรือมากกว่า หากไขมันติดดี | 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ |
โอกาสเกิดอาการแพ้ | แทบไม่มี เนื่องจากไม่ใช่สารแปลกปลอม | อาจเกิดได้หากแพ้ส่วนผสม หรือใช้ ฟิลเลอร์ปลอม |
ต้องดูดไขมันก่อน | ต้องมีขั้นตอนดูดไขมันจากร่างกาย | ไม่ต้องดูดไขมัน |
การพักฟื้น | 5–14 วัน อาจบวม ช้ำบริเวณดูดและฉีดไขมัน | พักฟื้นน้อย บวมช้ำเพียงเล็กน้อย |
เห็นผลทันที | เห็นผลบางส่วนทันที ผลชัดใน 1–3 เดือน | เห็นผลทันทีหลังฉีด |
ความเป็นธรรมชาติ | ผิวดูนุ่ม ฟู เป็นธรรมชาติ เนื่องจากใช้เนื้อเยื่อจริง | ขึ้นอยู่กับเทคนิคและชนิดฟิลเลอร์ |
ข้อควรระวังเพิ่มเติม | ไขมันบางส่วนอาจสลาย ต้องติดตามผล อาจต้องเติมซ้ำ | หากฉีดผิดชั้นหรือใช้ฟิลเลอร์คุณภาพต่ำ อาจเกิดก้อนแข็งหรือผิดรูป |
หากต้องการผลลัพธ์ระยะยาวแบบธรรมชาติและมีไขมันเพียงพอ ให้เลือก ฉีดไขมันร่องแก้ม เหมาะสมกว่าแต่ถ้าต้องการปรับใบหน้าเร่งด่วน เห็นผลทันที ไม่ต้องพักฟื้นนาน ให้เลือก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือตัวเลือกที่สะดวกกว่า
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการฉีดไขมันร่องแก้ม
สำหรับหลายคนที่กำลังสนใจฉีดไขมันร่องแก้ม อาจยังมีคำถามหรือความกังวลเกี่ยวกับขั้นตอนการทำ ระยะเวลาพักฟื้น ผลลัพธ์ที่จะได้ หรือความปลอดภัยในระยะยาว เพื่อให้คุณมั่นใจก่อนตัดสินใจ บทความนี้ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยจากประสบการณ์ของแพทย์และผู้เข้ารับบริการจริง พร้อมคำตอบอย่างละเอียดจากมุมมองของคลินิกความงามมืออาชีพ
Q : ฉีดไขมันร่องแก้มแล้วจะบวมกี่วัน?
A : จะมีอาการบวมและช้ำอยู่ประมาณ 3-7 วันแรก ซึ่งเป็นอาการปกติที่เกิดจากการฉีดไขมันและการดูดไขมันจากบริเวณอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้อง หรือต้นขา อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์
Q : ใบหน้าจะเริ่มเข้าที่เมื่อไหร่หลังจากฉีดไขมันร่องแก้ม?
A : ใบหน้าจะเริ่มเข้าที่และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นในช่วง 2-4 สัปดาห์ และผลลัพธ์ชัดเจนจะเห็นได้เต็มที่ในช่วง 1-3 เดือนหลังทำค่ะ
Q : ฉีดไขมันร่องแก้มแล้วต้องฉีดซ้ำหรือไม่?
A : ขึ้นอยู่กับการติดของไขมัน หากไขมันสลายบางส่วน อาจต้องเติมเพิ่มในรอบถัดไปเพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ โดยทั่วไปแนะนำให้พิจารณาเติมในช่วง 3-6 เดือนหลังทำ
Q : ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดไขมันร่องแก้ม?
A : ผู้ที่ไม่มีไขมันส่วนเกินเพียงพอในร่างกาย, มีโรคเรื้อรังที่ส่งผลต่อการสมานแผล เช่น เบาหวาน, หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์โดยละเอียดก่อนทำ
Q : ฉีดไขมันร่องแก้มกับฟิลเลอร์แบบไหนดีกว่า?
A : ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและสภาพร่างกาย หากต้องการผลลัพธ์ระยะยาว ใช้ไขมันของตัวเอง ฉีดไขมันจะเหมาะกว่า แต่หากต้องการเห็นผลไว ไม่ต้องพักฟื้น ฟิลเลอร์อาจเป็นทางเลือกที่สะดวกกว่า
Q : ฉีดไขมันร่องแก้มทำกี่ซีซี?
A : ปริมาณไขมันที่ใช้ขึ้นอยู่กับความลึกของร่องแก้มและสภาพผิว ส่วนมากแล้วจะใช้ประมาณ 5-10 ซีซีต่อข้าง แพทย์จะประเมินตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
Q : หลังฉีดไขมันร่องแก้มสามารถทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์ได้ไหม?
A : ไม่แนะนำให้ทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์ความร้อนใด ๆ ในช่วง 2-3 เดือนหลังฉีด เพราะอาจส่งผลต่อการเกาะตัวของไขมันและทำให้ไขมันสลายเร็วขึ้น
สรุป
การฉีดไขมันร่องแก้มเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ โดยใช้ไขมันจากร่างกายของตัวเองในการเติมเต็มร่องแก้มลึก แต่การเติมไขมันร่องแก้มอาจจะสลายไปตามธรรมชาติได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนไป แต่ก่อนฉีดไขมันร่องแก้มควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ออกมาตรงตามที่ต้องการ หากต้องการฉีดไขมัน เติมไขมันในบริเวณต่าง ๆ สามารถเข้ามาปรึกษากับ Vincent Clinic Aesthetic ได้ค่ะ