Cytocare เป็นหนึ่งในผลิตภันฑ์ที่อยู่ในกลุ่มเมโส หรือ Skinbooster สามารถพัฒนาเพื่อฟื้นฟูผิวลึกระดับเซลล์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ความกระจ่างใส และลดเลือนริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติได้ แต่หลายๆ คอนาจะยังไม่เคยได้ยินชื่อ หรือรู้จัก ในบทความนี้ Vincent Clinic Aesthetic จะพามารู้จักเกี่ยวกับ Cytocare และข้อมูลต่างๆ ที่ควรรู้ก่อนฉีดค่ะ
Key Takeaway
- Cytocare คือ เมโส หรือ Skinbooster จากฝรั่งเศส ที่ออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูผิวลึก เติมความชุ่มชื้น กระตุ้นคอลลาเจน และลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ
- Cytocare ประกอบด้วย Hyaluronic Acid วิตามิน กรดอะมิโน Rejuvenating Complex CT50 ที่ช่วยบำรุงเซลล์ผิวโดยตรง
- Cytocare สามารถฉีดได้หลายจุด เช่น ใต้ตา ใบหน้า ลำคอ ร่องแก้ม เนินอก และหลังมือ
- Cytocare เหมาะกับผิวแห้ง โทรม ใต้ตาคล้ำ หรือริ้วรอยแรกเริ่ม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่ต้องการฟิลเลอร์ แต่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบธรรมชาติ
- Cytocare มี 3 สูตร คือ 502, 516 และ 532 ซึ่งต่างกันที่ความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid และระดับการแก้ปัญหาผิว
- Cytocare 532 เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาเพื่อลดความคล้ำและริ้วรอยแบบไม่เปลี่ยนโครงหน้า
- Cytocare ช่วยเรื่องผิวหมองคล้ำ ผิวขาดน้ำ ริ้วรอยเล็ก ผิวไม่เรียบเนียน และช่วยให้ผิวดูสดใส มีชีวิตชีวาขึ้น
- Cytocare ไม่เหมาะกับผู้แพ้ Hyaluronic Acid ผู้ตั้งครรภ์ให้นมบุตร หรือมีผิวอักเสบรุนแรง
- Cytocare ต่างจากเมโสทั่วไป ตรงที่ฉีดลึกกว่า ซึมลึกถึงชั้นผิวจริง เห็นผลชัดและยาวนานกว่าการสะกิดเมโสผิวทั่วไป
- Cytocare ให้ผลลึกกว่าสกินแคร์ เพราะสารบำรุงถูกส่งเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ไม่เหมือนครีมที่ซึมได้เพียงผิวชั้นนอก
- หลังฉีด Cytocare เห็นผลใน 3 – 7 วัน ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใสขึ้น และหากทำต่อเนื่อง 3 – 5 ครั้ง จะเห็นผลได้นาน 3 – 6 เดือน
Cytocare คืออะไร?
Cytocare (ไซโตรแคร์) คือ หัตถการในกลุ่ม Skin Booster หรือเมโสหน้าใส ผลิตจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสารตัวนี้จะเป็นการส่งสารบำรุงเข้าลึกถึงชั้นผิวโดยตรงผ่านการฉีดตื้นๆ บริเวณผิวหนัง ซึ่งตัวยาจะซึมกระจายเข้าสู่เซลล์ผิว เพื่อฟื้นฟูเซลล์ผิวจากภายใน ฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก โดยมีส่วนประกอบหลักเป็นสาระสำคัญที่ช่วยบำรุงผิวหลายๆ ตัว เช่น
- Hyaluronic Acid แบบโมเลกุลเดี่ยว (Non Cross-linked) จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว โดยไม่ทำให้หน้าบวม ผิวดูอิ่มฟู และยืดหยุ่นขึ้น
- วิตามินรวม และสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ลดการเสื่อมของเซลล์ผิว และช่วยฟื้นฟูผิวจากความอ่อนล้า
- กรดอะมิโน และเปปไทด์ จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ให้ผิวแน่น กระชับ และดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
- Rejuvenating Complex (CT50) เป็นนวัตกรรมเฉพาะของ Cytocare ซึ่งรวมเอาสารอาหารผิวกว่า 50 ชนิด ที่มีประโยชน์ต่อการผลัดเซลล์ผิวและการซ่อมแซมผิวชั้นลึก
Cytocare ฉีดตรงไหนได้บ้าง?
Cytocare สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างครอบคลุมนำมาฉีดได้หลายบริเวณ โดยบริเวณที่นิยมฉีด ได้แก่
- ใต้ตา ช่วยให้ผิวรอบดวงตาดูชุ่มชื้นขึ้น ลดรอยคล้ำเล็กน้อย และริ้วรอยบางๆ แต่ไม่ได้เติมเต็มเหมือน ฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับผู้ที่มีใต้ตาดำจากผิวแห้ง หรือพักผ่อนน้อย
- ใบหน้าโดยรวม เพื่อเติมน้ำให้ผิวทั่วใบหน้า ลดความหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือผิวแห้งจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ช่วยให้ผิวดูสดใสและฟื้นตัวไวขึ้น
- ร่องแก้ม มุมปาก ปรับสภาพผิวในจุดที่เริ่มมีร่องเล็กๆ โดยไม่เน้นการเติมเต็มแบบฟิลเลอร์ แต่ช่วยให้ผิวแน่นและเรียบขึ้น
- ลำคอ แก้ปัญหาริ้วรอยเส้นบางๆ บริเวณคอ และช่วยลด ผิวหย่อนคล้อย เพิ่มความเรียบเนียนและกระชับให้คอกลับมาดูสดใส
- เนินอก ลดความแห้งกร้าน ปรับผิวบริเวณอกให้ดูนุ่มและชุ่มชื้น เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยบริเวณเนินอกเล็กน้อย
- หลังมือ บริเวณที่บ่งบอกอายุได้ชัดเจนที่สุด หากผิวหลังมือเริ่มบาง เหี่ยว หรือแห้ง Cytocare ช่วยให้ผิวดูเรียบและสดชื่นขึ้นอีกครั้ง
Cytocare เหมาะกับผู้มีปัญหาใต้ตาหรือไม่?
Cytocare เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใต้ตา เช่น ขอบตาดำ ริ้วรอยใต้ตา ผิวแห้ง หรือเบ้าตาลึกเล็กน้อย โดยเฉพาะในกลุ่มที่พักผ่อนน้อย ใช้สายตาหนัก หรือมีผิวรอบดวงตาเสื่อมสภาพจากความเครียด และแสงแดด ด้วยคุณสมบัติในการฟื้นฟูผิวอย่างอ่อนโยน Cytocare จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวใต้ตา กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และเสริมความกระจ่างใสโดยไม่เพิ่มปริมาตร จึงไม่ทำให้เกิดอาการบวม หรือเปลี่ยนรูปหน้าเหมือนการฉีดฟิลเลอร์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวรอบดวงตาให้ดูอิ่มฟู แข็งแรง และอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
สูตร Cytocare มีกี่แบบ? ต่างกันอย่างไร?
Cytocare ในปัจจุบันมีทั้งหมด 3 สูตรหลัก ซึ่งแต่ละสูตรถูกพัฒนามาเพื่อให้ตอบโจทย์ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ทั้งความเข้มข้นของสาร ปัญหาที่ช่วยแก้ไข และเหมาะกับสภาพผิวแบบไหน เหมาะกับใครดังนี้
Cytocare 502
สูตรนี้มีความเข้มข้นของกรดไฮยาลูโรนิกอยู่ที่ 2 mg/ml ร่วมกับสารอาหารผิวอีกหลายชนิด ช่วยเติมน้ำให้ผิวดูอิ่มฟู ผิวชุ่มชื้น ขึ้น พร้อมกระตุ้นการผลัดเซลล์ให้ผิวดูเรียบเนียน สดใสขึ้นในแบบที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบาง ผิวขาดความชุ่มชื้น แต่ยังไม่มีปัญหาริ้วรอยชัดเจนมากนัก สามารถใช้ฉีดทั่วใบหน้าหรือบริเวณลำคอสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวเบื้องต้น
Cytocare 516
สูตรนี้มีความเข้มข้นของกรดไฮยาลูโรนิกอยู่ที่ 16 mg/ml ช่วยให้ผิวกลับมาดูอิ่มน้ำ สดใส และเสริมความกระจ่างใสได้ชัดเจน เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวในระดับกลาง เช่น ความหมองคล้ำ ริ้วรอยเล็ก ๆ หรือความแห้งในบางจุด หรือมีผิวเริ่มเสื่อมสภาพจากไลฟ์สไตล์ เช่น นอนดึก ทำงานหนัก หน้าโทรมหมองคล้ำ หรือเจอมลภาวะเป็นประจำ
Cytocare 532
สูตรนี้คือรุ่นที่เข้มข้นที่สุดในกลุ่ม Cytocare มีกรดไฮยาลูโรนิกอสูงถึง 32 mg/ml ผสานกับ Rejuvenating Complex CT50 ช่วยฟื้นฟูผิวที่มีปัญหาหนัก เช่น ริ้วรอยชัด ผิวแห้งเสียสะสม ใต้ตาคล้ำ หรือผิวดูโทรมอย่างเห็นได้ชัด เป็นสูตรที่นิยมใช้ฉีดใต้ตาเพื่อปรับผิวให้เรียบเนียน และกระจ่างใสขึ้น หรือฉีดทั่วหน้าสำหรับผู้ที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ เหมาะกับช่วงวัย 35 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีปัญหาผิวสะสมมานาน
Cytocare ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
Cytocare ออกแบบมาเพื่อบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิวโดยตรงจากภายใน ด้วยส่วนประกอบที่อุดมไปด้วยกรดไฮยาลูโรนิก วิตามิน กรดอะมิโน เปปไทด์ และสารต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวหลากหลายรูปแบบ โดยช่วยในหลายๆ เรื่อง ดังนี้
- ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้กลับมาดูสดใส Cytocare ช่วยให้ผิวที่ขาดการบำรุง หรือดูโทรมจากการพักผ่อนน้อย ความเครียด หรือแสงแดด กลับมาสดใสขึ้น ด้วยการเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ พร้อมเพิ่มความเปล่งปลั่งจากภายใน ทำให้ใบหน้าดูมีออร่าโดยไม่ต้องใช้เมคอัพ
- เติมความชุ่มชื้นให้ผิวขาดน้ำ กรดไฮยาลูโรนิกใน Cytocare จะเข้าไปเติมเต็มความชุ่มชื้นในชั้นผิว ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ ลดอาการผิวแห้ง ลอก หรือรู้สึกตึงไม่สบายผิว พร้อมปรับสมดุลน้ำหล่อเลี้ยงให้ผิวดูอิ่มฟูอย่างต่อเนื่อง
- ลดเลือนริ้วรอยและร่องตื้น Cytocare ช่วยเสริมการสร้าง คอลลาเจน และอีลาสตินในผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นดีขึ้น ริ้วรอยเล็กๆ บริเวณหางตา หน้าผาก หรือมุมปากดูจางลง และพื้นผิวหน้าดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
- แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำและเบ้าตาลึก Cytocare 532 เป็นสูตรที่ออกแบบมาเพื่อใช้ใต้ตา ช่วยลดความคล้ำ ความแห้ง และ ริ้วรอยใต้ตา ได้โดยไม่เปลี่ยนรูปหน้า ไม่ทำให้บวม เพราะไม่ได้เป็นฟิลเลอร์ แต่เน้นบำรุงฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
- กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่และป้องกันผิวเสื่อม กรดอะมิโน เปปไทด์ และสารต้านอนุมูลอิสระใน Cytocare มีบทบาทสำคัญในการเร่งกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ผิว พร้อมช่วยป้องกันผิวจากการทำลายของมลภาวะ แสงแดด และความเครียดที่เร่งให้ผิวเสื่อมก่อนวัย
- ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและเรียบเนียน Cytocare ช่วยให้ผิวหน้าดูสม่ำเสมอ ลดรอยแดง จุดด่างดำ หรือสีผิวไม่เท่ากันจากรอยสิวหรือผิวไหม้แดด พร้อมฟื้นฟูผิวให้ดูเนียนละเอียดโดยไม่ต้องใช้เวลานาน
- เสริมการไหลเวียนเลือดและการทำงานของผิว ในตัวยามีส่วนผสมของวิตามินและเกลือแร่ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวดูมีเลือดฝาด สุขภาพดี รวมถึงส่งเสริมการแลกเปลี่ยนออกซิเจน และสารอาหารในระดับเซลล์ ทำให้ผิวฟื้นตัวเร็วและดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
Cytocare เหมาะกับใคร?
Cytocare เป็นทางเลือกในการฟื้นฟูผิวที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ต้องการดูแลผิวลึกถึงระดับเซลล์ โดยเหมาะกับคนที่มีปัญหาต่างๆ ดังนี้
- ผู้ที่มีผิวแห้ง หรือขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้งกร้าน ผิวลอกง่าย หรือรู้สึกว่าผิวขาดน้ำอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า ลำคอ หรือใต้ตา Cytocare จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มฟู กลับมามีความยืดหยุ่น
- ผู้ที่มีผิวอ่อนล้าจากการใช้ชีวิตหนัก ต้องเจอกับแสงหน้าจอ แสงแดด พักผ่อนน้อย หรืออยู่ในภาวะเครียดเรื้อรัง ผิวมักจะดูโทรม หมองคล้ำ ขาดชีวิตชีวา Cytocare จะช่วยฟื้นฟูความกระจ่างใส กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว และช่วยให้ผิวดูสดใสขึ้น
- ผู้ที่เริ่มมีริ้วรอย หรือผิวไม่เรียบเนียน ผิวขรุขระจากปัญหารูขุมขน และความแห้งกร้าน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้าผาก หางตา หรือร่องแก้ม การฉีด Cytocare จะช่วยให้ผิวตึงขึ้น ริ้วรอยจางลง
- ผู้ที่มีปัญหาใต้ตา ตาโหลจากการนอนน้อย หรือภูมิแพ้ ผิวใต้ตาแห้ง และเริ่มมีรอยเล็กๆ แต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางตกร่อง สารบำรุงใน Cytocare จะช่วยฟื้นฟูให้ผิวรอบดวงตาดูสดใสขึ้นโดยไม่ทำให้หน้าบวม
- ผู้ที่ไม่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ อยากบำรุงผิวลึกแบบไม่เปลี่ยนรูปหน้า ต้องการผลลัพธ์แบบธรรมชาติ Cytocare สามารถช่วยได้ เพราะเป็นการส่งสารบำรุงเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ช่วยให้ผิวฟื้นตัว แข็งแรงขึ้นในระยะยาว
- ผู้ที่อยู่ในช่วงวัย 20 – 40 ปี ในช่วงวัยนี้ผิวจะเริ่มเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก การใช้ Cytocare อย่างต่อเนื่องจะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ปรับสมดุลผิว และช่วยให้ผิวคงความสดใสได้ยาวนานขึ้น
Cytocare ไม่เหมาะกับใคร?
แม้ Cytocare จะเป็นหัตถการที่เน้นฟื้นฟูผิวด้วยสารบำรุงเข้มข้น แต่อาจไม่เหมาะกับบางคน โดยคนที่ไม่เหมาะกับการฉีดไซโตรแคร์มีดังนี้
- ผู้ที่แพ้ Hyaluronic Acid หรือสารใน Cytocare ในบางรายที่เคยมีประวัติแพ้สารกลุ่มนี้ หรือส่วนผสมอื่น ๆ เช่น เปปไทด์ วิตามินบางชนิด หรือ Coenzyme Q10 ที่อยู่ใน Cytocare ควรหลีกเลี่ยงการฉีดโดยเด็ดขาด หรือแจ้งแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงก่อนล่วงหน้า
- ผู้ที่มีปัญหาผิวอักเสบเฉพาะจุดหรือทั่วใบหน้า หากกำลังมีภาวะผิวหนังอักเสบ เช่น สิวอักเสบ รุนแรง โรคผิวหนังเรื้อรัง หรือผิวมีการติดเชื้อ เช่น เริม หรือมีผื่นผิวหนังชนิดต่างๆ ที่ยังไม่หาย การฉีด Cytocare อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองมากขึ้นได้
- ผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยผู้ที่ตั้งครรภ์ และกำลังให้นมควรหลีกเลี่ยงหัตถการที่มีการฉีดทุกชนิด เพราะยังไม่มีงานวิจัยที่รับรองความปลอดภัยในกลุ่มนี้อย่างชัดเจน
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบเลือดหรือหลอดเลือด มีปัญหาเลือดออกง่าย มีประวัติเลือดไม่แข็งตัว ต้องใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดอย่างต่อเนื่อง หรือมีโรคหลอดเลือดผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยงการฉีด Cytocare เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการช้ำ บวม หรือเกิดเลือดคั่งหลังฉีดได้
- ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนโครงสร้างใบหน้าหรือปรับรูปหน้า เพราะ Cytocare ไม่ใช่ ฟิลเลอร์ จึงไม่ได้ช่วยเติมเต็ม หรือปรับรูปหน้าได้ แต่เป็นการบำรุงผิวในระดับเซลล์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน ชุ่มชื้น
Cytocare ต่างจากเมโสทั่วไปอย่างไร?
แม้ Cytocare จะอยู่ในกลุ่มของเมโสแต่สิ่งที่ทำให้ Cytocare แตกต่างอย่างชัดเจนจากเมโสทั่วไปคือ ระดับความลึกของการบำรุงผิว และ คุณสมบัติในการฟื้นฟูเซลล์ผิวในระยะยาว มากกว่าการให้ผลลัพธ์เพียงชั่วคราวเหมือนเมโสบางชนิด
เมโสหน้าใส จะประกอบด้วยวิตามินผิว เช่น วิตามินซี วิตามินบี หรือสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ และปรับสีผิวให้ดูเรียบเนียน ซึ่งโดยมากจะใช้วิธีสะกิดที่ผิวชั้นตื้น และให้ผลในช่วงระยะสั้น เน้นความใสแบบเร่งด่วน
ส่วน Cytocare ถูกออกแบบให้ทำงานในชั้นผิวลึกกว่า ผ่านการฉีดเข้าสู่ผิวหนังโดยตรงไม่ใช่เพียงแค่สะกิดที่ผิวชั้นนอกจึงทำให้ตัวยาซึมเข้าสู่เซลล์ผิวได้ลึกกว่า และออกฤทธิ์ได้นานกว่า โดยเฉพาะการฟื้นฟูความชุ่มชื้น การกระตุ้นคอลลาเจน และการเสริมสร้างโครงสร้างผิวในระดับเซลล์ และ Cytocare ยังประกอบด้วย กรดไฮยาลูรอนิก แบบโมเลกุลเดี่ยว (Non-crosslinked HA) ซึ่งมีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำได้ดี ส่งผลให้ผิวดูอิ่มฟู นุ่มแน่น ไม่ใช่แค่ขาวใสเพียงชั่วคราว ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับ Skin Booster อื่นๆ จะมีความแตกต่างกันดังนี้
- Filorga เน้นเติมวิตามินและสารอาหารผิวกว่า 50 ชนิด เช่น วิตามิน กรดอะมิโน แร่ธาตุ ช่วยให้ผิวดูสดใส เร่งผลัดเซลล์ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ส่วน Cytocare เน้นเติมน้ำให้ผิวด้วย Hyaluronic Acid เสริมความชุ่มชื้นระดับเซลล์ ช่วยให้ผิวอิ่มฟู เรียบเนียน ลดริ้วรอยจาง ๆ และเพิ่มความยืดหยุ่น
- Rejuran ใช้สาร Polynucleotide (PN) จาก DNA ปลาแซลมอน มีจุดเด่นในการฟื้นฟูเซลล์ผิวที่อ่อนแอเหมาะกับผิวแพ้ง่าย อักเสบ หรือเพิ่งทำเลเซอร์ ส่วน Cytocare ใช้ Hyaluronic Acid และ Rejuvenating Complex ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้า ขาดน้ำ และริ้วรอยตื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวทั่วไปให้กลับมาแข็งแรง
- Juvelook มีส่วนผสมระหว่าง Poly D,L-lactic acid (PDLLA) กับ HA สามารถกระตุ้นคอลลาเจนพร้อมเติมเต็มผิวบางส่วนเหมาะกับผู้ที่มีร่องหรือหลุมสิว ส่วน Cytocare ไม่เน้นเติมเต็ม แต่บำรุงผิวให้แข็งแรง อิ่มน้ำ และลดริ้วรอยเล็ก ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนโครงหน้า
Cytocare ต่างจากสกินแคร์ทั่วไปอย่างไร?
Cytocare คือการฉีดสารบำรุงเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง จึงให้ผลลัพธ์ลึกและรวดเร็วกว่าการทาครีมทั่วไปที่ซึมได้เพียงผิวชั้นบน เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวเร่งด่วน เช่น ผิวแห้งขาดน้ำ หรือเริ่มมีริ้วรอย แต่ไม่ต้องการรอผลจากการใช้สกินแคร์เพียงอย่างเดียว แม้จะไม่ใช่การทดแทนสกินแคร์ แต่ Cytocare เป็นทางเลือกเสริมที่ช่วยให้การดูแลผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ผิวต้องการการฟื้นฟูแบบเร่งด่วนหรือเมื่อสกินแคร์ให้ผลไม่ชัดเจน
ฉีด Cytocare กี่ครั้งเห็นผล? อยู่ได้นานไหม?
หลังฉีด Cytocare จะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ 3 – 7 วันแรก ผิวจะดูชุ่มชื้นขึ้น ผิวโดยรวมเนียนและสดใสขึ้น ส่วนผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดมักปรากฏในช่วง 1 – 2 สัปดาห์หลังฉีด และเพื่อให้ผลลลัพธ์อยู่ได้ยาวนาน ควรฉีดอย่างน้อย 3 – 5 ครั้ง ห่างกันสัปดาห์ละครั้ง แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 3 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และการดูแลหลังทำของแต่ละคน
Cytocare มีผลข้างเคียงไหม? อันตรายหรือเปล่า?
Cytocare เป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอางจากประเทศฝรั่งเศสที่ได้รับการรับรองจากอย.ยุโรป และ Cytocare 532 ในปัจจุบันได้ผ่านการรับรองจากอย.ไทยแล้ว ซึ่งเป็นรุ่นเดียวที่ผ่านอย. จึงยืนยันได้ว่า Cytocare มีความปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่หลังฉีดอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น มีอาการบวมแดง รอยเข็ม หรือผิวรู้สึกตึงในจุดที่ฉีด ซึ่งมักเป็นเพียงชั่วคราวและจะหายไปเองภายใน 1 – 3 วัน แต่ถ้าหากมีอาการผิดปกติอย่างอาการบวมแดงมากขึ้นเรื่อยๆ มีผื่นขึ้น ผิวเขียวช้ำรุนแรง แนะนำให้รีบพบแพทย์ทันที
ก่อนฉีด–หลังฉีด Cytocare ควรดูแลอย่างไร?
เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีด Cytocare ออกมาดี ไม่มีผลข้างเคียงที่อันตราย หรืออาการที่ปกติหลังทำ ควรเตรียมตัวก่อนฉีด และดูแลหลังฉีดให้ถูกต้อง โดยมีวิธีดังนี้
การเตรียมตัวก่อนฉีด Cytocare
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, Retinoid อย่างน้อย 3 – 5 วันก่อนฉีด
- งดขัดหน้า สครับผิว หรือแว็กซ์บริเวณที่ต้องฉีดประมาณ 1 สัปดาห์
- หยุดรับประทานยาที่อาจรบกวนการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน NSAIDs วิตามินอี หรือใบแปะก๊วย ล่วงหน้า 3 – 5 วัน
- งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเข้ารับบริการ
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติแพ้ยา โรคประจำตัว หรือยาที่ใช้อยู่ เพื่อประเมินความเหมาะสม
วิธีดูแลหลังฉีด Cytocare
- งดล้างหน้าในช่วง 4 ชั่วโมงแรก เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้เต็มที่
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า การนวด หรือกดจุดบริเวณที่ฉีดใน 24 ชั่วโมงแรก
- งดออกแดดจัด ออกกำลังกายหนัก หรือเข้าซาวน่า อย่างน้อย 3 วันหลังฉีด
- ดื่มน้ำให้มากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและเสริมการทำงานของ Cytocare
- ใช้ มอยส์เจอไรเซอร์ และครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ บุหรี่ และอาหารที่กระตุ้นการอักเสบ เช่น ของทอดหรือของหวานจัด
- หากมีอาการบวมแดงหรือระคายเคืองเล็กน้อย สามารถประคบเย็นหรือทายาตามคำแนะนำของแพทย์ได้
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมมาก เจ็บ หรือมีผื่น ควรรีบพบแพทย์ทันที
Cytocare ราคาเท่าไร?
Cytocare ราคาประมาณ 2,500 – 5,000 ต่อ 1 ขวด โดยหนึ่งขวดจะมีปริมาณ 5 CC ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับสูตรที่เลือก ตำแหน่งที่ฉีด ปริมาณที่ใช้ และโปรโมชันของแต่ละคลิก หากเลือกทำแบบคอร์สราคาจะถูกกว่าฉีดเป็นครั้งๆ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Cytocare
Q: Cytocare กับ Skinbooster ต่างกันยังไง?
A: Cytocare จัดอยู่ในกลุ่ม Skinbooster เช่นเดียวกับ Rejuran, Exosome แต่จุดเด่นของ Cytocare คือเน้นการเติมสารอาหารผิวหลากหลายชนิด เพื่อฟื้นฟูความชุ่มชื้น ลดความหมองคล้ำ และริ้วรอยเล็กๆ อย่างเป็นธรรมชาติ
Q: หลังฉีด Cytocare แล้ว แต่งหน้าได้เลยไหม?
A: หลังฉีด Cytocare ควรงดแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือการอักเสบที่บริเวณรอยเข็ม
Q: ฉีด Cytocare บ่อยแค่ไหนถึงเห็นผลชัดเจน?
A: แนะนำให้ฉีด Cytocare สัปดาห์ละครั้งติดต่อกัน 3 – 5 ครั้ง เพื่อเห็นผลชัดเจน จากนั้นเว้นระยะห่างเป็นเดือนละครั้งเพื่อคงผลลัพธ์ที่ดีเอาไว้
Q: สามารถฉีด Cytocare พร้อมกับหัตถการอื่นในวันเดียวกันได้ไหม?
A: สามารถฉีด Cytocare ร่วมกับหัตถการอื่นได้ในวันเดียวกัน แต่ควรให้แพทย์ประเมินก่อนเพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อการระคายเคือง
Q: Cytocare เหมาะกับอายุเท่าไร?
A: Cytocare เหมาะกับผู้ที่มีอายุประมาณ 20 – 40 ปี หรือผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวแห้ง หมองคล้ำ และริ้วรอยเล็ก ๆ ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างอ่อนโยน
Q: ถ้าเคยฉีดฟิลเลอร์หรือ Botox มาก่อน ยังสามารถฉีด Cytocare ได้ไหม?
A: สามารถฉีด Cytocare ได้แม้จะเคยฉีดฟิลเลอร์ หรือ Botox มาก่อน แต่ควรเว้นระยะห่างและให้แพทย์ประเมินก่อนเพื่อความเหมาะสม
Q: มีอาการแพ้ Cytocare ได้ไหม?
A: อาการแพ้ Cytocare พบได้น้อยมาก แต่หากแพ้ส่วนประกอบอย่าง Hyaluronic Acid หรือสารอาหารผิวบงอย่าง ควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้าก่อนฉีด
Q: ต้องพักฟื้นไหมหลังทำ Cytocare?
A: หลังฉีด Cytocare ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้า แสงแดด และกิจกรรมที่ระคายเคืองผิวในช่วง 24 – 48 ชั่วโมงแรก
สรุป
Cytocare เป็นเมโสสูตรเข้มข้นที่ช่วยฟื้นฟูผิวลึก เติมความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย และสามารถนำมาฉีดเพื่อแก้ใต้ตาคล้ำได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนผิวแห้ง ผิวโทรม หรือพักผ่อนน้อย เห็นผลหลังจากฉีด 3 – 7 วัน และอยู่ได้นาน 3 – 6 หากใครที่ต้องการปรับสภาพผิว เติมน้ำให้ผิว หรือแก้ไขปัญหาผิวในจุดต่างๆ สามารถเข้ามาปรึกษากับ Vincent Clinic Aesthetic ได้โดยจะมีแพทย์ที่มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำอย่างละเอียดค่ะ
