มาส์กหน้า เป็นวิธีที่ดูแลผิวที่รวดเร็ว และทำได้ง่ายๆ โดยในปัจจุบันมีให้เลือกใช้อยู่หลายรูปแบบ และแต่ละแบบจะเหมาะกับผิวที่ต่างกันไป ถ้าเกิดเลือกใช้ไม่ถูกนอกจากจะไม่เห็นผลแล้ว ยังอาจทำให้เกิดผิวแห้งลอก หรือเกิดอาการระคายเคืองได้ ในบทความนี้ Vincent Clinic Aesthetic จะพามารู้จักเกี่ยวกับการมาสก์หน้าในแต่ละแบบ และวิธีเลือกให้เหมาะกับผิวค่ะ
Key Takeaway
- มาส์กหน้าคือการบำรุงผิวแบบเร่งด่วนด้วยสารบำรุงเข้มข้น ช่วยฟื้นฟูผิวจากความแห้งล้า ขาดน้ำ มลภาวะ หรือแม้แต่ช่วยลดสิว กระชับรูขุมขน และเพิ่มความกระจ่างใสได้ในเวลาอันสั้น
- จุดเด่นของมาสก์หน้าคือสามารถเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างรวดเร็ว ฟื้นฟูผิวที่ขาดการพักผ่อน ลดความมันส่วนเกิน บรรเทาการอักเสบของผิว และช่วยเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้า
- มาส์กหน้ามีหลายประเภท เช่น มาสก์ชีท มาสก์โคลน มาสก์เจล มาสก์ลอกหน้า ซึ่งแต่ละประเภทจะเหมาะกับผิวที่แตกต่างกัน และช่วยผิวต่างกัน
- มาสก์หน้าไม่เหมาะกับช่วงที่ผิวบอบบางผิดปกติ เช่น หลังเลเซอร์ ผิวลอก ผิวอักเสบ หรือมีแผล เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้น ควรรอให้ผิวฟื้นตัวก่อน
- ข้อควรระวังในการมาส์กหน้าคือไม่ควรทิ้งไว้นานเกินที่ระบุ ไม่มาสก์ซ้ำบ่อยเกินไป หลีกเลี่ยงการใช้หลายสูตรพร้อมกัน และควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้บนใบหน้าเสมอ
- ความถี่ที่เหมาะสมในการมาสก์หน้าคือ 1–3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือมากกว่านั้นเฉพาะกรณีใช้สูตรอ่อนโยน เช่น สลีปปิ้งมาสก์ที่ออกแบบมาให้ใช้ได้ทุกวัน
- ราคามาสก์มีตั้งแต่หลักสิบถึงหลักพัน ไม่จำเป็นต้องใช้ของแพงเสมอไป แต่ควรเลือกจากส่วนผสมที่ตรงกับปัญหาผิวและไม่มีสารระคายเคืองมากกว่า
มาส์กหน้า คืออะไร?
มาส์กหน้า คือ หนึ่งการบำรุงผิวที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพให้การดูแลผิวในทุกๆ วัน ให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะนำมากส์ที่มีสารบำรุงผิวเข้มข้นมาวาง หรือทาไปที่ใบหน้าเพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งจุดเด่นของมาสก์หน้าคือสามารถเพิ่มความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว และช่วยลดความหมองคล้ำหรืออาการอ่อนล้าของผิวจากการพักผ่อนไม่เพียงพอหรือเจอมลภาวะสะสมในแต่ละวัน ในปัจจุบันมาสก์มีทั้งแบบที่ต้องล้างออก เช่น มาสก์โคลนหรือครีม และแบบที่ไม่ต้องล้างออก เช่น แผ่นมาสก์ หรือมาสก์เจลที่ทาทิ้งไว้ก่อนนอน โดยแต่ละแบบจะตอบโจทย์ความต้องการของผิวที่ต่างกัน
มาส์กหน้าช่วยอะไรบ้าง?
การมาส์กหน้าไม่ใช่แค่ขั้นตอนเสริมในรูทีนดูแลผิว แต่เป็นวิธีการบำรุงที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึกในเวลาอันสั้น ด้วยสารบำรุงที่เข้มข้นกว่าครีมหรือเซรั่มทั่วไป มาสก์จึงกลายเป็นไอเทมสำคัญที่หลายคนเลือกใช้ในวันที่ผิวเหนื่อยล้า หรือเมื่อต้องการผลลัพธ์แบบเร่งด่วน ซึ่งสามารถช่วยผิวได้หลายอย่าง เช่น
- เติมความชุ่มชื้นให้ผิว มาสก์หน้าช่วยเพิ่มระดับความชุ่มชื้นให้ผิวได้ลึกกว่าการทามอยส์เจอไรเซอร์ทั่วไป เหมาะสำหรับ ผิวแห้งขาดน้ำ ช่วยให้ผิวนุ่ม อิ่มน้ำ และดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้าหรือผ่านมลภาวะ ช่วยปลอบประโลมผิวที่เหนื่อยล้า ขาดการพักผ่อน หรือเจอมลภาวะสะสมในแต่ละวัน ทำให้ผิวดูสดชื่นและมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ลดสิว ผด ผื่น และความมันส่วนเกิน มาสก์บางสูตรมีคุณสมบัติช่วยดูดซับสิ่งสกปรกจากรูขุมขน ควบคุมความมัน และลดการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของ สิว และผดผื่น
- ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและสีผิวดูสม่ำเสมอ บางสูตรสามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกอย่างอ่อนโยน ลดความหมองคล้ำ จุดด่างดำ และปรับสีผิวให้เรียบเนียนมากขึ้น
- กระชับรูขุมขนและปรับผิวให้เรียบเนียน ด้วยคุณสมบัติของมาสก์ และส่วนผสมต่างๆ ช่วยให้ รูขุมขนกว้าง มีความกระชับขึ้น ทำให้หน้าเรียบเนียน และลดโอกาสเกิดสิวใหม่
- เตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้า การมาสก์ก่อนแต่งหน้าช่วยให้เครื่องสำอางติดทน ผิวดูเรียบเนียนขึ้น และแต่งหน้าได้ง่ายขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
มาสก์หน้ามีกี่ประเภท? ต่างกันอย่างไร?
ปัจจุบันมาสก์หน้ามีให้เลือกหลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบก็มีจุดเด่นและคุณสมบัติเฉพาะที่เหมาะกับสภาพผิวหรือปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนี้
มาสก์ชีท (Sheet Mask)
มาสก์ชีทคือแผ่นมาสก์สำเร็จรูปที่ออกแบบให้มีขนาดพอดีกับใบหน้า ชุบด้วยเซรั่มหรือสารบำรุงผิวสูตรเข้มข้น โดยเน้นการเติมความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว และเป็นที่นิยมเพราะใช้ง่าย สะดวก พกพาง่าย และไม่จำเป็นต้องล้างออกหลังใช้งาน เพียงแปะทิ้งไว้ 15–20 นาที ผิวจะรู้สึกชุ่มชื้นและอิ่มน้ำทันที เหมาะกับผู้ที่มีเวลาน้อยหรืออยากฟื้นฟูผิวหลังจากเหนื่อยล้าหรือเจอมลภาวะ
มาสก์โคลน (Clay/Mud Mask)
มาสก์โคลนจะมีส่วนผสมของโคลนธรรมชาติ เช่น โคลนภูเขาไฟ หรือโคลนทะเลลึก ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซับความมันส่วนเกิน ขจัดสิ่งสกปรกตกค้างในรูขุมขน และช่วยลดการอุดตันที่เป็นต้นเหตุของสิว เมื่อทาลงบนผิวมาสก์จะค่อยๆ แห้งและช่วยให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น หลังล้างออกผิวจะรู้สึกสะอาด สดชื่น และปราศจากความมันส่วนเกิน
มาสก์ครีมหรือเจล (Cream/Gel Mask)
มาสก์ครีม หรือเจลมีลักษณะเป็นเนื้อครีมเข้มข้น หรือเจลใส ช่วยให้ความรู้สึกเย็นและปลอบประโลมผิวได้ดี มักใช้เพื่อเติมความชุ่มชื้นหรือฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้า บางสูตรยังช่วยลดรอยแดงและอาการระคายเคืองจากแสงแดดหรืออากาศแห้งได้ดี โดยเฉพาะมาสก์เจลที่ให้สัมผัสบางเบา เหมาะกับการใช้ในวันที่ผิวต้องการความสบาย ไม่หนักผิว
สลีปปิ้งมาสก์ (Sleeping Mask)
สลีปปิ้งมาสก์ออกแบบมาให้ใช้ในเวลากลางคืน โดยทาทิ้งไว้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงก่อนนอน โดยไม่ต้องล้างออก จุดเด่นคือช่วยเคลือบผิวเพื่อเก็บล็อกความชุ่มชื้นตลอดคืน และฟื้นฟูสภาพผิวที่อ่อนล้าให้กลับมาแข็งแรงในตอนเช้า เนื้อสัมผัสบางเบากว่าครีมทั่วไป ไม่อุดตันรูขุมขน
มาสก์ลอกหน้า (Peel-off Mask)
มาสก์ลอกหน้ามีลักษณะเป็นเนื้อเจลที่ทาแล้วทิ้งไว้จนแห้ง จากนั้นสามารถลอกออกเป็นแผ่นได้ในภายหลัง มีจุดเด่นในการขจัดสิ่งสกปรก เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และ สิวเสี้ยน ให้หลุดออกไป แต่มาสก์ประเภทนี้อาจทำให้รู้สึกตึงผิว หรือระคายเคืองในขณะลอกได้ในบางครั้ง
มาสก์บับเบิล (Bubble Mask)
มาสก์บับเบิลเป็นมาสก์ที่มีลักษณะพิเศษเมื่อสัมผัสกับอากาศจะเกิดฟองฟู่ขนาดเล็กทั่วผิวหน้า ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต พร้อมขจัดสิ่งสกปรกตกค้างภายในรูขุมขน นิยมใช้เพื่อล้างคราบเครื่องสำอาง ฝุ่น หรือความมันสะสมที่ล้างไม่หมด ใช้แล้วผิวจะรู้สึกสะอาด สดใส และเบาสบาย
มาสก์ผง (Powder Mask)
มาสก์ผงมาในรูปแบบของผงแห้งที่ต้องผสมกับน้ำหรือของเหลวอื่นก่อนใช้ มักทำจากสมุนไพรหรือส่วนผสมธรรมชาติ มีคุณสมบัติในการ ผลัดเซลล์ผิวหน้า ขจัดความมัน และช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น สามารถควบคุมอัตราส่วนได้ตามความต้องการ แต่เนื้อสัมผัสอาจหยาบ หรือแห้งเกินไป
มาสก์อุ่น (Thermal Mask)
มาสก์อุ่นจะให้ความรู้สึกอุ่นๆ เมื่อสัมผัสกับผิว ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและเปิดรูขุมขน ทำให้ผิวดูผ่อนคลายและรับสารบำรุงได้ดีขึ้น นิยมใช้เฉพาะจุด เช่น รอบดวงตา หรือบริเวณที่รู้สึกตึงเครียด มักใช้ในวันพักผ่อน หรือหลังวันที่ต้องใช้ผิวหน้าหนัก เช่น หลังออกแดด หรือทำงานหนัก
มาส์กหน้าแบบไหนดี? เลือกให้เหมาะกับผิวแต่ละประเภท
ผิวแต่ละประเภทต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน บางครั้งมาสก์ที่เหมาะกับคนอื่น มีการบอกปากต่อปาก อาจไม่เหมาะกับคนบางกลุ่ม ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรเลือกมาสก์ให้เหมาะลักษณะผิวของตัวเอง ดังนี้
มาส์กหน้าสำหรับผิวแห้ง
ผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดน้ำ หรือรู้สึกตึงหลังล้างหน้า ควรเลือกมาสก์เนื้อครีมหรือเจลที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้น เช่น กรดไฮยาลูโรนิก เซราไมด์ หรือสารสกัดจากพืชที่ให้ความชุ่มชื้นสูง มาสก์ประเภทนี้จะช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งลอกให้กลับมานุ่มเนียน ดูอิ่มน้ำ และลดอาการลอกเป็นขุยได้
มาส์กหน้าสำหรับผิวมัน
ผิวมันมักมีปัญหาเรื่องความมันส่วนเกิน สิวอุดตัน และรูขุมขนกว้าง การเลือกมาสก์จึงควรเน้นไปที่สูตรที่ช่วยควบคุมความมัน เช่น มาสก์โคลน หรือมาสก์สูตรดีท็อกซ์ที่ช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนได้ดี ควรมองหาส่วนผสมอย่าง ชาเขียว ชาร์โคล หรือโคลนจากธรรมชาติ ที่ช่วยปรับสมดุลผิวโดยไม่ทำให้แห้งตึงจนเกินไป
มาส์กหน้าสำหรับผิวแพ้ง่าย
ผิวบอบบางมักไวต่อสารเคมี น้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ ควรเลือกมาสก์ที่มีเนื้อบางเบาและปราศจากส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ใช้มาสก์สูตรอ่อนโยน เช่น มาสก์เจลใส หรือมาสก์ที่เน้นการปลอบประโลมผิวจากว่านหางจระเข้ คาโมมายล์ หรือแตงกวา จะช่วยลดอาการแดง คัน และฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้นโดยไม่กระตุ้นอาการแพ้
มาส์กหน้าสำหรับผิวมีสิว
ผิวที่มีสิว หรือแนวโน้มจะเกิดสิวง่ายควรเลือกมาสก์ที่มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ควบคุมเชื้อแบคทีเรีย และไม่อุดตันรูขุมขน มาสก์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (BHA) ชาเขียว ทีทรีออยล์ หรือสารสกัดจากเปลือกต้นวิลโลว์ จะช่วยปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง และยับยั้งการเกิดสิวใหม่ พร้อมทั้งช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำให้ผิวแห้งเกินไป
มาสก์หน้าไม่เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน?
แม้มาสก์หน้าจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการบำรุงและฟื้นฟูผิว แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกช่วงสภาพผิว โดยเฉพาะในบางกรณีที่ผิวอ่อนแอหรือไวต่อการกระตุ้นมากกว่าปกติ การเลือกใช้มาสก์ผิดประเภทอาจทำให้ผิวแย่ลงแทนที่จะดีขึ้น ดังนั้นควรระมัดระวังในกรณีต่อไปนี้
ผิวระคายเคืองง่าย
หากคุณมีผิวที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงหรือเคยมีอาการแพ้เครื่องสำอางง่าย ควรหลีกเลี่ยงมาสก์ที่มีส่วนผสมของสารกระตุ้น เช่น AHA, BHA, น้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เกิดอาการแสบ คัน หรือผื่นขึ้น ควรเลือกใช้มาสก์สูตรอ่อนโยน ปราศจากสารระคายเคือง และผ่านการทดสอบกับ ผิวแพ้ง่าย โดยเฉพาะ
ผิวลอก แห้ง แตกเป็นขุย
ผู้ที่มีผิวแห้งลอกหรือแตกเป็นขุยไม่ควรใช้มาสก์ที่มีคุณสมบัติดูดซับน้ำมัน เช่น มาสก์โคลน หรือมาสก์ลอกหน้า เพราะอาจทำให้ผิวแห้งตึงและระคายเคืองมากขึ้น ควรเน้นมาสก์ที่เติมความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิว เช่น มาสก์เจล หรือมาสก์ครีมที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ หรือ ไฮยาลูรอน
ผิวที่เพิ่งทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์
หลังทำเลเซอร์ ทรีตเมนต์ หรือผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี ผิวจะอยู่ในภาวะอ่อนแอและต้องการการพักฟื้น การใช้มาสก์หน้าในช่วงนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองหรืออักเสบได้ ควรรอให้ผิวฟื้นตัวอย่างน้อย 5 – 7 วัน หรือจนกว่าอาการแดงและแห้งจะหายก่อนจึงเริ่มกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงตามปกติ
ต้องระวังอะไรบ้างก่อนใช้มาสก์หน้า?
แม้ว่าการมาสก์หน้าจะช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากใช้ไม่ถูกวิธี ก็อาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือเสียสมดุลได้ จึงควรใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ ก่อนและระหว่างการใช้งาน ดังนี้
- ทดสอบการแพ้ก่อนใช้จริง แนะนำให้ทดลองทาผลิตภัณฑ์ที่หลังใบหูหรือข้อพับแขนก่อนใช้บนใบหน้า เพื่อป้องกันการแพ้หรือระคายเคือง โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบอบบาง
- อย่าทิ้งมาสก์ไว้นานเกินเวลาที่กำหนด มาสก์บางชนิด เช่น แผ่นมาสก์หรือมาสก์โคลน หากทิ้งไว้นานเกินไป อาจดูดความชุ่มชื้นจากผิวออกไปแทนที่จะบำรุง
- ไม่ควรมาสก์หน้าทุกวันโดยไม่สังเกตสภาพผิว การมาสก์หน้าบ่อยเกินความจำเป็นอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือเสียสมดุล ควรฟังความต้องการของผิว และใช้สัปดาห์ละ 2–3 ครั้งเป็นหลัก
- หลีกเลี่ยงการใช้มาสก์หลายชนิดพร้อมกัน การใช้มาสก์หลายสูตรในเวลาเดียวกัน เช่น มาสก์จมูกแบบลอก กับแผ่นมาสก์ใต้ตา อาจทำให้ผิวบางจุดได้รับการดูแลไม่สม่ำเสมอ หรือเสี่ยงต่อการระคายเคือง
- เลือกมาสก์ให้เหมาะกับสภาพผิว ไม่ว่าคุณจะมีผิวแห้ง มัน แพ้ง่าย หรือมีสิว ควรเลือกมาสก์ที่ตอบโจทย์ปัญหาผิว เพื่อให้การบำรุงได้ผลและปลอดภัยที่สุด
มาส์กหน้าบ่อยแค่ไหนถึงเหมาะสม?
ควรมาส์กหน้า 1–3 ครั้งต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและประเภทของมาสก์ ถ้าเป็นมาสก์สูตรอ่อนโยนอย่างสลีปปิ้งมาสก์สามารถใช้ได้บ่อย หรือทุกวันหากผิวไม่มีอาการระคายเคือง และไม่ควรทิ้งมาสก์ไว้นานเกินเวลาที่ระบุ โดยเฉพาะมาสก์แบบแผ่น เพราะเมื่อแห้งแล้วอาจดูดความชุ่มชื้นกลับจากผิว ทำให้ผิวแห้ง หมองคล้ำ หรือเกิด ริ้วรอย ได้ง่าย
วิธีมาส์กหน้าให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
เพื่อให้การมาส์กหน้าเกิดประโยชน์สูงสุด ควรใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนก่อนลงมาสก์ ระหว่างใช้งาน ไปจนถึงการดูแลหลังมาสก์ เพราะจะช่วยให้สารบำรุงซึมเข้าสู่ผิวได้ลึกและเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนี้
- ล้างหน้าให้สะอาดก่อนมาสก์ ใช้คลีนเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว เพื่อขจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน และช่วยให้สารบำรุงจากมาสก์ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
- ล้างมือก่อนสัมผัสมาสก์หรือผลิตภัณฑ์ เพื่อป้องกันแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกจากมือเข้าสู่ผิวหน้า
- ใช้มาสก์ตามลำดับในสกินแคร์รูทีน โดยทั่วไปควรมาสก์หลังล้างหน้า และก่อนขั้นตอนการลงเซรั่มหรือ มอยส์เจอไรเซอร์
- อย่าทิ้งมาสก์ไว้นานเกินคำแนะนำ แผ่นมาสก์หรือมาสก์โคลนไม่ควรใช้นานเกิน 15–20 นาที เพราะอาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้
- หลังมาสก์ควรนวดผิวเบา เพื่อให้สารบำรุงที่เหลือซึมลึกลงผิว และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
- ไม่จำเป็นต้องทาครีมก่อนมาสก์ เพราะมาสก์ส่วนใหญ่มีสารบำรุงอยู่แล้ว การลงครีมก่อนอาจลดประสิทธิภาพการดูดซึม
- หลังมาสก์ควรลงสกินแคร์ต่อทันที ปิดท้ายด้วยเซรั่มหรือครีมล็อกความชุ่มชื้น เพื่อให้ผิวอิ่มน้ำยาวนานและฟื้นฟูได้เต็มที่
เปรียบเทียบมาส์กหน้ากับการบำรุงผิวแบบอื่น
มาส์กหน้า | เซรั่ม / ครีมบำรุงผิว | ทรีตเมนต์คลินิก | |
---|---|---|---|
ระดับการบำรุง | ปานกลาง–ล้ำลึกในบางสูตร | ต่อเนื่องในทุกวัน | ล้ำลึกและเฉพาะทาง |
ความเข้มข้นของสารบำรุง | สูงกว่าสกินแคร์ทั่วไปในช่วงเวลาสั้น | เข้มข้นปานกลาง ใช้สะสมระยะยาว | สูงมาก มักใช้เทคโนโลยีช่วยส่งผ่านสารบำรุงลึกถึงชั้นใน |
ความถี่ในการใช้/ทำ | 1–3 ครั้งต่อสัปดาห์ | ใช้ได้ทุกวัน เช้า–เย็น | แล้วแต่โปรแกรม บางคอร์สทุก 2–4 สัปดาห์ |
ความสะดวกในการใช้งาน | ทำเองที่บ้าน ใช้งานง่าย | สะดวก ใช้ประจำในรูทีน | ต้องนัดล่วงหน้า ทำที่คลินิกโดยผู้เชี่ยวชาญ |
ค่าใช้จ่าย | ราคาปานกลาง–เข้าถึงง่าย | หลากหลายราคาตามแบรนด์ | ค่อนข้างสูง ต้องจ่ายเป็นคอร์สหรือครั้งละหลายบาท |
เหมาะกับใคร | ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วนหรือเติมน้ำให้ผิว | ผู้ที่ดูแลผิวเป็นประจำ ต้องการป้องกันและบำรุงผิว | ผู้ที่มีปัญหาผิวเฉพาะ เช่น ฝ้าลึก ริ้วรอย รอยสิวเรื้อรัง |
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการมาส์กหน้า (FAQ)
Q: ถ้ามาส์กหน้าแล้วรู้สึกแสบ ควรล้างออกทันทีไหม?
A: ควรล้างออกทันที เพราะอาการแสบอาจเป็นสัญญาณของการระคายเคืองหรือแพ้ส่วนผสมในมาสก์ หากปล่อยไว้อาจทำให้ผิวอักเสบหรือระคายเคืองรุนแรงมากขึ้น และถ้ายังไม่ดีขึ้นควรรีบพบแพทย์
Q: ใช้มาสก์หน้าหลังทำทรีตเมนต์ได้หรือไม่?
A: ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3 – 7 วัน และเลือกสูตรอ่อนโยนเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง.
Q: สามารถมาสก์หน้าหลังออกแดดจัดทันทีได้ไหม?
A: ไม่ควรมาสก์หน้าทันทีหลังออกแดดจัด ควรรอให้ผิวเย็นลงก่อนและเลือกมาสก์สูตรปลอบประโลมเพื่อลดการระคายเคือง
Q: จำเป็นต้องล้างหน้าหลังใช้มาสก์แผ่นหรือไม่?
A: ไม่จำเป็นต้องล้างหน้าหลังใช้มาสก์แผ่น หากไม่ได้รู้สึกระคายเคืองสามารถนวดให้สารบำรุงซึมเข้าสู่ผิวได้เลย
Q: สามารถใช้มาสก์หน้า 2 สูตรสลับกันในสัปดาห์เดียวได้ไหม?
A: ได้ หากเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิว และไม่มีอาการระคายเคือง เช่น ใช้มาสก์ที่ทำให้ผิวกระจ่างใส สลับกับเพิ่มความชุ่มชื้น
Q: มาส์กหน้าราคาแพงดีกว่าราคาถูกจริงไหม?
A: มาส์กหน้าราคาแพงไม่ได้ดีกว่าเสมอไป คุณภาพขึ้นอยู่กับส่วนผสมและความเหมาะกับสภาพผิวมากกว่าราคา
Q: สามารถเก็บมาสก์แผ่นไว้ในตู้เย็นได้ไหม?
A: เก็บมาสก์แผ่นไว้ในตู้เย็นได้ เพื่อเพิ่มความสดชื่นและช่วยลดอาการบวมของผิวขณะมาสก์
Q: ผิวเป็นสิวควรหยุดใช้มาส์กหน้าทุกชนิดหรือไม่?
A: ไม่จำเป็นต้องหยุดใช้มาส์กหน้าทุกชนิด แต่ควรเลือกสูตรอ่อนโยน ลดการอักเสบ และไม่อุดตันรูขุมขน
Q: ถ้ามีเวลาน้อย ควรมาสก์หน้าหรือบำรุงด้วยเซรั่มก่อนดี?
A: ควรเลือกบำรุงผิวด้วยเซรั่มก่อน เพราะเซรั่มมีเนื้อบางเบา ซึมไว และสามารถใช้เป็นประจำในรูทีนเช้า–เย็น เพื่อฟื้นฟูผิวอย่างต่อเนื่อง ส่วนการมาสก์หน้าเหมาะกับการบำรุงล้ำลึกในช่วงที่มีเวลาพอหรือเมื่อผิวต้องการการฟื้นฟูเร่งด่วน
Q: มาสก์หน้าช่วยลดริ้วรอยได้จริงไหม?
A: บางสูตรสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ หากมีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้น คอลลาเจน และเพิ่มความชุ่มชื้น
สรุป
มาส์กหน้าสามารถช่วยให้ ผิวหน้าชุ่มชื้น เป็นหลัก แต่ก็มีหลายๆ สูตรออกมาให้เลือกใช้ เช่น ลดรอยจุดด่างดำ ลดความมันผิว ปลอบประโลมผิว หรือแม้แต่ผลัดเซลล์ผิวได้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการในการรักษาปัญหาผิว แต่ควรเลือกให้เหมาะกับผิว รวมถึงใช้อย่างถูกวิธี ไม่ทิ้งมาสก์ไว้นาน หลังใช้ก็จะค่อยๆ เห็นผลค่ะ