บทความ
ร้อยไหมคาง ลดเหนียงใต้คางต้องใช้กี่เส้น ช่วยปรับหน้าเรียวจริงไหม
แชร์ :

ร้อยไหมคาง ลดเหนียงใต้คางต้องใช้กี่เส้น ช่วยปรับหน้าเรียวจริงไหม

โปรแกรมร้อยไหมคางปรับหน้าเรียวจริงไหม
อยากอ่านอะไร จิ้มที่หัวข้อได้เลย!

ร้อยไหมคางเป็นหนึ่งในหัตถการที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าสามารถทำได้ ซึ่งการร้อยไหมคางสามารถปรับหน้าให้เรียวขึ้นได้ โดยในบทความนี้ Vincent Clinic Aesthetic จะพามารู้จักกับการร้อยไหมคางว่าช่วยให้หน้าเรียว เหนียงกระชับขึ้นได้จริงไหม อันตรายไหม และมีวิธีดูแลหลังทำอย่างไร ได้รวมมาให้หมดแล้วค่ะ

Key Takeaway

  • ร้อยไหมคาง คือ การใช้เส้นไหมละลายสอดเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณคางและใต้คาง เพื่อดึงผิวที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น ลดเหนียง และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้กรอบหน้าคมชัดมากขึ้น
  • ร้อยไหมคางแก้ปัญหาให้กับคนที่มีเหนียงหรือผิวใต้คางหย่อน รวมถึงคนที่อยากให้ใบหน้าดูวีเชฟ กรอบหน้าคมชัด เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากผ่าตัดและต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว
  • ร้อยไหมคางไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคเรื้อรังรุนแรง ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร มีปัญหาผิวอักเสบ หรือมีประวัติแพ้เส้นไหมและยาชา ควรหลีกเลี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน
  • ร้อยไหมคางเห็นผลได้ทันทีหลังทำ เพราะแรงดึงของเส้นไหมจะช่วยยกผิวให้กระชับ แต่ยังคงมีข้อดีเพิ่มเติมคือการกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผลลัพธ์ค่อย ๆ ชัดเจนและต่อเนื่องในระยะยาว
  • ร้อยไหมคางใช้ไหมจำนวนเฉลี่ย 4 – 6 เส้น แต่ถ้าผิวหย่อนคล้อยหรือมีเหนียงมากอาจต้องใช้มากกว่านี้ โดยจำนวนที่แท้จริงขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์และชนิดเส้นไหมที่เลือกใช้
  • ร้อยไหมคางอยู่ได้นานประมาณ 6 – 12 เดือน และอาจนานถึง 18 – 24 เดือนหากใช้ไหมชนิดที่ละลายช้า แต่สามารถทำซ้ำได้เพื่อคงผลลัพธ์ต่อเนื่อง
  • หลังร้อยไหมคางควรหลีกเลี่ยงการกดหรือสัมผัสแรงๆ งดอ้าปากกว้าง งดออกกำลังกายหนักและซาวน่า งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ในช่วง 2 สัปดาห์แรก

ร้อยไหมคาง คืออะไร?

ร้อยไหมคาง คือ การยกกระชับผิวบริเวณคางและใต้คางด้วยการใช้เส้นไหมละลายที่เป็นประเภทเดียวกับไหมเย็บแผลทางการแพทย์ แต่มีการออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการยึดผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งจะ ร้อยไหม เข้าไปใต้ชั้นผิวจากนั้นไหมก็จะเกี่ยวกับเนื้อเยื่อผิว เมื่อดึงเส้นไหมขึ้นมาผิวบริเวณคางก็จะตึงกระชับขึ้นลดความหย่อนคล้อยของผิวได้

ร้อยไหมคางเหมาะกับใคร

ใครเหมาะกับร้อยไหมคาง

การร้อยไหมคางเป็นวิธีที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีปัญหาบริเวณคาง หรือใต้คาง ซึ่งผู้ที่เหมาะกับการร้อยไหมคาง ได้แก่

  • ผู้ที่มีปัญหาเหนียงหรือผิวหย่อนคล้อยบริเวณใต้คาง รู้สึกว่าผิวใต้คางไม่กระชับหรือเริ่มมีลักษณะหย่อนลงจากอายุที่เพิ่มขึ้น 
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียว อยากลดปัญหาหน้าใหญ่ ใบหน้าดูอ้วน ต้องการทำให้ใบหน้าวีเชฟ
  • ผู้ที่มีไขมันสะสมใต้คางปานกลาง มีปัญหา เหนียง ต้องการเก็บผิวบริเวณคางให้ตึง และกระตุ้นให้ผิวบริเวณนั้นกระชับขึ้น 
  • ผู้ที่อยากเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในระยะเวลาไม่นาน เพราะร้อยไหมคางให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างรวดเร็ว และใช้เวลาไม่นาน
  • ผู้ที่ไม่สะดวกหรือไม่ต้องการการผ่าตัดศัลยกรรม กลัวเจ็บ ไม่อยากมีแผลผ่าตัด หรือไม่มีเวลาพักฟื้น 

ใครไม่ควรร้อยไหมคาง

แม้การร้อยไหมคางจะเหมาะกับคนหลายคน แต่ก็ไม่ใช่วิธีที่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะสุขภาพบางอย่างหรือมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ควบคุมไม่ได้ เช่น เบาหวานหรือความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรง เพราะโรคเหล่านี้อาจส่งผลต่อกระบวนการสมานแผล และเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรืออักเสบหลังทำ
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยควรหลีกเลี่ยง และปรึกษาแพทย์ที่ดูแลก่อนตัดสินใจทำหัตถการใด ๆ
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังบริเวณที่ต้องร้อยไหม เช่น การอักเสบ ติดเชื้อ สิวอักเสบ รุนแรง หรือโรคผิวหนังเรื้อรัง ควรรอให้ปัญหาเหล่านี้หายก่อน เพราะเสี่ยงติดเชื้อได้
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้วัสดุเส้นไหมหรือยาชาที่ใช้ระหว่างทำ ถ้าเคยมีอาการแพ้อย่างรุนแรงต่อไหมละลายหรือยาชาชนิดเฉพาะควรหลีกเลี่ยงการร้อยไหม เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
  • ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่ายหรือหยุดไหลช้า เนื่องจากการร้อยไหมต้องมีการเจาะเข้าสู่ชั้นผิว ผู้ที่มีภาวะนี้จะเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำหรือเลือดคั่งได้มากกว่าคนทั่วไป
  • ผู้ที่มีพังผืดใต้ผิวหนังจากการทำหัตถการเดิม การร้อยซ้ำอาจทำให้ไหมจับไม่ติดหรือผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
  • ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์ถาวร การร้อยไหมไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร หากต้องการเปลี่ยนรูปคางถาวร ต้องใช้วิธีอื่น

ข้อดี ข้อเสียของการร้อยไหมคาง

ร้อยไหมคางเพื่อแก้ไขปัญหาผิว ปรับให้หน้าเรียว ผิวบริเวณคางกระชับมากขึ้นต่างมีทั้งข้อดี และข้อเสียที่ควรรู้ก่อนจะร้อยไหม ดังนี้

ข้อดีของการร้อยไหมคาง

  • เห็นผลทันทีหลังทำ เส้นไหมที่มีเงี่ยงสามารถดึงผิวให้ยกกระชับขึ้นได้ทันที ทำให้รูปหน้าดูเรียวและแนวคางชัดขึ้นทันที
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลใหญ่ เป็นหัตถการที่ไม่ใช้มีด ไม่มีบาดแผลขนาดใหญ่ จึงไม่มีรอยแผลเป็นเหมือนการศัลยกรรม
  • พักฟื้นน้อย ใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที อาจมีเพียงอาการบวมหรือช้ำเล็กน้อยในช่วง 1 – 3 วันแรก
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว เส้นไหมละลายจะกระตุ้นให้ผิวบริเวณคางสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่น เรียบตึง และกระชับขึ้นในระยะยาว
  • ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูวีเชฟ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้คางเรียวยาว ลด ผิวหย่อนคล้อย และกรอบหน้าชัดเจนขึ้น
  • ไหมละลายปลอดภัย ผลิตจากวัสดุที่ผ่านการรับรองจากทั้งไทยและต่างประเทศ ละลายได้หมด ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย

ข้อเสียของการร้อยไหมคาง

  • อาจมีอาการบวม ช้ำ หรือเจ็บในระยะสั้นๆ หลังการร้อยอาจรู้สึกตึง เจ็บ หรือมีรอยช้ำบริเวณคางและใต้คางได้ในช่วง 3 – 5 วันแรก ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยและมักหายได้เองเมื่อเวลาผ่านไป
  • อาจทำให้เกิดผิวบุ๋มหรือไหมทะลุผิวได้ หากใส่ในตำแหน่งที่ไม่แม่นยำหรือร้อยลึกเกินไป อาจทำให้ผิวดึงรั้งผิดทิศ เกิดรอยบุ๋ม หรือไหมทะลุผิว ถ้าแพทย์ไม่มีประสบการณ์
  • เสี่ยงต่อการเกิดพังผืดหากร้อยผิดตำแหน่ง หากร้อยไหมลงไปในจุดที่ไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดพังผืดทำให้ผิวแข็ง รั้งผิว หรือผิดรูปได้
  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องทำซ้ำหากต้องการผลต่อเนื่อง เส้นไหมละลายจะอยู่ในชั้นผิวประมาณ 6 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมและการตอบสนองของร่างกาย 
  • ผู้ที่มีผิวบางมากอาจมองเห็นแนวไหมชัด ถ้ามีชั้นผิวบางหรือไขมันใต้ผิวหนังน้อย อาจเห็นเป็นลักษณะเส้นนูนหรือเงาใต้ผิว ทำให้ผลลัพธ์ดูไม่เรียบเนียน 

ร้อยไหมคางใช้ไหมกี่เส้น

จำนวนเส้นไหมที่ใช้ในการร้อยไหมคางจะขึ้นอยู่กับลักษณะผิว ความหย่อนคล้อย และผลลัพธ์ที่ต้องการ ปกติแล้วจะใช้ประมาณ 4 – 6 เส้น แต่ถ้ามีเหนียงหรือผิวใต้คางหย่อนคล้อยมากอาจต้องใช้จำนวนเส้นมากกว่านี้ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินจำนวนเส้นไหมที่เหมาะสม และชนิดของไหมที่เลือกใช้ เช่น ไหมที่มีแรงยกมากอาจใช้เพียงไม่กี่เส้น แต่ถ้าเป็นไหมเส้นเล็กอาจต้องใช้หลายเส้นเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน

ไหมแบบไหนเหมาะกับการร้อยไหมคาง

การเลือกเส้นไหมที่เหมาะสมสำหรับร้อยไหมคางมีความสำคัญอย่างมาก เพราะแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในการยกกระชับ การกระตุ้นคอลลาเจน และระยะเวลาการคงผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ไหมที่ถูกต้องจึงต้องคำนึงถึงทั้งปัญหาผิว ความหย่อนคล้อย และผลลัพธ์ที่ต้องการในแต่ละบุคคล โดยเส้นไหมสามารถแบ่งได้ทั้งตามวัสดุและตามลักษณะของเส้นไหม ดังนี้

ประเภทไหมตามลักษณะการทำงานที่เหมาะกับร้อยไหมคาง

  • ไหมเงี่ยง (Cog Thread) เป็นเส้นไหมที่มีเงี่ยงคล้ายตะขอตลอดแนว เช่น ไหมก้างปลา ช่วยยึดเกาะกับชั้นผิวและดึงผิวให้ยกกระชับขึ้นได้ทันที เหมาะสำหรับใช้บริเวณคาง ใต้คาง และแนวกรอบหน้า ให้ผลการยกกระชับที่ชัดเจนและเห็นผลเร็ว
  • ไหมเรียบ (Mono Thread) เป็นไหมไม่มีเงี่ยงใช้สำหรับ กระตุ้นคอลลาเจน และกระชับผิวในระดับเบา เหมาะกับการร้อยเพื่อปรับสภาพผิว ลดความหย่อนคล้อยเล็กน้อย หรือใช้ร่วมกับไหมชนิดอื่นเพื่อเสริมประสิทธิภาพ
  • ไหมเกลียว (Screw Thread) เป็นไหมมีลักษณะพันเกลียว ช่วยเสริมแรงพยุงผิวและเติมเต็มผิวที่ขาดความกระชับ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางหย่อนคล้อยชัดเจน หรือผิวบางที่ต้องการความหนาแน่นมากขึ้น

ไหมสำหรับร้อยไหมคาง

ประเภทไหมตามวัสดุที่ใช้ผลิตที่เหมาะกับร้อยไหมคาง

  • ไหม PDO (Polydioxanone) เป็นไหมละลายที่นิยมใช้มากที่สุด เห็นผลชัดเจนในเรื่องการกระตุ้นคอลลาเจนและยกผิว ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6 – 12 เดือน เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปคางหรือเหนียงโดยไม่ต้องการผลถาวร และมีราคาไม่แพง
  • ไหม PLLA (Poly-L-Lactic Acid) เป็นไหมที่ช่วยกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน ได้ต่อเนื่องในระยะยาว ผลลัพธ์จะชัดขึ้นเรื่อย ๆ หลังทำ อยู่ได้นานประมาณ 12 – 18 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลที่ยาวนานขึ้นโดยไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อย
  • ไหม PCL (Polycaprolactone) เป็นไหมที่มีความยืดหยุ่นสูงและละลายช้าที่สุด ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ประมาณ 18 – 24 เดือน และยังคงกระตุ้นคอลลาเจนได้ต่อเนื่อง เหมาะกับผู้ที่มองหาผลลัพธ์ระยะยาวและมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก

วิธีเตรียมตัวก่อนร้อยไหมคาง

เพื่อให้ผลลัพธ์ของการร้อยไหมคางออกมาดีและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ควรเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างเหมาะสม ดังนี้

  • งดยาและอาหารเสริมที่รบกวนการแข็งตัวของเลือด หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพริน ยากลุ่ม NSAIDs น้ำมันปลา วิตามิน E และโสม อย่างน้อย 3–7 วันก่อนทำ เพราะอาจทำให้ช้ำง่ายหรือเลือดออกมากกว่าปกติ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์มีผลต่อการไหลเวียนเลือดและการฟื้นตัว ควรงดดื่มทั้งก่อนร้อยไหม 1–2 วัน
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต งดออกกำลังกายหนัก ซาวน่า อบไอน้ำ หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรง ก่อนทำ 24 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงของรอยช้ำหรือบวม
  • แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือประวัติการแพ้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน หรือโรคหัวใจ หากเคยแพ้ไหมหรือยาชาควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
  • เตรียมผิวให้พร้อมในวันทำ ล้างหน้าให้สะอาด งดแต่งหน้า และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจระคายเคืองผิวบริเวณคาง
  • งดการสครับหรือกำจัดขนบริเวณคางก่อนทำ หลีกเลี่ยงการขัดผิวหรือใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ก่อนร้อยไหมอย่างน้อย 3 วัน เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรืออักเสบหลังทำ

ขั้นตอนในการร้อยไหมคาง

การร้อยไหมคางเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความแม่นยำและความเชี่ยวชาญของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัย โดยขั้นตอนในการทำจะประกอบด้วยลำดับต่อไปนี้

  • ปรึกษาแพทย์และประเมินรูปหน้า แพทย์จะเริ่มจากการประเมินสภาพผิว ลักษณะของคาง ความหย่อนคล้อย และความสมดุลของใบหน้า เพื่อวางแผนแนวการร้อยไหม ประเภทไหม และจำนวนเส้นที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
  • กำหนดทิศทางการร้อยไหม แพทย์จะวางแนวเส้นไหมให้สอดรับกับแนวกล้ามเนื้อและแรงโน้มถ่วงของผิว เพื่อให้ผลการยกกระชับเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำให้ผิวผิดรูปหรือดูแข็ง
  • เตรียมผิวและให้ยาชา ก่อนทำจะมีการทำความสะอาดผิวบริเวณคางและแนวกรอบหน้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ จากนั้นแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะจุดเพื่อลดความรู้สึกเจ็บระหว่างทำ
  • ร้อยไหมเข้าสู่ชั้นใต้ผิว เมื่อยาชาออกฤทธิ์แพทย์จะใช้เข็มนำร้อยเส้นไหมเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนัง โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับชั้นไขมัน เพื่อให้เงี่ยงของไหมสามารถเกี่ยวและยกผิวให้กระชับขึ้นได้อย่างมั่นคง
  • ตัดไหมและดูแลบริเวณรอยร้อยไหม หลังจากร้อยไหมครบตามแนวที่วางแผนไว้แพทย์จะตัดปลายไหมที่เกินออก และปิดพลาสเตอร์บริเวณรอยเข็มเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • ตรวจเช็กผลลัพธ์เบื้องต้นหลังทำ แพทย์จะตรวจสอบความสมดุลและการยกกระชับของคางทันทีหลังทำ พร้อมแนะนำการดูแลตนเองหลังหัตถการเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน

การร้อยไหมคางเจ็บไหม?

การร้อยไหมคางไม่ได้เจ็บมากเนื่องจากก่อนเริ่มทำแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ทั้งในรูปแบบแปะยาชา และฉีดยาชาเพื่อระงับความรู้สึกบริเวณที่ทำ ทำให้ระหว่างร้อยไหมจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย หรืออาจแค่รู้สึกตึงๆ ขณะไหมถูกดึงตามแนวที่วางไว้ ในบางรายที่ผิวบางหรือไวต่อความรู้สึก อาจมีอาการรู้สึกไม่สบายในช่วงที่แพทย์กำลังร้อยไหมเข้าสู่ชั้นผิว แต่ความรู้สึกเหล่านี้จะอยู่เพียงชั่วคราวและไม่รุนแรง 

หลังร้อยไหมคางผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม

ผลลัพธ์ของการร้อยไหมคางโดยทั่วไปอยู่ได้นานประมาณ 6–12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่ใช้ หากใช้ไหมละลายช้าประเภท PCL หรือ PLLA อาจอยู่ได้นานถึง 18 เดือน หรือมากกว่านั้น ถึงแม้ไหมจะสลายไปตามธรรมชาติ แต่กระบวนการสร้างคอลลาเจนที่เกิดขึ้นยังช่วยให้ผิวคงความกระชับต่อเนื่อง การดูแลหลังทำ เช่น หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ ความร้อน และการกดนวดคาง จะช่วยยืดอายุผลลัพธ์ให้คงอยู่ได้นานขึ้น และสามารถร้อยซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์

ร้อยไหมคางอันตรายไหม 

การร้อยไหมคางเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงหากดำเนินการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และเลือกใช้ไหมละลายที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เช่น PDO, PLLA หรือ PCL เมื่อเส้นไหมค่อยๆ สลายไปตามธรรมชาติโดยไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างในร่างกายอีกทั้งไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ

แต่ร้อยไหมคางอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น อาการบวม แดง หรือช้ำบริเวณที่ทำ ซึ่งมักเกิดขึ้นช่วง 2 – 3 วันแรกและหายได้เอง นอกจากนี้บางรายอาจรู้สึกตึงผิวหรือระคายจากไหมช่วงแรก ส่วนผลข้างเคียงที่พบได้น้อย เช่น ไหมทะลุ ผิวบุ๋ม หรือเกิดพังผืดใต้ผิว มักเกี่ยวข้องกับเทคนิคการร้อยหรือประสบการณ์ของแพทย์ ดังนั้นการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญคือสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงและให้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย

วิธีดูแลตัวเองหลังร้อยไหมคาง?

หลังร้อยไหมคางควรดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันผลข้างเคียง และช่วยให้ไหมอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง รวมถึงส่งเสริมให้ผิวกระชับและฟื้นตัวเร็ว ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส กด หรือเกาบริเวณที่ร้อยไหม เพื่อป้องกันการอักเสบ ติดเชื้อ และการเคลื่อนตัวของไหมทำให้ใบหน้าผิดรูปได้
  • งดอ้าปากกว้าง เคี้ยวของเหนียว หรือขยับใบหน้ารุนแรง ควรงดพฤติกรรมเหล่านี้อย่างน้อย 3 – 7 วันแรกเพื่อให้ไหมยึดผิวได้อย่างมั่นคง
  • ประคบเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรก จะช่วยลดอาการบวม และอาการช้ำหลังทำให้หายไวขึ้น
  • งดแต่งหน้า และล้างหน้าแรงๆ ควรงดแต่งหน้าอย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง และล้างหน้าด้วยความเบามือในช่วง 1 สัปดาห์แรก เพื่อป้องกันการอักเสบ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และอาหารหมักดอง เพื่อป้องกันการขยายตัวของหลอดเลือดและลดความเสี่ยงบวมอักเสบ ควรงดอย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักและกิจกรรมที่ใช้ความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ เลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ร้อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA, BHA, Retinoid หรือสารระคายเคืองใดๆ ในช่วง 2 สัปดาห์แรก

ร้อยไหมคางต่างกับวิธีอื่นอย่างไร

หัตถการ ช่วยอะไร ระยะเวลาเห็นผล อยู่ได้นานไหม เหมาะกับใคร
ร้อยไหมคาง ยกกระชับ ลดเหนียง ปรับกรอบหน้า เห็นผลทันทีหลังทำ อยู่ได้นาน 6 – 18 เดือน ผู้มีผิวคางหย่อนคล้อย เหนียง กรอบหน้าไม่ชัด
ฉีดโบท็อกกราม ลดกล้ามเนื้อกรามให้หน้าเรียว เห็นผลภายใน 7 – 14 วัน อยู่ได้นาน  4 – 6 เดือน ผู้มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ
เครื่องยกกระชับ  กระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย เห็นผลบางส่วนทันที ชัดขึ้นใน 1 – 2 เดือน อยู่ได้นาน  6 เดือน – 1 ปี ผู้ต้องการยกผิวโดยไม่เพิ่มปริมาตร
เมโสแฟต สลายไขมันเฉพาะจุดบริเวณใต้คาง เห็นผลภายใน 1 – 2 สัปดาห์ อยู่ได้นาน  1 – 3 เดือน ผู้มีไขมันใต้คางเล็กน้อยถึงปานกลาง
ฟิลเลอร์คาง เติมปริมาตรให้คางดูยาวและสมส่วน เห็นผลทันทีหลังทำ อยู่ได้นาน  12 – 18 เดือน ผู้มีคางสั้น ต้องการความยาวและมิติ
เสริมคาง ปรับรูปคางแบบถาวรด้วยซิลิโคน เห็นผลทันทีหลังทำ อยู่ได้ ถาวร ผู้ต้องการเปลี่ยนรูปคางแบบถาวร

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับร้อยไหมคาง (FAQ)

Q: ฉีดฟิลเลอร์ซ้ำหลังร้อยไหมคางภายหลังได้ไหม?
A: ร้อยไหมคางแล้วสามารถฉีดฟิลเลอร์ซ้ำภายหลังได้ แต่ควรเว้นระยะอย่างน้อย 2–4 สัปดาห์ และให้แพทย์ประเมินตำแหน่งก่อนฉีดเพื่อความปลอดภัย

Q: สามารถหัตถการอื่นได้ไหมหลังร้อยไหมคาง เช่น HIFU หรือเมโส?
A: หลังร้อยไหมคางสามารถทำหัตถการอื่นได้ แต่ควรเว้นระยะอย่างน้อย 2–4 สัปดาห์ โดยเฉพาะหัตถการที่ใช้ความร้อนหรือฉีดสาร เพื่อป้องกันไหมเคลื่อนหรือผลลัพธ์คลาดเคลื่อน

Q: รู้สึกตึงเวลาหัวเราะหรือพูดเยอะๆ หลังร้อยไหมคางปกติไหม?
A: ร้อยไหมคางแล้วรู้สึกตึงเวลาหัวเราะหรือพูดมากถือเป็นอาการปกติในช่วงแรก และมักหายได้เองภายในไม่กี่วัน

Q: ร้อยไหมคางแล้วไหมขยับหลังร้อยได้ไหม
A: ไหมอาจขยับได้หากมีการขยับใบหน้าหรือสัมผัสแรง ๆ ในช่วง 1–2 สัปดาห์แรกหลังร้อย จึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังกล่าว

Q: ถ้าร้อยไหมคางแล้วไม่ชอบสามารถแก้ไขได้ไหม
A: หากร้อยไหมคางแล้วไม่ชอบสามารถแก้ไขได้บางกรณี โดยแพทย์อาจตัดไหมหรือปรับตำแหน่ง แต่ต้องพิจารณาตามอาการและช่วงเวลาหลังทำ

Q: เวลาขยับหน้าจะมีเสียงไหมหลังร้อยไหมคาง
A: บางรายอาจได้ยินเสียงหรือรู้สึกคล้ายไหมเสียดสีกันช่วงแรกหลังร้อยไหมคาง แต่เป็นอาการชั่วคราวและมักหายไปเมื่อไหมเริ่มเข้าที่.

Q: ไหมที่ใช้ร้อยคางเหมือนกันไหมที่ใช้ร้อยไหมบริเวณอื่นไหม
A: ไหมที่ใช้ร้อยคางอาจเป็นชนิดเดียวกับบริเวณอื่น แต่จะเลือกขนาดและรูปแบบให้เหมาะกับความลึกและแรงยกเฉพาะจุด

Q: สามารถร้อยไหมคางได้ไหมถ้าเสริมคางมา
A: สามารถร้อยไหมคางได้แม้เคยเสริมคางมา แต่ควรให้แพทย์ประเมินก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบซิลิโคน

Q: สามารถร้อยไหมคางได้ไหมถ้าจัดฟัน
A: ผู้ที่จัดฟันสามารถร้อยไหมคางได้ แต่ควรแจ้งทันตแพทย์และแพทย์ผู้ทำหัตถการก่อน เพื่อประเมินความเหมาะสมและลดความเสี่ยงการดึงรั้งขณะขยับฟัน

สรุป

ร้อยไหมคางช่วยยกกระชับลดเหนียงใต้คาง และปรับรูปหน้าให้ดูเรียวยาวแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้เส้นไหมละลายซึ่งออกแบบมาเพื่อยึดเกาะผิว ทำให้เนื้อเยื่อถูกดึงขึ้นกระชับทันที และยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในระยะต่อเนื่อง หากใครที่ต้องการร้อยไหม อยากปรับให้หน้าเรียวสวย ลดเหนียง สามารถเข้ามาปรึกษากับ Vincent Clinic Aesthetic โดยจะมีแพทย์ที่มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำค่ะ

Scroll to Top