บทความ
Calcium Hydroxyapatite คืออะไร ดีไหม มีกี่ยี่ห้อ เลือกยี่ห้อไหนดี
แชร์ :

Calcium Hydroxyapatite คืออะไร ดีไหม มีกี่ยี่ห้อ เลือกยี่ห้อไหนดี

Calcium Hydroxyapatite
อยากอ่านอะไร จิ้มที่หัวข้อได้เลย!

Calcium Hydroxyapatite กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อนี้ผ่านผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้ในการปรับรูปหน้า หรือฟื้นฟูสภาพผิวที่เสื่อมลงตามวัย แต่ยังมีคำถามตามมาว่า Calcium Hydroxyapatite คืออะไร ปลอดภัยหรือไม่ ในบทความนี้ Vincent Clinic Skin มาตอบคำถามที่สงสัยให้แล้วค่ะ

Calcium Hydroxyapatite คืออะไร

Calcium Hydroxylapatite หรือ CaHA คือสารประกอบที่มีองค์ประกอบหลักเป็นแคลเซียมและฟอสเฟต ซึ่งมีโครงสร้างทางเคมีคล้ายกับสารที่พบในกระดูกและฟันของมนุษย์โดยธรรมชาติ โดยทั่วไปสามารถสกัดได้จากแหล่งธรรมชาติ เช่น ผงกระดูกปลาทูน่า กระดูกวัว ซึ่งให้แคลเซียมในรูปแบบที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายกว่ารูปแบบทั่วไป โครงสร้างของ CaHA มีลักษณะเฉพาะในรูปแบบของผลึกที่เรียกว่าไฮดรอกซีอะพาไทต์ ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความหนาแน่น ความแข็งแรง และความทนทานของเนื้อเยื่อกระดูกและฟัน

แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งแคลเซียมเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในระดับเซลล์ โดยช่วยสนับสนุนการสร้างเนื้อเยื่อกระดูกใหม่ ชะลอการสูญเสียมวลกระดูก ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน และช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับฟัน นอกจากนี้แหล่งแคลเซียมประเภทนี้ยังไม่ก่อให้เกิดการตกค้างในระบบทางเดินอาหาร ไม่ทำให้เกิดปัญหาท้องผูก และไม่ก่อให้เกิดการสะสมของตะกอนแคลเซียมในลำไส้ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบเหนือแคลเซียมรูปแบบอื่นที่ร่างกายดูดซึมได้ยากกว่า

Calcium Hydroxyapatite ดีไหม อันตรายหรือเปล่า

ในทางการแพทย์ CaHA เป็นสารที่มีการใช้งานมานานกว่า 25 ปี โดยเฉพาะในวงการศัลยกรรมผิวหนัง และเวชศาสตร์ฟื้นฟู และมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ CaHA อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีเอกสารงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 250 ฉบับ และได้รับการรับรองความปลอดภัยจากทั้งองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) รวมถึงมาตรฐานจากยุโรป (CE Mark) จึงถือได้ว่า CaHA เป็นสารที่มีข้อมูลรองรับชัดเจนในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

CaHA จึงมีความปลอดภัยสูงมาก เนื่องจากเป็นสารที่มีอยู่แล้วในร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะในกระดูก และฟัน ไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกัน สามารถสลายตัวได้ตามกลไกของร่างกายตามธรรมชาติ ซึ่งต่างจากสารเติมเต็มบางชนิดที่อาจเกิดพังผืด ติดเชื้อ หรือมีผลแทรกซ้อนในระยะยาว

CaHA ช่วยอะไร มีประโยชน์อะไรต่อผิวบ้าง

CaHA ช่วยอะไร มีประโยชน์อะไรต่อผิวบ้าง

CaHA ยังถูกนำมาใช้ในวงการความงามและการแพทย์ด้านผิวหนัง โดยทำหน้าที่เป็นสารเติมเต็ม หรือฟิลเลอร์ที่ ซึ่ง CaHA ไม่ได้เป็นเพียงสารเติมเต็มผิวที่ช่วยให้เห็นผลในทันทีเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทในการฟื้นฟูผิวจากภายใน ผ่านกระบวนการทางชีวภาพที่กระตุ้นการซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติในผิวหนัง ส่งผลให้ผิวดูอิ่มฟู ยกกระชับ และดูอ่อนเยาว์ขึ้น

เมื่อ CaHA ถูกฉีดเข้าสู่ชั้นผิวจะเข้าไปจัดเรียงตัวเป็นโครงสร้างตาข่ายแบบสามมิติที่ช่วยรองรับเนื้อเยื่อผิว พร้อมกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ ซึ่งเป็นเซลล์หลักในการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และองค์ประกอบสำคัญอื่น ๆ ของผิว กระบวนการนี้จะไม่เพียงส่งผลให้ผิวดูอิ่มฟูและแน่นกระชับขึ้นทันที แต่ยังค่อย ๆ ฟื้นฟูคุณภาพผิวอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

CaHA สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 ซึ่งเป็นคอลลาเจนหลักของผิวได้มากถึง 150% ช่วยให้โครงสร้างผิวมีความแข็งแรงและทนทานยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 3 ได้มากกว่า 130% ซึ่งมีบทบาทในการทำให้ผิวแน่นและเต่งตึง และยังส่งผลต่อการจัดเรียงเส้นใยของคอลลาเจนชนิดที่ 1 ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

 และ CaHA ยังช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสตินได้มากถึง 260% ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ทำให้ผิวยืดหยุ่นและสามารถกลับคืนรูปได้ดีหลังจากการเคลื่อนไหวหรือยืดขยาย ลดความหย่อนคล้อยและทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

อีกคุณสมบัติที่น่าสนใจคือช่วยเพิ่มการผลิตสารกลุ่มโปรตีโอไกลแคน ซึ่งทำหน้าที่เก็บกักน้ำไว้ในเนื้อเยื่อผิว จึงส่งผลให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำ และเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น รวมถึงยังมีบทบาทในการกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดฝอยขนาดเล็ก หรือที่เรียกว่ากระบวนการ Angiogenesis ทำให้ผิวได้รับสารอาหารและออกซิเจนอย่างเพียงพอ ส่งผลต่อความสดใส สุขภาพดี และสีผิวที่ดูมีเลือดฝาด

ด้วยกระบวนการทั้งหมดนี้ CaHA จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่สารเติมเต็มทั่วไป แต่ยังเป็นสารที่ส่งเสริมให้ผิวแข็งแรงจากภายใน โดยให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานในสามมิติ คือ ผิวที่มีโครงสร้างแน่นขึ้นและสุขภาพดีขึ้น ผิวที่ดูอ่อนเยาว์ขึ้นเพราะลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย และผิวที่คงความสวยอย่างยาวนานเพราะคุณภาพผิวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังการรักษาค่ะ

CaHA ต่างกับ HA อย่างไร

CaHA และ HA เป็นสารที่นิยมใช้ในการฉีดเติมเต็มผิวและปรับรูปหน้า โดยแม้ทั้งสองชนิดจะช่วยปรับผิวได้ แต่กลับมีคุณสมบัติ กลไกการทำงาน และผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

CaHA หรือ Calcium Hydroxylapatite เป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ มีอนุภาคละเอียดที่เมื่อฉีดเข้าสู่ชั้นผิวจะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ตามธรรมชาติ จึงถือว่าเป็นสารประเภทกระตุ้นการสร้างเซลล์หรือ Biostimulator ทำหน้าที่เติมเต็มร่องลึกได้ และยังช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวในระยะยาว โดยผลลัพธ์ของการใช้ CaHA จะไม่ได้แสดงออกอย่างฉับพลัน แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นตามกระบวนการสร้างคอลลาเจนภายในร่างกาย จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับปรุงสภาพผิวจากภายใน

ส่วน HA หรือ Hyaluronic Acid เป็นกรดไฮยาลูโรนิกที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำสูงและสามารถพบได้ในผิวหนังของมนุษย์เช่นกัน ฟิลเลอร์ HA ที่ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์มักถูกออกแบบมาเพื่อเลียนแบบการทำงานของ HA ธรรมชาติในร่างกาย จึงสามารถเติมเต็มช่องว่างใต้ผิวได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบริเวณที่เกิดการสูญเสียวอลลุ่ม เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หรือริมฝีปาก ผลลัพธ์ของ HA จะเห็นได้ทันทีหลังฉีด ผิวจะดูอิ่มฟูขึ้น ริ้วรอยตื้นลง และผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับแก้รูปหน้าหรือริ้วรอยอย่างเร่งด่วน

ข้อแตกต่างสำคัญระหว่าง CaHA และ HA อยู่ที่ระยะเวลาการเห็นผลและกลไกการฟื้นฟูผิว CaHA เน้นการกระตุ้นกระบวนการภายในร่างกายเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ระยะยาว ส่วน HA เน้นการเติมเต็มในทันทีและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างรวดเร็วค่ะ

Calcium Hydroxyapatite ยี่ห้อไหนดี

ในปัจจุบัน Calcium Hydroxyapatite (CaHA) เริ่มมีความนิยมมากขึ้น และมีการนำมาใส่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นส่วนผสม โดยผลิตภัณฑ์ที่มี CaHA เป็นส่วนผสม และผ่านอย.ไทย มีดังนี้ 

  • Radiesse ถูกพัฒนาโดยบริษัท Merz Aesthetics มี CaHA เป็นส่วนผสม 30% โดยผสานอยู่ในเจล Carboxymethyl Cellulose ที่ช่วยให้อนุภาค CaHA กระจายตัวได้ดีภายในชั้นผิว จุดเด่นของ Radiesse ไม่ได้มีเพียงการเติมเต็มผิวทันทีหลังฉีด แต่ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 ได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวแน่น ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์ขึ้นในระยะยาว ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 2 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาร่องลึก ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย รวมถึงการฟื้นฟูบริเวณอื่นๆ เช่น คอ หลังมือ 
  • Neauvia ถูกพัฒนาโดยบริษัท Neauvia ซึ่งเป็นแบรนด์จากยุโรปที่พัฒนาสูตรฟิลเลอร์โดยผสมผสาน CaHA เข้ากับกรดไฮยาลูโรนิกในบางรุ่น เช่น Neauvia Stimulate ที่มีปริมาณ CaHA 1% ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เพิ่มวอลุ่มในจุดที่ผิวขาดความชุ่มชื้น หรือมีโครงสร้างอ่อนแอ สามารถใช้ฉีดในบริเวณที่ต้องการเติมเต็มลึก เช่น ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้มตอบ และคาง และรุ่น Neauvia Hydro Deluxe ที่มี CaHA ปริมาณ 0.01% เหมาะสำหรับการฉีดในชั้นผิวตื้นเพื่อฟื้นฟูความชุ่มชื้นและกระชับรูขุมขน ช่วยให้ผิวดูฉ่ำวาวสุขภาพดี โดยผลลัพธ์ของ Neauvia อยู่ได้นานประมาณ 6 ถึง 12 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นและตำแหน่งที่ฉีด
  • HArmonyCa ซึ่งเป็นฟิลเลอร์แบบไฮบริดที่รวมคุณสมบัติของทั้ง CaHA และ Hyaluronic Acid เข้าด้วยกัน พัฒนาโดยบริษัท Allergan จุดเด่นของ HArmonyCa คือสามารถเติมเต็มผิวได้ในทันทีด้วยกรดไฮยาลูโรนิก พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่องด้วย CaHA ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ผิวแน่น และยืดหยุ่ขึ้นน ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบสองต่อในครั้งเดียว และต้องการให้ผิวดูอิ่มฟูเป็นธรรมชาติ ควบคู่กับการฟื้นฟูในระยะยาว

สรุป

Calcium Hydroxylapatite หรือ CaHA เป็นสารที่พบได้ในร่างกายตามธรรมชาติอยู่แล้ว และมีการนำมาเป็นส่วนผสมของหลายๆ ผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน ช่วยปรับสภาพฟื้นฟูผิวจากภายใน กระตุ้นคอลลาเจนในผิวให้มากขึ้น หากต้องการเพิ่มความแข็งแรงให้ รักษาปัญหาผิวต่างๆ หรือปรับรูปหน้า สามารถปรึกษากับ Vincent Clinic Skin โดยจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาอย่างละเอียดค่ะ

Scroll to Top