ปากกระจับคลายหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นปัญหาที่หลายคนเริ่มสังเกตได้เมื่อรูปทรงริมฝีปากที่เคยดูเป็นกระจับ คมชัด เริ่มเปลี่ยนไปจากการที่ฟิลเลอร์เดิมที่เริ่มคลายตัว โดยสาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์คลายตัวจนปากกระจับไม่เป็นทรงเมีหลายสาเหตุ ในบทความนี้ Vincent Clinic Aesthetic ได้รวมรวบข้อมูลเกี่ยวกับการที่ปากกระจับคลายตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ ทั้งสาเหตุ การแก้ไข และการดูแลให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานค่ะ
Key Takeaway
- ปัญหาปากกระจับคลายหลังฉีดฟิลเลอร์ คือ ภาวะที่ริมฝีปากซึ่งเคยเป็นทรงกระจับคลายทรง ดูเรียบแบน หรือขอบไม่ชัดเหมือนเดิม
- สาเหตุที่ทำให้ปากกระจับคลายหลังฉีดฟิลเลอร์มีหลายปัจจัย เช่น การฉีดซ้ำเร็วเกินไปโดยไม่รอให้ฟิลเลอร์เก่าสลายหมดก่อน เลือกฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะกับลักษณะเนื้อปาก หรือการดูแลหลังฉีดที่ไม่ถูกต้อง
- เทคนิคที่ใช้ในการฉีดรวมถึงประสบการณ์ของแพทย์เป็นปัจจัยสำคัญ หากใช้เทคนิคไม่แม่นยำ หรือแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อาจทำปากกระจับคลายตัวเร็ว
- ลักษณะของปากกระจับที่คลายตัวดูได้จากหลายอย่าง เช่น ขอบกระจับหาย ทรงปากเรียบไม่เป็นเว้า กลางปากฟูหรือหนาเกินไป มุมปากตก หรือสัดส่วนปากบนล่างไม่สมดุล
- ปากกระจับที่คลายจากการฉีดฟิลเลอร์สามารถแก้ไขได้ง่ายกว่ากรณีปากคลายจากการผ่าตัด เพราะเนื้อปากยังไม่ได้ถูกตัดแต่ง ไม่มีพังผืดหรือแผลเป็น
- หากปากกระจับเริ่มคลายหลังฉีดฟิลเลอร์ 1 – 2 เดือน ถือว่าผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจประเมิน แต่หากคลายในช่วง 3 – 6 เดือน อาจเกิดจากคุณสมบัติของฟิลเลอร์หรือพฤติกรรมหลังฉีด
- วิธีการแก้ไขทรงปากที่คลายหลังฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่ การฉีดสลายฟิลเลอร์เดิมก่อนหากมีฟิลเลอร์ค้างอยู่มากเกินไป การฉีดฟิลเลอร์ใหม่เพื่อปรับทรงเฉพาะจุด หรือรอให้ฟิลเลอร์เดิมสลายก่อน
- ถ้าเนื้อปากยืดหรือเสียรูปถาวรจากการฉีดซ้ำบ่อยเกินไป หรือฟิลเลอร์เก่าจับตัวเป็นก้อน การผ่าตัดอาจเป็นทางถ้าสามารถแก้ไขด้วยฟิลเลอร์ หรือเทคนิคปรับทรงทั่วไปได้
- เพื่อให้การแก้ไขปากกระจับคลายได้ดีแพทย์จะประเมินชนิดฟิลเลอร์เดิม โครงสร้างปาก และเทคนิคที่ใช้ก่อนหน้า เพื่อวางแผนใหม่ให้ผลลัพธ์สวย และทรงอยู่ได้นาน
ปากกระจับคลายจากการฉีดฟิลเลอร์คืออะไร?
ปากกระจับคลายหลังจากฉีดฟิลเลอร์ คือ การที่ฉีดฟิลเลอร์ปาก กระจับมาแล้ว แต่อยู่ๆ ปากที่มีทรงกระจับสวยงาม ค่อยๆ เสียรูปทรง หรือดูไม่ชัดเจนเหมือนเดิมทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลา โดยเฉพาะบริเวณกลางริมฝีปากบนที่จะมีติ่งกระจับยื่นออกมาเป็นจุดที่จะคลายตัวหายไปก่อนจุดแรก
ปัญหาปากกระจับคลายหลังฉีดเกิดได้อย่างไร?
การฉีดฟิลเลอร์ จะเป็นทางเลือกยอดนิยมในการปรับรูปปากให้ดูอวบอิ่มและมีทรงกระจับชัดเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่เมื่อเวลาผ่านไป ริมฝีปากที่เคยดูเป็นกระจับสวยอาจเริ่มคลายตัว หรือเสียรูปทรงได้ โดยเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้
- ฉีดซ้ำบ่อยเกินไปโดยไม่รอให้ของเดิมสลาย ฟิลเลอร์มีอายุอยู่ได้นานประมาณ 6–12 เดือน การฉีดซ้ำในช่วงที่ของเดิมยังไม่สลาย อาจทำให้เกิดการทับถมของเนื้อฟิลเลอร์ จนโครงสร้างปากเสียสมดุล ทำให้ริมฝีปากดูหนาและตัน จากทรงกระจับอาจเปลี่ยนไปเป็นทรงอื่น
- ไม่ประเมินโครงสร้างปากเดิมก่อนฉีด ปากแต่ละคนมีสัดส่วนและโครงสร้างแตกต่างกัน การฉีดโดยไม่วิเคราะห์ความเหมาะสม อาจทำให้ผลลัพธ์ผิดไปจากที่ต้องการ เช่น มีปากหนา เนื้อปากแน่น ทำให้ปากกระจับคลายตัวได้เร็วกว่าปกติ
- เลือกใช้ฟิลเลอร์หรือเทคนิคที่ไม่เหมาะสม ฟิลเลอร์มีหลายรุ่นหลายคุณสมบัติ เช่น ความหนืด ความยืดหยุ่น หรือการคงตัว หากใช้ฟิลเลอร์ที่อ่อนหรือไหลตัวง่ายเกินไป อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนจากตำแหน่งเดิมเมื่อเวลาผ่านไป ไม่อยู่ทรงทำให้ทรงปากกระจับค่อยๆ คลาย
- ฟิลเลอร์สลายเร็วจากความร้อนหรือพฤติกรรมเสี่ยง หลังฉีดฟิลเลอร์ปากโดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรก ฟิลเลอร์ยังไม่เซ็ตตัวดี หากมีพฤติกรรมที่กระทบกับความร้อน เช่น ดื่มน้ำร้อนบ่อย อบซาวน่า ทำเลเซอร์ หรือออกแดดแรง อาจทำให้ฟิลเลอร์ปากกระจับปลี่ยนตำแหน่งหรือสลายเร็ว ส่งผลให้รูปทรงปากผิดเพี้ยนและคลายเร็วกว่าที่ควร
- ละเลยการดูแลหลังฉีด ไม่ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำ เช่น นวดปากแรงๆ ใช้หลอดดูด สูบบุหรี่ หรือรับประทานของร้อนจัด อาจกระทบต่อผลลัพธ์ และทำให้ฟิลเลอร์เสียรูปหรือกระจายผิดทิศทาง หลังฉีดฟิลเลอร์ ได้
- แพทย์ขาดประสบการณ์หรือเทคนิคไม่แม่นยำ การฉีดฟิลเลอร์ปากต้องอาศัยความละเอียดสูง หากแพทย์ไม่มีความชำนาญเฉพาะทาง อาจคำนวณปริมาณผิด หรือฉีดไม่ถูกตำแหน่ง ทำให้รูปทรงที่ได้ดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือเปลี่ยนแปลงได้ในระยะเวลาอันสั้น
ลักษณะของปากกระจับคลายที่พบบ่อยหลังฉีด
เมื่อฟิลเลอร์ที่เคยฉีดไว้เริ่มคลายตัวหรือเสียรูป อาจส่งผลให้ทรงปากที่เคยดูสวยงามเปลี่ยนไป โดยลักษณะของปัญหาปากกระจับคลายที่พบได้บ่อย มีดังนี้
- ทรงกระจับหาย ขอบกระจับที่เคยเว้าและคมชัดบริเวณกึ่งกลางริมฝีปากบนกลับดูเรียบแบน ไม่เห็นรูปทรงเด่นชัดเหมือนก่อน
- มุมปากตกลง ลักษณะของปากดูไม่สดใส เพราะมุมปากที่เคยยก เริ่มตกลง ทำให้สีหน้าดูเศร้าหรือเหนื่อยล้า
- กลางปากหนา ไม่ชัดเจน บริเวณตรงกลางของริมฝีปากบนมีลักษณะฟู หนา หรือบวมเกินไป จนรูปทรงปากดูตันและไม่เป็นธรรมชาติ
- ขอบกระจับไม่ยกหรือไม่ชัด เส้นขอบกระจับที่ควรเป็นเส้นเว้าชัดเจนดูจางลง หรือเรียบไปกับเนื้อปาก ทำให้เสียมิติของรูปปาก
- ปากบนล่างไม่สมดุล เมื่อฟิลเลอร์คลายตัวไม่เท่ากันทั้งสองข้าง อาจทำให้สัดส่วนของปากบนกับปากล่างดูไม่สมดุล เช่น ปากบนดูหนาเกิน หรือปากล่างดูเล็กผิดธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ปากกระจับต่างจากปากกระจับคลายหลังผ่าตัดอย่างไร?
ปัญหาปากกระจับคลายจากการฉีดฟิลเลอร์แตกต่างจากกรณีที่เกิดหลังการผ่าตัดโดยตรง ทั้งในแง่ของโครงสร้าง เนื้อเยื่อ และแนวทางการแก้ไข โดยมีความแตกต่างหลักๆ ดังนี้
- เนื้อปากยังไม่ได้ถูกตัดแต่ง ในกรณีของฟิลเลอร์รูปทรงปากเปลี่ยนไปเพราะเนื้อฟูหรือบิดเบี้ยวจากการเติมสาร ไม่ใช่เพราะมีการตัดแต่งเนื้อเยื่อจริง ฟิลเลอร์จึงยังคงโครงสร้างธรรมชาติดั้งเดิมของปากเอาไว้
- ไม่มีพังผืดหรือแผลเป็น เพราะการผ่าตัดอาจทิ้งพังผืดหรือแผลเป็นถาวรไว้ได้ แต่การฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้ทำลายเนื้อเยื่อถาวร จึงไม่มีพังผืดมากวนในการปรับรูปทรงใหม่ ทำให้ปรับรูปทรงได้ง่าย
- แก้ไขได้ง่ายกว่า ฟิลเลอร์ปากกระจับสามารถแก้ไขได้ง่ายกว่าด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์บางส่วน หรือฉีดเพิ่มเพื่อปรับทรง ต่างกับการผ่าตัดที่ต้องผ่าตัดใหม่เท่านั้นถึงจะแก้ไขได้
ฉีดฟิลเลอร์กี่วันแล้วเริ่มคลาย ถือว่าผิดปกติ?
ปกติฟิลเลอร์สามารถคงรูป และอยู่ได้นานประมาณ 6–12 เดือน หากเริ่มคลายหรือเสียรูปภายใน 1–2 เดือน ถือว่าผิดปกติ และควรพบแพทย์เพื่อตรวจประเมิน แต่หากคลายในช่วง 3–6 เดือน อาจเกี่ยวข้องกับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ หรือพฤติกรรมหลังฉีด เช่น การสัมผัสความร้อน ขยับกล้ามเนื้อบ่อยเกินไป
วิธีแก้ปากกระจับคลายโดยไม่ผ่าตัด
เมื่อเกิดปัญหาปากกระจับคลายจากการฉีดฟิลเลอร์ ไม่จำเป็นต้องพึ่งการผ่าตัดเสมอไป เพราะสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีที่ปลอดภัยและไม่รุกราน หากได้รับการประเมินอย่างเหมาะสมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การประเมินของแพทย์ก่อนการแก้ไข
ก่อนเริ่มแก้ไขใดๆ แพทย์จะต้องวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้ปากเสียรูปโดยละเอียด ซึ่งขั้นตอนสำคัญมีดังนี้
- ตรวจสอบชนิดของฟิลเลอร์ที่เคยใช้ เพื่อประเมินว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ชนิดที่สามารถสลายได้หรือไม่ และมีลักษณะการกระจายตัวอย่างไร
- ประเมินรูปปากเดิมก่อนการฉีด ดูว่าโครงสร้างปากตามธรรมชาติเป็นอย่างไร เพื่อให้การแก้ไขครั้งใหม่เหมาะกับลักษณะปากจริง
- พิจารณาความเหมาะสมของเทคนิคเดิม แพทย์จะวิเคราะห์ว่าเทคนิคที่เคยใช้เหมาะกับเนื้อปากหรือไม่ เช่น ปากเล็กแต่เติมฟิลเลอร์มากเกินไป อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปากเสียรูปในภายหลัง
ทางเลือกในการแก้ไขโดยไม่ผ่าตัด
- ฉีดสลายฟิลเลอร์เดิมก่อน หากปากเสียรูปจากการเติมฟิลเลอร์มากเกินไปหรือใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม แพทย์อาจเลือก ฉีดสลายฟิลเลอร์ ก่อน แล้วรอให้เนื้อปากคืนสภาพก่อนเริ่มการแก้ไขใหม่
- ฉีดฟิลเลอร์ใหม่ด้วยเทคนิคเฉพาะ ในบางกรณีอาจไม่จำเป็นต้องสลายของเดิม แต่อาศัยเทคนิคการฉีดใหม่ที่แม่นยำขึ้น เช่น การเติมขอบริมฝีปาก ยกมุมปาก หรือเติมร่องกระจับให้ชัดขึ้นเพื่อคืนรูปทรงที่สมดุล
- รอให้ฟิลเลอร์เดิมสลายตามธรรมชาติ หากฟิลเลอร์ที่ฉีดไปใกล้สลายแล้ว และรูปทรงปากยังไม่เสียหายมาก แพทย์อาจแนะนำให้รอจนฟิลเลอร์สลายตัวเอง แล้วค่อยเริ่มฉีดใหม่ด้วยเทคนิคที่เหมาะสมกว่าเดิม
เคสที่อาจต้องพิจารณาผ่าตัดในภายหลัง
แม้การแก้ไขปากกระจับคลายจะสามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัดในหลายกรณี แต่ก็มีบางเคสที่อาจจำเป็นต้องพิจารณาแนวทางการผ่าตัดในระยะยาว หากปัญหาไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดหรือปรับเทคนิคการเติมฟิลเลอร์อีกต่อไป เช่น
- ฟิลเลอร์เก่าจับตัวเป็นก้อนหรือแน่นผิดปกติ หากฟิลเลอร์ที่เคยฉีดไว้จับตัวแข็งหรือกระจายไม่เท่ากัน และไม่สามารถฉีดสลายได้ อาจต้องใช้การผ่าตัดเพื่อขูดฟิลเลอร์ ออก
- ฉีดซ้ำหลายครั้งจนเนื้อปากยืดหรือเสียรูป การเติมฟิลเลอร์บ่อยเกินไปหรือฉีดโดยไม่รอให้ของเดิมสลาย อาจทำให้เนื้อปากยืดขยายจนสูญเสียความยืดหยุ่น ไม่สามารถคืนรูปด้วยวิธีธรรมชาติ หรือการฉีดเพิ่มเติมได้
- ปากกระจับคลายซ้ำซากแม้แก้ด้วยฟิลเลอร์แล้ว หากเคยพยายามแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์หลายครั้งแล้วแต่ทรงปากยังคลาย หรือเสียรูปซ้ำๆ แสดงว่าเนื้อปากอาจไม่สามารถรองรับฟิลเลอร์ได้อีกต่อไป การผ่าตัดเพื่อปรับโครงสร้างใหม่จึงเป็นทางเลือกที่ควรพิจารณา
ปากกระจับจะกลับมาชัดอีกครั้งได้ไหม?
ปากกระจับที่คลายตัวจากการฉีดฟิลเลอร์สามารถกลับมาชัดเจนอีกครั้งได้ในหลายกรณี ขึ้นอยู่กับปัจจัย เช่น ชนิดของฟิลเลอร์ที่เคยใช้ ระยะเวลาที่ฉีดมาแล้ว และสภาพเนื้อปากเดิม หากเนื้อปากยังมีความยืดหยุ่นดี ไม่ยืดหรือเสียรูปมาก โอกาสในการฟื้นทรงกระจับให้กลับมาสวยชัดสามารถทำได้ แต่ต้องทำอย่างเป็นขั้นตอน เช่น การฉีดสลายฟิลเลอร์เดิมก่อน แล้วรอให้เนื้อปากคืนสภาพ จากนั้นจึงฉีดฟิลเลอร์ใหม่ด้วยเทคนิคที่แม่นยำขึ้น เพื่อปรับรูปปากให้กระจับกลับมาชัดและสมดุลมากกว่าเดิม
การดูแลหลังแก้ไขปัญหาปากคลาย
หลังจากเข้ารับการแก้ไขปัญหาปากกระจับคลาย ไม่ว่าจะเป็นการฉีดสลายฟิลเลอร์เดิม หรือเติมฟิลเลอร์ใหม่เพื่อปรับทรง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์คงรูปได้สวย และอยู่ได้นาน คือการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมในช่วงฟื้นตัว โดยเฉพาะในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่สมบูรณ์
- หลีกเลี่ยงการจับ บีบ เม้ม หรือออกแรงกับริมฝีปาก เพราะแรงกดอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง หรือทำให้ทรงปากเปลี่ยนไปจากที่ตั้งใจไว้
- หลีกเลี่ยงการใช้หลอดดูด โดยเฉพาะในช่วง 5–7 วันแรก เพื่อลดการใช้แรงที่ริมฝีปาก และป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อน
- หลีกเลี่ยงของร้อนจัด เช่น เครื่องดื่มร้อนจัด อาหารเผ็ดจัด เพราะอุณหภูมิร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพหรือบวมอักเสบง่ายขึ้น
- หลีกเลี่ยงท่านอนที่กดทับใบหน้า เช่น นอนคว่ำหรือตะแคงหน้าทับปาก ควรนอนหนุนหมอนสูงกว่าระดับหน้าอกในช่วง 2–3 คืนแรก เพื่อช่วยลดอาการบวม
- งดการออกกำลังกายหนัก เช่น เวตเทรนนิ่ง วิ่ง หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรง เพราะอาจเพิ่มอาการบวมของริมฝีปาก
- สามารถประคบเย็นเบาๆ หากมีอาการบวมเล็กน้อยประคลด้วยเจลเย็นหรือผ้าห่อน้ำแข็งในช่วง 2–3 วันแรก เพื่อช่วยลดอาการบวมและระคายเคือง
- ดูแลริมฝีปากให้ชุ่มชื้น ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงปากที่อ่อนโยน หลีกเลี่ยงลิปบาล์มหรือลิปสติกที่มีน้ำหอมหรือสารระคายเคือง
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ดื่มน้ำวันละ 1.5–2 ลิตร เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูตัวดีและคงรูปได้นาน เพราะฟิลเลอร์มีคุณสมบัติดูดซับน้ำ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น อาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี และโปรตีน เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวและเสริมสร้างคอลลาเจน
- หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง ประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ริมฝีปากบวมนานหรือเกิดการอักเสบเพิ่มเติมได้
สามารถอ่านข้อมูลแบบเจาะลึกเกี่ยวกับการดูแลหลังฉีดปากได้ที่ : หลังฉีดปากกระจับดูแลอย่างไร
ป้องกันไม่ให้ปากกระจับคลายหลังฉีดอีกครั้ง
เพื่อให้รูปปากกระจับคงสวยอย่างเป็นธรรมชาติและลดโอกาสการคลายตัวหลังฉีดซ้ำในอนาคต ควรให้ความสำคัญกับทั้งการเลือกแพทย์และการวางแผนการฉีดอย่างรอบคอบ ดังนี้
- เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะสามารถวิเคราะห์รูปปาก วางแผน และเลือกเทคนิคให้เหมาะสมกับแต่ละเคสได้แม่นยำ ลดความเสี่ยงเรื่องรูปทรงคลายหรือเสียรูปในภายหลัง
- ไม่ฉีดซ้ำโดยไม่ประเมินฟิลเลอร์ที่มีอยู่แล้ว ก่อนเติมฟิลเลอร์เพิ่มเติมทุกครั้ง ควรประเมินสภาพฟิลเลอร์ที่มีอยู่ก่อน ว่ายังอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมหรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการฉีดทับซ้อน หรือดันรูปปากจนเสียทรง
- เว้นระยะระหว่างการฉีดอย่างเหมาะสม การเติมฟิลเลอร์แต่ละครั้งควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 6 – 12 เดือน หรือรอให้ฟิลเลอร์เดิมสลายบางส่วนก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อปากยืดหรือบวมฟูเกินความจำเป็น
คำถามที่พบบ่อยเมื่อปากกระจับคลายตัวหลังฉีด (FAQ)
Q: ต้องรอให้ฟิลเลอร์ปากเดิมสลายหมดก่อนหรือไม่ถึงจะแก้ไขปากกระจับคลายได้?
A: ไม่จำเป็นต้องรอให้ฟิลเลอร์เดิมสลายหมดก่อนเสมอไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและลักษณะของฟิลเลอร์เดิม หากยังอยู่ในสภาพดี แพทย์อาจฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปทรงใหม่ได้ทันที
Q: ปากกระจับคลายใช้เวลาในการแก้ไขนานไหม?
A: ระยะเวลาในการแก้ไขขึ้นอยู่กับปัญหาแต่ละเคส หากต้องฉีดสลายฟิลเลอร์ก่อน อาจใช้เวลาเป็นสัปดาห์ แต่บางกรณีสามารถแก้ไขได้ทันทีโดยจะใช้เวลาประมาณ 30 – 45 นาที
Q: การแก้ไขปากกระจับคลายโดยไม่ผ่าตัดอยู่ได้นานแค่ไหน?
A: การแก้ปากกระจับคลายโดยไม่ผ่าตัดมักอยู่ได้นานประมาณ 6–12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลหลังทำ
Q: ต้องเลือกฟิลเลอร์แบบไหนถ้าอยากแก้ปากกระจับคลายให้ดูธรรมชาติ?
A: ควรเลือกฟิลเลอร์ที่ยืดหยุ่นดี และขึ้นรูปได้ เพื่อให้ปากกระจับดูเป็นธรรมชาติและเคลื่อนไหวได้เป็นธรรมชาติ เช่น Restylane Kysse ที่ผลิตมาเพื่อสำหรับการฉีดปาก
Q: ถ้าแก้ปากกระจับคลายด้วยวิธีไม่ผ่าตัดแล้วไม่พอใจ ยังสามารถผ่าตัดใหม่ได้ไหม?
A: หากแก้ด้วยวิธีไม่ผ่าตัดแล้วยังไม่พอใจ ยังสามารถผ่าตัดใหม่ได้ โดยแพทย์จะประเมินสภาพเนื้อปากและควรรอให้ฟิลเลอร์สลายจนหมดก่อน
สรุป
ปากกระจับคลายตัวหลังฉีดฟิลเลอร์แม้จะเพิ่งฉีดไปได้ไม่นานเกิดขึ้นได้จากเนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับเนื้อปาก หรือไม่ดูแลหลังฉีดทำให้ทรงปากที่ฉีดมาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทรงไม่สวยเหมือนเดิม แต่ถึงแม้จะปากกระจับคลายตัวยังสามารถแก้ไขได้ง่ายด้วยการเติมฟิลเลอร์เข้าไปให้เป็นทรงเหมือนเดิม หรือฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ไม่ยากเหมือนการผ่าตัด หากใครมีความกังวลเรื่องปากกระจับไม่เป็นทรงสามารถเข้ามาปรึกษากับ Vincent Clinic Aesthetic โดยจะมีแพทย์ที่มีประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาค่ะ