บทความ
ร้อยไหมคอลลาเจน อยู่ได้นานแค่ไหน มีข้อดี ข้อเสียอะไร ราคาเท่าไร
แชร์ :

ร้อยไหมคอลลาเจน อยู่ได้นานแค่ไหน มีข้อดี ข้อเสียอะไร ราคาเท่าไร

โปรแกรมร้อยไหมคอลลาเจนอยู่ได้นานแค่ไหน
อยากอ่านอะไร จิ้มที่หัวข้อได้เลย!

ร้อยไหมคอลลาเจนหนึ่งในวิธีการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวด้วยการสอดไหมที่สามารถละลายได้เข้าไปใต้ผิว ทำให้ผิวกระชับได้จากคอลลาเจนที่เพิ่มขึ้น ในบทความนี้ Vincent Clinic Aesthetic จะพามารู้จักเกี่ยวกับการร้อยไหมคอลลาเจนในเรื่องต่างๆ ทั้งข้อดี ข้อเสีย เหมาะกับใคร ไปจนถึงการดูแลหลังทำค่ะ

Key Takeaway

  • ร้อยไหมคอลลาเจนเป็นการใช้ไหมละลายจากวัสดุ PDO, PCL หรือ PLLA กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว ช่วยให้ผิวกระชับและลดริ้วรอย โดยไหมจะละลายไปเองตามธรรมชาติ
  • ผลลัพธ์ของการร้อยไหมคอลลาเจนจะอยู่ได้ 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังการทำ โดยจะทำให้ผิวเต่งตึงและอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ร้อยไหมคอลลาเจนจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับและริ้วรอยลดลง โดยไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด และวัสดุที่ใช้ปลอดภัยละลายได้เอง
  • ร้อยไหมคอลลาเจนไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก ผลลัพธ์ไม่ถาวรและอาจต้องทำซ้ำหลัง 6 – 12 เดือน และอาจมีอาการบวมและช้ำหลังการทำ
  • ร้อยไหมคอลลาเจนราคาประมาณ 1,000 – 3,000 บาทต่อเส้น ขึ้นอยู่กับจำนวนเส้นไหมและคุณภาพวัสดุ
  • ร้อยไหมคอลลาเจนเหมาะกับผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว เพิ่มความกระชับและลดริ้วรอย
  • ร้อยไหมคอลลาเจนไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก หรือมีปัญหาผิวหนัง เช่น สิวอักเสบ
  • การดูแลหลังการร้อยไหมคอลลาเจนควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ทำการร้อยไหม งดการออกกำลังกายหนักและการดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงงดใช้ความร้อนในช่วง 4 สัปดาห์

ร้อยไหมคอลลาเจนคืออะไร?

ร้อยไหมคอลลาเจน คือ การใช้ไหมเรียบที่ทำมาจากวัสดุ PDO PCL หรือ PLLA ซึ่งเป็นไหมละลายที่มีเส้นเล็กและบาง เส้นไหมมีความยาวไม่เกินประมาณ 10 เซนติเมตร และมีขนาดเส้นประมาณ 27G – 30G ลักษณะของเส้นไหมนั้นจะไม่มีเงี่ยงไหมเป็นไหมแบบเรียบเพื่อเน้น กระตุ้นคอลลาเจน ในชั้นผิว

ร้อยไหมคอลลาเจนต่างจากไหมทั่วไปอย่างไร?

ไหมคอลลาเจนแตกต่างจากไหมทั่วไปในเรื่องของลักษณะเส้นที่เป็นไหมละลายเส้นเล็ก ผิวเรียบ ไม่มีเงี่ยงหรือเกลียว นิยมใช้เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเพื่อลดความหย่อนคล้อย แต่ไม่สามารถยกกระชับ ผิวหย่อนคล้อย ได้เหมือนไหมที่มีเงี่ยง เช่น ไหมก้างปลา และข้อแตกต่างอีกอย่างคือไหมคอลลาเจนมีความนิ่มและละเอียดกว่า แต่ก็ไม่สามารถให้ผลในการยกกระชับได้ดีเท่ากับไหมที่มีเงี่ยง หรือเกลียว

ร้อยไหมคอลลาเจนช่วยเรื่องอะไร?

การร้อยไหมคอลลาเจนจะช่วยด้านการกระตุ้นเรื่อง คอลลาเจน เป็นหลัก แต่นอกจากกระตุ้นคอลลาเจนยังช่วยเรื่องอื่นๆ ได้ด้วย ดังนี้

  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง เส้นไหมคอลลาเจนจะไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวมีความแข็งแรง รวมถึงยืดหยุ่นมากขึ้น
  • ช่วยแก้ปัญหารูขุมขนกว้าง และหลุมสิว คอลลาเจนใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นจากไหมจะเติมเต็มผิวจากด้านใน ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น และรูขุมขนดูกระชับเล็กลง หน้าเรียบเนียน
  • ช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ บนผิว ริ้วรอยหน้าผาก มุมปาก หรือรอบดวงตา จะค่อยๆ จางลง ผิวหน้าเต่งตึงอิ่มฟูมากขึ้น
  • ช่วยให้ผิวหน้าแน่น ผิวมีความกระชับ ถึงแม้ไหมคอลลาเจนจะไม่ช่วยยกกระชับผิว แต่คอลลาเจนที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ผิวกระชับแน่นขึ้นได้

ไหมคอลลาเจนเหมาะกับใคร

ร้อยไหมคอลลาเจนเหมาะกับใคร?

การร้อยไหมคอลลาเจนเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งคนที่เหมาะกับการร้อยไหมคอลลาเจนจะมีดังนี้

  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มความแน่นให้กับผิว เพราะไหมคอลลาเจนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวมีความกระชับขึ้นและเพิ่มความแน่นให้กับผิวหน้า
  • ผู้ที่อายุมากขึ้น เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย เมื่ออายุเพิ่มขึ้นคอลลาเจน และอีลาสตินในผิวจะลดลง ทำให้ผิวเริ่มหย่อนคล้อย ต้องการคอลลาเจนในผิว
  • ผู้ที่ผิวหลวมขาดคอลลาเจน เกิดการสูญเสียคอลลาเจนในผิวหนังจะได้รับประโยชน์จากการร้อยไหมคอลลาเจนที่ช่วยฟื้นฟูการผลิตคอลลาเจนใต้ผิวหนัง
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวให้แข็งแรง ไหมคอลลาเจนสามารถช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ลด ริ้วรอย เล็กๆ และช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรง

ใครไม่เหมาะกับการร้อยไหมคอลลาเจน?

การร้อยไหมคอลลาเจนไม่เหมาะสำหรับบางกลุ่มคนที่มีปัญหาหรือข้อจำกัดในเรื่องสุขภาพผิว เช่น

  • ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก ไหมคอลลาเจนไม่สามารถยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะไม่มีเงี่ยงยึดเกาะกับผิว
  • ผู้ที่มีโรคผิวหนังบริเวณใบหน้า เช่น สิวอักเสบ ผื่น หรือโรคผิวหนังอื่นๆ ควรหลีกเลี่ยงการร้อยไหม เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ
  • หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากร่างกายในช่วงนี้มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน และอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
  • ผู้แพ้วัสดุไหมบางชนิด หากเคยมีประวัติแพ้วัสดุที่ใช้ในการร้อยไหม ควรหลีกเลี่ยงการร้อยไหมคอลลาเจน เพื่อป้องกันการแพ้หรือการอักเสบที่อาจเกิดขึ้น

เตรียมตัวก่อนร้อยไหมคอลลาเจน

การเตรียมตัวก่อนการร้อยไหมคอลลาเจนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การทำหัตถการราบรื่นและปลอดภัย โดยมีข้อควรปฏิบัติดังนี้

  • แจ้งโรคประจำตัวและประวัติแพ้ ก่อน ร้อยไหม ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัวและประวัติการแพ้ยาเพื่อความปลอดภัยก่อนทำ
  • งดแอลกอฮอล์ ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการร้อยไหม เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดเลือดออกขณะทำการรักษา
  • งดยาแอสไพรินและยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรงดยาแอสไพริน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด วิตามิน และอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามิน E และ Ginseng ประมาณ 3 – 7 วันก่อนร้อยไหมเพื่อลดการมีเลือดออกมากระหว่างการทำ
  • หากมีนัดกับทันตแพทย์ควรทำฟันก่อน หากมีการนัดหมายกับทันตแพทย์ ควรไปทำฟันก่อนการร้อยไหม เนื่องจากหลังการร้อยไหมจะไม่สามารถอ้าปากกว้างได้เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการทำสีผมและสระผมให้สะอาด ควรงดการทำสีผมก่อนการร้อยไหมและควรสระผมให้สะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • รักษาปัญหาผิวหนัง หากมีปัญหาผิวหนัง เช่น สิวอักเสบ หรือการอักเสบบนใบหน้า ควรรักษาให้หายก่อนการร้อยไหม

ขั้นตอนการร้อยไหมคอลลาเจนเป็นอย่างไร?

ขั้นตอนในการร้อยไหมคอลลาเจนจะมีคล้ายกับการร้อยไหมปกติ แต่ต่างกันเล็กน้อย โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • ประเมินใบหน้าก่อนทำ แพทย์จะเริ่มด้วยการวิเคราะห์รูปหน้าและปัญหาผิวของคนไข้ เพื่อประเมินว่าควรใช้ไหมคอลลาเจนจำนวนเท่าใด และออกแบบทิศทางการร้อยไหมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
  • ทำความสะอาดผิวหน้า ผู้ช่วยแพทย์จะทำความสะอาดผิวหน้าโดยการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อให้ผิวหน้าปราศจากเชื้อโรค ก่อนที่จะเริ่มทำการร้อยไหม ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
  • แปะยาชา ก่อนเริ่มการร้อยไหมจะทายาชาแบบครีมในบริเวณที่จะทำการร้อยไหม ซึ่งจะช่วยลดความรู้สึกเจ็บในระหว่างการทำหัตถการ โดยจะให้ยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30-45 นาที
  • ฉีดยาชา จากนั้นจะฉีดยาชาในบริเวณใต้ผิวหนังตามแนวการร้อยไหม เพื่อลดความรู้สึกเจ็บ โดยจะรู้สึกแสบเล็กน้อยจากการฉีดยาชา 
  • ร้อยไหม แพทย์จะเริ่มสอดไหมทีละเส้นเข้าไปในชั้นผิวหนัง โดยใช้เข็มขนาดเล็กจากนั้นจะค่อยๆ ดึงเข็มออกแล้วทิ้งเส้นไหมเอาไว้เพื่อให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • จัดตำแหน่งไหม เมื่อร้อยไหมเสร็จเรียบร้อย แพทย์จะดูเส้นไหมและกดไหมให้เข้ากับชั้นผิวได้ดี และไม่ริ้วไหมบนผิว

วิธีดูแลหลังร้อยไหมคอลลาเจน

วิธีดูแลหลังร้อยไหมคอลลาเจน

การดูแลหลังการร้อยไหมคอลลาเจนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและปลอดภัย โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียงหรือการทำให้ไหมเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการจับหน้าแรงๆ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดทับบริเวณที่ทำการร้อยไหม เพื่อป้องกันการระคายเคือง และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
  • ใช้ยาแก้ปวด หากรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายหลังการร้อยไหม สามารถใช้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน เพื่อลดอาการไม่สบาย
  • ประคบเย็น หากมีอาการบวม หรือปวดระบม แนะนำให้ประคบเย็นบริเวณร้อยไหมในช่วง 24 – 48 ชั่วโมงแรก
  • งดแอลกอฮอล์ อาหารรสจัด อาหารหมักดอง  อาจทำให้มีอาการบวมมากขึ้น ฟื้นตัวช้าลง และเพิ่มการอักเสบ ควรงดอย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์
  • งดโดนความร้อน การอบซาวน่า อบไอน้ำ หรืออยู่กลางแดดร้อนจัด ควรงดอย่างน้อย 2 – 3 วันหลังทำ เพราะอาจทำให้ผิวเกิดการอักเสบ และลดประสิทธิภาพของไหม
  • หลีกเลี่ยงการทำหัตถการที่ใช้ความร้อน หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ร้อน เช่น HIFU, Thermage หรือหัตถการที่กระทบต่อชั้นผิว เพื่อให้คอลลาเจนกระตุ้นได้เต็มที่

ข้อดีของไหมคอลลาเจน

กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ไหมคอลลาเจนช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ซึ่งช่วยทำให้ผิวกระชับขึ้น และริ้วรอยดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

  • ไม่แข็งหรือดึงจนหน้าแปลก ไหมคอลลาเจนจะไม่ทำให้ผิวตึงหรือดึงจนหน้าดูแปลกตา เพราะเส้นไหมมีความนิ่มและละลายได้อย่างธรรมชาติ
  • รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การร้อยไหมใช้เวลาไม่นาน และผลลัพธ์ที่เห็นจะชัดเจนทันทีหลังจากการทำหัตถการ
  • ไม่ต้องพักฟื้นนาน หลังจากการร้อยไหมคอลลาเจน สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น
  • บวมช้ำน้อยมาก หลังการร้อยไหมคอลลาเจน อาการบวมและช้ำมีน้อยมาก ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที
  • ไม่มีการผ่าตัด การร้อยไหมคอลลาเจนไม่ต้องใช้การผ่าตัด และมีรอยแผลเพียงเล็กน้อยจากการจิ้มเข็ม
  • วัสดุของเส้นไหมปลอดภัย ไหมคอลลาเจนทำจากวัสดุที่ปลอดภัย สามารถละลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ตกค้างในร่างกาย
  • เจ็บน้อยหรือแทบไม่เจ็บเลย เนื่องจากเส้นไหมคอลลาเจนมีขนาดเล็ก จึงทำให้รู้สึกเจ็บน้อย หรือแทบไม่เจ็บ
  • ผลลัพธ์ระยะยาว ผลลัพธ์จากการร้อยไหมคอลลาเจนจะเห็นได้ในระยะยาว โดยใบหน้าจะดูเต่งตึง เรียบเนียน และมีผิวที่ดูอ่อนเยาว์จากคอลลาเจนที่เพิ่มขึ้น
  • ไม่มีข้อจำกัดในเคสอายุมาก ไหมคอลลาเจนไม่มีข้อจำกัดเหมือนกับไหมเงี่ยง จึงสามารถใช้ได้แม้ในผู้ที่มีอายุเยอะ

ข้อจำกัดของไหมคอลลาเจน

การร้อยไหมคอลลาเจนถึงแม้จะมีข้อดี แต่ก็มีข้อเสียหรือข้อจำกัดด้วย ซึ่งข้อเสียควรพิจารณาก่อนตัดสินใจทำมีดังนี้

  • เหมาะกับเคสที่ไม่หย่อนคล้อยมาก ไหมคอลลาเจนเหมาะกับผู้ที่มีปัญหา หน้าหย่อนคล้อย ในระดับปานกลาง เนื่องจากไม่สามารถยกกระชับผิวได้ดีเหมือนไหมที่มีเงี่ยง
  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร ผลลัพธ์จากการร้อยไหมคอลลาเจนจะคงอยู่ประมาณ 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลรักษาหลังการรักษา
  • อาจต้องทำซ้ำ เนื่องจากผลลัพธ์ไม่ถาวร ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานอาจต้องทำการร้อยไหมคอลลาเจนซ้ำหลังจากเวลาผ่านไป

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังร้อยไหมคอลลาเจน

หลังจากการร้อยไหมคอลลาเจน อาจเกิดผลข้างเคียงบางอย่างซึ่งมีทั้งอาการที่เกิดขึ้นได้ตามปกติ กับอาการข้างเคียงที่ไม่ปกติ ดังนี้

  • บวม แดง และเขียวช้ำเล็กน้อย เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยหลังการร้อย มักเกิดจากการใช้เข็มที่ปลายแหลมในการสอดไหมเข้าไปใต้ผิว แต่โดยปกติแล้วอาการเหล่านี้จะหายไปเอง
  • ติดเชื้อ หากไม่รักษาความสะอาดหลังการร้อยไหมหรือทำการรักษาที่คลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ 

ร้อยไหมคอลลาเจนอยู่ได้นานแค่ไหน?

ร้อยไหมคอลลาเจนผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ประมาณ 6 – 8 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังการรักษา โดยในระหว่างนี้ไหมจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ผิว ทำให้ผิวกระชับขึ้นและดูอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งผลลัพธ์จะค่อยๆ ดีขึ้น

ร้อยไหมคอลลาเจนราคาเท่าไหร่?

ราคาการร้อยไหมคอลลาเจนเริ่มต้นประมาณ 1,000 – 3,000 บาทต่อเส้น หรืออาจเป็นราคาแบบเซต ขึ้นอยู่กับจำนวนเส้นไหมที่ใช้ คุณภาพของไหมคอลลาเจน การบริการจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ และโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกในตอนนั้นทำให้ราคาแตกต่างกันไป

เลือกคลินิกร้อยไหมคอลลาเจนอย่างไรให้ปลอดภัย?

การเลือกคลินิกสำหรับการร้อยไหมคอลลาเจนควรคำนึงถึงความปลอดภัยและคุณภาพของการให้บริการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย โดยมีวิธีเลือกดังนี้

  • ตรวจสอบใบอนุญาต คลินิกที่ได้มาตรฐานต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุขและเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ซึ่งสามารถตรวจสอบได้เพื่อความมั่นใจในการเลือกใช้บริการ
  • ให้คำปรึกษาก่อนทำ คลินิกที่ดีควรมีบริการให้คำปรึกษาก่อนการตัดสินใจทำการร้อยไหม เพื่อให้ผู้รับการบริการได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับขั้นตอนการทำ การดูแลหลังการทำ และข้อจำกัดต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น
  • ดูรีวิว และประสบการณ์ของแพทย์ ควรตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้บริการที่ผ่านมาหรือคำแนะนำจากผู้ที่มีประสบการณ์ในการร้อยไหมที่คลินิกนั้นๆ นอกจากนี้ ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการร้อยไหม เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดผลข้างเคียง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับร้อยไหมคอลลาเจน (FAQ)

Q: ร้อยไหมคอลลาเจนเจ็บไหม ต้องใช้ยาชาไหม?
A: รู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่แพทย์จะใช้ยาชาทาในบริเวณที่จะทำหัตถการเพื่อบรรเทาอาการเจ็บ ทำให้รู้สึกไม่เจ็บหรือเจ็บน้อยมากระหว่างการทำ

Q: ร้อยไหมคอลลาเจนใช้เวลาทำนานไหม?
A: ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนเส้นไหมที่ใช้

Q: ทำไมบางคนร้อยไหมคอลลาเจนแล้วไม่เห็นผล?
A: อาจเกิดจากสภาพผิวที่ไม่เหมาะสม แพทย์ไม่เชี่ยวชาญ หรือการดูแลหลังทำไม่ดี คอลลาเจนในชั้นผิวจึงกระตุ้นได้ไม่ดี

Q: ต้องเว้นระยะห่างในการร้อยไหมคอลลาเจนแต่ละครั้งเท่าไร?
A: ควรเว้นระยะห่างในการร้อยไหมคอลลาเจนแต่ละครั้งประมาณ 6 – 8 เดือน

Q: หลังร้อยไหมคอลลาเจนสามารถแต่งหน้าได้ไหม?
A: หลังร้อยไหมคอลลาเจนสามารถแต่งหน้าได้ แต่ควรรอประมาณ 24 ชั่วโมงเพื่อให้ผิวฟื้นฟูและลดความเสี่ยงในการระคายเคือง

Q: ร้อยไหมคอลลาเจนสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม?
A: ร้อยไหมคอลลาเจนสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผลกระทบต่อผลลัพธ์หรือความปลอดภัย

Q: หลังร้อยไหมคอลลาเจนสามารถออกกำลังกายได้เมื่อไร?
A: หลังร้อยไหมคอลลาเจนควรงดการออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเคลื่อนของไหมและอาการบวม

Q: คนที่เคยร้อยไหมละลายชนิดอื่นมาแล้ว ยังสามารถร้อยไหมคอลลาเจนได้หรือไม่?
A: คนที่เคยร้อยไหมละลายชนิดอื่นมาแล้ว สามารถร้อยไหมคอลลาเจนได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อประเมินสภาพผิวและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

สรุป

ร้อยไหมคอลลาเจนจะเด่นด้านการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวให้เพิ่มมากขึ้น แทนการยกกระชับผิวเนื่องจากไหมคอลลาเจนเป็นไหมที่ไม่มีเงี่ยงจึงไม่สามารถดึงยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้ แต่จะช่วยทำให้ผิวกระชับมากขึ้น ลดริ้วรอยเล็กๆ แทน หากใครที่ต้องการร้อยไหมคอลลาเจน หรือกระตุ้นคอลลาเจนในผิวสามารถเข้ามาปรึกษากับ Vincent Clinic Aesthetic ที่จะมีแพทย์ที่มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำอย่างละเอียดค่ะ

Scroll to Top