บทความ
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ แต่ละจุดทำอย่างไร ควรระวังอะไรบ้าง?
แชร์ :

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ แต่ละจุดทำอย่างไร ควรระวังอะไรบ้าง?

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
อยากอ่านอะไร จิ้มที่หัวข้อได้เลย!

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นอีกหนึ่งข้อแนะนำที่แพทย์จะบอกทุกครั้งหลังเข้ารับบริการให้คนไข้นำกลับไปปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา เช่น อาการไหลไปยังตำแหน่งงอื่น อาการผิดรูปทรง อาการอักเสบบวมช้ำ เป็นต้น ซึ่งในแต่ละส่วนของใบหน้ามีข้อควรระวังที่แตกต่างกันออกไปบ้าง  โดยวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดสารเติมเต็มมีอะไรบ้าง ในแต่ละตำแหน่งของใบหน้ามีข้อควรระวังอย่างไร หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม สามารถติดตามอ่านได้จากบทความนี้

Artboard 1 copy 3

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังทำเซ็ตตัวไวขึ้น ไม่สลายไปก่อนเวลาอันควร และช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้น

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ทันที

  • อาจมีอาการบวมแดง หรือช้ำขึ้นได้เล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่พบได้ และจะหายไปได้เองภายใน 2 – 3 วันหลังทำ
  • งดนวด กด บีบ ปั้น หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณที่ทำ เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการผิดรูปทรงหรือเคลื่อนไปในตำแหน่งอื่นที่ไม่ต้องการ

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ภายใน 3 – 48 ชั่วโมง

  • 3 ชั่วโมงหลังฉีด สามารถล้างหน้าได้ด้วยสบู่อ่อน หรือผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม โดยไม่ควรให้รอยเข็มโดนน้ำนานเกิน 15 นาที
    • หากมีอาการบวมแดงและต้องการประคบเย็นสามารถทำได้แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อให้แพทย์ได้แนะนำวิธีประคบเย็นที่ถูกต้อง เพราะหากประคบผิดวิธีอาจจะส่งผลทำให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนที่ไปจากตำแหน่งเดิม
  • 6 ชั่วโมงหลังฉีด ยาชาจะเริ่มหมดฤทธิ์ หากมีจุดไหนที่บวมอยู่สามารถประคบเย็นช่วยได้ แต่ไม่ควรกดแรงเพราะจะส่งผลกระทบกับรูปทรงของฟิลเลอร์ที่ฉีด
  • 24 ชั่วโมงหลังฉีด อาจจะเกิดอาการบวมเข็มขึ้นทำให้บางคนเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของฟิลเลอร์ที่กำลังฟู ภายใน 1 – 2 สัปดาห์อาการบวมเข็มจะยุบหายไป ทำให้คิดว่าฟิลเลอร์สลายไปแล้ว
  • 48 ชั่วโมงหลังฉีด หลีกเลี่ยงอากาศร้อนหรือทำกิจกรรมที่ต้องอยู่กับความร้อน เพราะฟิลเลอร์อาจเกิดการสลายตัวได้ไวขึ้น เช่น งดเข้าซาวน่า อบตัว ออกกำลังกายหนัก ๆ โดนแดดจัด เป็นต้น

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ 3 – 14 วัน

  • 3 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ อาการปวด บวมแดง หรือรอยช้ำ จะเริ่มดีขึ้น แนะนำว่าอย่าเพิ่งขยับใบหน้าเยอะเกินไปเพราะยังเซ็ตตัวไม่เต็มที่อาจทำให้เกิดการเคลื่อนตำแหน่งได้
  • 7 – 10 วันหลังฉีด อาจจะยังคงเหลือรอยช้ำอยู่บ้างเล็กน้อยแต่จะค่อย ๆ ลดเลือนหายไปเอง ไม่ควรประคบร้อนเพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้น ในบางรายอาจเจอลักษณะเป็นก้อนนูนเวลาที่คลำซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นจากอาการบวมเข็มและจะหายไปได้เอง
  • 14 วันหลังทำ ผลลัพธ์จะเริ่มเข้าที่มากขึ้นเพราะอาการบวมหายแล้วทำให้สามารถประเมินได้ว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร เป็นการเช็กผลในรอบที่สองเพราะมีการเซ็ตตัวและเริ่มกลืนเข้ากับผิวได้มากขึ้น ส่วนในรอบแรกจะเป็นการดูผลลัพธ์ที่ได้ทันทีหลังทำซึ่งฟิลเลอร์ยังไม่เซ็ตตัวเต็มที่ ในบางรายที่คลำแล้วยังเจอฟิลเลอร์ใต้ชั้นผิวแต่มองไม่เห็นจากภายนอก เกิดขึ้นจากการฉีดสารเติมเต็มที่ม๊โมเลกุลค่อนข้างใหญ่ในชั้นผิวลึกหรือชั้นกระดูกเพื่อช่วยพยุงผิวยกใบหน้าให้ดูกระชับไม่หย่อนคล้อย 

วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ครบ 1 เดือน

  • งดทำทรีทเมนท์ นวดหน้า เลเซอร์ผิว หรือเครื่องยกกระชับ อย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ เพื่อช่วยป้องกันการสลายตัวไปก่อนเวลาและขัดขวางการทำงานของ HA Filler
  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อวันเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากคุณสมบัติที่อุ้มน้ำได้ดี เมื่อได้รับน้ำอย่างเพียงพอจะเซ็ตตัวได้ไวและอิ่มฟูได้ทรงมากขึ้น ผลลัพธ์จึงออกมาสวยเป็นธรรมชาติ คงอยู่ได้นานขึ้น 

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ในช่วงกลางคืน

  • หลังทำในคืนแรกอาจรู้สึกปวดระบมในบริเวณที่ฉีดได้ เนื่องจากยาชาหมดฤทธิ์ไปแล้ว สามารถกินยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาได้
  • แนะนำให้นอนในห้องแอร์หรือในพื้นที่ที่มีอาการเย็น โดยหนุนหมอนให้ศีรษะยกสูง งดการนอนตะแคง นอนราบ หรือนอนคว่ำหน้า โดยสามารถใช้หมอนหรือหมอนข้างวางไว้ซ้ายและขวาเพื่อช่วยบล็อกไม่ให้ศีรษะขยับ ป้องกันฟิลเลอร์ถูกกดทับจนเสียรูปทรงหรือเคลื่อนไปตำแหน่งอื่นที่ไม่ต้องการ

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาบริเวณใต้ตา ไม่ว่าจะเป็น แก้ปัญหาความหมองคล้ำ ลดถุงใต้ตา แก้ปัญหาหน้าโทรม จัดการริ้วรอยใต้ตา ช่วยให้หน้ากลับมาสดใส ไม่ดูเหนื่อยล้าอิดโรย หน้าดูเด็กลง โดยมีข้อปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่ต้องการตามมาหลังฉีด ดังนี้

  • หากเกิดอาการปวดระบมหลังทำสามารถกินยาแก้ปวดช่วยบรรเทาได้
  • ไม่ควรแคะ แกะ เกา รอยเข็ม เพื่อป้องกันการเกิดรอยแผลและการติดเชื้อ
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 3 – 5 วันแรก สามารถแต่งหน้าได้ แต่แนะนำว่าควรเว้นช่วงที่เป็นรอยเข็มเอาไว้หรือแปะพลาสเตอร์เพื่อป้องกันได้ นอกจากนั้นไม่ควรลงน้ำหนักมือบริเวณที่ฉีดมาเพื่อไม่ให้เกิดการเคลื่อนที่หรือผิดรูปทรง
  • ควรนอนหงายและหนุนหมอนให้ศีรษะสูง งดนอนตะแคง นอนคว่ำ หรือนอนราบ
  • งดนวด กด สัมผัสแรง ๆ ในบริเวณที่ฉีด หรือขยี้ตานอกจากจะมีผลกับฟิลเลอร์แล้ว อาจจะทำให้เกิดภาวะอักเสบติดเชื้อได้ขึ้นได้
  • ทานยาตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นอีกบริเวณที่มักจะเกิดปัญหาร่องลึกจนทำให้แก้มดูห้อย หน้าดูแก่กว่าวัย หากแก้ไขได้ใบหน้าจะดูเรียบตึง กระชับ แลดูอ่อนเยาว์ โดยวิธีปฏิบัติตัวหลังทำมีความคล้ายคลึงกับการฉีดฟิลเลอร์แบบทั่วไป มีข้อแนะนำเพิ่มเติมดังนี้

  • ไม่ควรกด บีบ บริเวณร่องแก้มที่ฉีดมา
  • ในช่วง 3 วันแรก ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะเกินไปเพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตำแหน่งได้
  • งดการนวดหน้า ทรีทเมนท์ หรือเลเซอร์ผิวหน้า เพื่อป้องกันผลกระทบต่อฟิลเลอร์ที่เพิ่งฉีดไป ในช่วง 1 เดือนแรกหลังทำ

ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

รูปปากที่อวบอิ่มได้ทรงสวย ชุ่มชื้นไม่แห้งลอกด้วยการ ฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยไม่ต้องผ่าตัด ฟิลเลอร์คือคำตอบที่ง่าย เห็นผลทันทีหลังทำ จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีไม่เกิดปัญหาตามมาการดูแลตัวเองหลังทำจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

  • ควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อวัน เพื่อให้ฟิลเลอร์ได้ดูดซึมน้ำให้เนื้ออิ่มฟูเต็มขึ้น เซ็ตตัวได้ไว ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
  • 12 ชั่วโมงแรกหลังทำ ควรหลีกเลี่ยงของร้อนเพื่อป้องกันอาการบวม 
  • 12 ชั่วโมงแรกหลังทำ ควรงดการใช้หลอดดูดน้ำหรือสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันฟิลเลอร์ผิดรูปทรงจากแรงกดเวลาที่ริมฝีปากต้องสัมผัสกับหลอดและบุหรี่
  • 12 ชั่วโมงแรกหลังทำ งดทาลิปสติกเพื่อป้องกันแรงกดระหว่างทาและให้รอยเข็มปิดสนิทก่อน
  • งดบีบ กด หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณริมฝีปาก
  • งดอาหารที่มีรสเผ็ดจัดเพื่อลดอาการอักเสบให้น้อยลง

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

ฟิลเลอร์ขมับ สามารถช่วยเติมเต็มรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น ใบหน้าดูละมุนสวย ช่วยลดโหนกแก้มให้เด่นน้อยลง ช่วยให้ดูเด็กลง หลังฉีดควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำดังนี้ 

  • หลังฉีดอาจรู้สึกปวดหัวได้เล็กน้อยเพราะบริเวณนั้นเป็นจุดศูนย์รวมเส้นประสาท จึงทำให้ไวต่อความรู้สึกหากมีอะไรที่กดทับบริเวณนี้ ซึ่งอาการนี้จะหายไปได้เองภายใน 1 – 3 วัน หากทนไม่ไหวสามารถทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาได้
  • ควรนอนหงายหนุนศีรษะสูง ไม่นอนตะแคง หรือนอนในท่าที่ขมับจะถูกกดทับ
  • งดการนวด สัมผัส หรือกดทับบริเวณขมับ ป้องกันฟิลเลอร์เสียรูปทรง

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นอีกหนึ่งในสัดส่วนทองคำที่ช่วยให้ใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น สามารถช่วยเพิ่มมิติ ปรับรูปหน้าละมุนสวย หน้าผากนูนรับกับใบหน้ามากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีหลังฉีดควรปฏิบัติตัวดังนี้

  • หลังฉีดหน้าผากแล้วอาจเกิดอาการปวดหัวได้บ้าง สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาได้ 
  • งดการทำทรีทเมนต์ นวดหน้า หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  • งดนอนราบ นอนตะแคง หรือนอนคว่ำ หลังทำในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังทำ เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่
  • ไม่ควรใส่หมวก หรือใส่สายรัดใด ๆ ที่จะทำให้เกิดการกดทับบริเวณหน้าผาก
  • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น เข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรือโดนแดดจัด เป็นต้น ป้องกันฟิลเลอร์สลายตัว
  • งดการขัด ถู หรือบีบสิว บริเวณหน้าผาก เพราะอาจส่งผลกระทบกับตัวฟิลเลอร์ให้เสียทรงได้

หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ควรดูแลตัวเองอย่างไร?

ฟิลเลอร์คาง วิธีช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย หน้ายาวได้สัดส่วน แก้ปัญหาคางตัด หน้าสั้น คางบุ๋ม หรือคางไม่เท่ากัน ให้เต็มขึ้นได้ทรงตามต้องการ โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด หลังฉีดคางมีวิธีดูแลตัวเองที่คล้ายคลึงกับการฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งอื่น ๆ โดยมีข้อแนะนำพิเศษเพิ่มเติม ดังนี้

  • ในช่วง 3 – 4 สัปดาห์แรกหลังทำ ควรงดการนวด ทำทรีทเมนต์ เพื่อป้องกันคางเสียรูปทรง
  • พยายามหลีกเลี่ยงการเท้าคาง เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปผิดรูปทรงได้
  • หลีกเลี่ยงการบีบรัดบริเวณคาง เช่น การใส่หมวกกันน็อคที่รัดแน่น ๆ เป็นต้น
  • ไม่ควรนอนคว่ำ เพราะจะทำให้คางโดนกดทับจนเสียรูปทรงได้

ฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล กี่วันหายบวม?

หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแลปงที่ดีขึ้นได้ทันทีหลังทำ (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) ซึ่งอาจจะมีอาการบวมได้ประมาณ 4 – 5 วันและจะหายไปได้เอง โดยผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเห็นผลเต็มที่ประมาณ 1 เดือน 

ฉีดฟิลเลอร์แล้วล้างหน้าด้วยน้ำอุ้นได้ไหม?

หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถล้างน้ำอุ่นได้ แต่ไม่แนะนำให้ล้างน้ำร้อน เพราะอาจส่งผลกระทบกับตัวฟิลเลอร์ได้ เปลี่ยนเป็นการล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิห้องจะดีกว่าเพราะดีต่อผิว ไม่ทำให้หน้าแห้งขาดน้ำอีกด้วย

after-filler

ฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไร?

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงตามมา อาหารหรือเครื่องดื่มที่บริโภคเข้าร่างกายสามารถส่งผลกระทบกับการฉีดฟิลเลอร์ได้เช่นกัน เพราะจะเพิ่มโอกาสทำให้เกิดอาการบวมช้ำ อักเสบ ได้มากขึ้น โดยหลังฉีดประมาณ 14 วัน มีข้อควรระวังดังนี้

  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงมื้ออาหารที่ต้องปะทะกับความร้อนนาน ๆ อย่างอาหารที่ต้องอยู่หน้าเตาปิ้งย่างหรือหม้อต้มที่เดือดอยู่ตลอดเวลา
  • งดอาหารรสเผ็ดจัด เพราะจะทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้น หรืออาหารที่มีรสเค็ม เพื่อป้องกันหลอดเลือดขยายตัว
  • งดอาหารรสหวานเพราะสามารถกระตุ้นอาการอักเสบให้เพิ่มขึ้นได้
  • งดสูบบุหรี่เพราะจะทำให้หลอดเลือดขยายตัว อาการบวมช้ำจะยุบตัวได้ช้า อาจจะเข้าไปขัดขวางการทำงานของฟิลเลอร์ให้สั้นลง

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานไหม?

ฟิลเลอร์สามารถคงอยู่ได้นานตั้งแต่ 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นคุณสมบัติที่เลือกใช้ เพราะในแต่ละตำแหน่ง สภาพผิว ปัญหา และความต้องการของแต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้เลือกใช้ให้เหมาะสม รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังทำของคนไข้

ฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกกับครั้งถัดไปต้องใช้ยี่ห้อเดียวกันไหม?

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละครั้งสามารถใช้ยี่ห้อที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้วินิจฉัยและออกแบบการรักษาให้เหมาะกับชั้นผิวที่และตำแหน่งที่ต้องฉีด รวมไปถึงปัญหาที่ต้องแก้ไข ซึ่งแตกต่างกันออกไปในแต่ละรายบุคคล 

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ ในแต่ละส่วนของใบหน้ามีหลายข้อที่คล้ายคลึงกัน จะมีเพียงบางข้อที่ต้องดูแลเฉพาะเจาะจงลงไปตามสรีระร่างกาย โดยเป็นขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากสามารถทำได้เองง่าย ๆ เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์หลังทำดีขึ้นไม่เกิดผลเสีย ทั้งยังช่วยคงให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานมากขึ้นไม่สลายไปก่อนเวลาอันควร หากใครที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก ต้องการปรับรูปหน้า หรือดูแลผิวพรรณ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้น แนะนำให้เข้ามาปรึกษาทีมแพทย์มากประสบการณ์ของ Vincent Clinic เพื่อรับคำปรึกษาที่เหมาะกับแต่ละคนมากที่สุด

Scroll to Top