ฟิลเลอร์แก้มส้ม คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง เลือกฉีดยี่ห้อไหนดี?

ฟิลเลอร์แก้มส้ม วิธีการแก้ปัญหาใบหน้าโทรม หน้าแก่ ให้กลับมาแลดูอ่อนเยาว์ได้อย่างเห็นผล ตอบโจทย์ปัญหาใบหน้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาหน้าแบน ผิวหย่อนคล้อย หน้าไม่มีมิติ เป็นต้น โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาในการรักษาน้อย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันที่ต้องเร่งรีบไม่มีเวลาดูแลตัวเองมากเพียงพอ โดยในบทความนี้ได้รวบรวมเอารายละเอียดเกี่ยวกับฉีดแก้มส้มว่าเป็นอย่างไร ช่วยเรื่องออะไรได้บ้าง หัตถการนี้เหมาะกับใคร อันตรายไหม สามารถติดตามอ่านรายละเอียดเพื่อประกอบการตัดสินใจได้เลย

อยากอ่านอะไร จิ้มที่หัวข้อได้เลย!
ฟิลเลอร์แก้มส้มช่วยอะไรบ้าง

ฟิลเลอร์แก้มส้ม คืออะไร?

ฟิลเลอร์แก้มส้ม คือ หัตถการดูแลใบหน้าด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเติมส่วนที่ขาดหายไปให้กลับมาอิ่มฟู โดยฉีดเข้าไปที่บริเวณช่วงหน้าแก้มที่อยู่ระหว่างใต้ตากับแก้มและโหนกแก้มกับจมูก ช่วยเติมเต็มเนื้อแก้มที่ยุบตัว สามารถเติมในชั้นกระดูกและชั้นไขมันที่มีการทรุดตัวทำให้หน้าดูแบน หย่อนคล้อย ดูแก่กว่าวัย ให้กลับมาเต็มขึ้น ผิวมีวอลลุ่ม ใบหน้ามีมิติ ช่วยให้ใบหน้าดูเด็กลง ทั้งยังช่วยยกกระชับบริเวณหน้าแก้มให้ยกขึ้นได้อีกด้วย
แก้มส้ม คือบริเวณหน้าแก้มที่มีความโค้งนูนขึ้นคล้ายกับลูกส้มเวลาที่ยิ้ม ช่วยให้ใบหน้าได้สัดส่วนมีมิติ หน้าไม่แบน ผิวดูอิ่มฟูเต็มขึ้น ผิวเต่งตึง ดูเด็กลง หากบริเวณหน้าแก้มเนื้อยุบหายไป ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ส่งผลให้ใต้ตาดูลึกโบ๋ เห็นร่องน้ำตาชัดขึ้น ผิวเหี่ยว หน้าจะดูแก่กว่าวัย

พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงาม

ฟิลเลอร์แก้มส้ม ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม สามารถช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูดีขึ้นได้อย่างเห็นได้ชัดเจน โดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) โดยสามารถช่วยได้หลายเรื่องดังนี้

  • ช่วยแก้ปัญหาหน้าแบน หน้าไม่มีมิติ ใบหน้ามีวอลลุ่มดูมีมิติ ผิวอิ่มฟูเต็มขึ้น
  • ช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูสดใส หน้าดูเด็กลง
  • ช่วยให้ใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น แก้ปัญหาโหนกแก้มสูงให้ดูลดลง หากทำร่วมกับฟิลเลอร์แก้มตอบ
  • ช่วยพยึงผิวที่หย่อนคล้อยให้ยกกระชับขึ้น
  • ช่วยให้บริเวณใต้ตาที่ลึกโบ๋ดูดีขึ้นได้หาก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ร่วมด้วย

ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฉีดจุดไหนได้บ้าง

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม สามารถฉีดได้ 8 จุดหลักเพื่อช่วยยกกระชับใบหน้าและเติมเต็มบริเวณหน้าแก้มให้ดูมีมิติซึ่งเป็นเทคนิคของทางทีมแพทย์ใช้ในการปรับรูปหน้าให้ดูสดใสขึ้น เราจะมาดูกันว่ามีจุดไหนบ้างและแต่ละจุดมีผลอย่างไร

  1. จุดใต้ตา (Tear Trough) ช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ทำให้หน้าดูสดใส ลดความหมองคล้ำและอาการตาลึก
  2. จุดหน้าแก้ม (Medial Cheek) จุดนี้จะเติมเต็มช่วงกลางของหน้าแก้ม ช่วยให้แก้มดูยกขึ้นและมีความละมุนมากขึ้น
  3. จุดแก้มส้มด้านบน (Superior Cheek) จะฉีดบริเวณเหนือโหนกแก้มเพื่อให้แก้มดูมีมิติและช่วยพยุงเนื้อแก้ม
  4. จุดร่องแก้ม (Nasolabial Fold) จะช่วยเติมเต็มร่องแก้มลึกให้ดูตื้นขึ้น ลดรอยพับข้างจมูกที่ทำให้ใบหน้าดูแก่
  5. จุดใต้โหนกแก้ม (Submalar Hollow) ในจุดนี้ช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีแก้มตอบมาก
  6. จุดกลางแก้ม (Midface Cheek) ช่วยเติมเต็มแก้มส่วนกลางให้ดูมีน้ำมีนวล ไม่โทรม และดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  7. จุดข้างจมูก (Paranasal Area) ในจุดนี้จะช่วยเสริมเนื้อเยื่อบริเวณข้างจมูก ทำให้ใบหน้าดูสมดุลขึ้น
  8. จุดข้างแก้ม (Lateral Cheek) จะช่วยเติมเต็มในช่วงข้างของหน้าแก้มเพื่อช่วยให้ใบหน้าดูยกกระชับและมีมิติขึ้น

การฉีดแก้มส้มทั้ง 8 จุดจะช่วยยกกระชับใบหน้าให้ดูมีมิติ ไม่หย่อนคล้อย ลดปัญหาแก้มตอบ ให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น อีกทั้งยังเติมเต็มร่องแก้มและใต้ตาให้ดูอิ่มเอิบช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลและอ่อนกว่าวัย ทั้งนี้ควรเข้าปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดเนื่องจากความแตกต่างของโครงหน้าแต่ละคนแพทย์จึงต้องวิเคราะห์เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละคน

ฟิลเลอร์แก้มส้มเหมาะกับใคร

ฟิลเลอร์แก้มส้ม เหมาะกับใครบ้าง?

ฟิลเลอร์แก้มส้ม เป็นหัตถการที่ช่วยให้ใบหน้าดูเด็กลงได้ ช่วยเติมเต็มผิวบริเวณหน้าแก้มให้อิ่มฟูเต็มขึ้น ยกกระชับช่วงหน้าแก้มจากความหย่อนคล้อย ผิวเต่งตึงมากขึ้น จึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาต่อไปนี้
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาหน้าแบนดูไม่มีมิติ อยากให้ใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น
  • เหมาะกับคนที่หน้าแก้มยุบ ไม่มีวอลลุ่ม อยากเติมแก้มส้มโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ ใบหน้าดูแก่กว่าวัย
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาร่องน้ำตา ร่องแก้ม เบ้าตาลึก

ฟิลเลอร์แก้มส้ม มีข้อดีและข้อควรรู้อะไรบ้าง?

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ถึงแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีข้อควรรู้ที่ต้องทราบไว้ก่อนตัดสินใจทำ เพื่อช่วยให้เข้าใจตรงกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

ข้อดีของการฉีดแก้มส้ม

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ถึงแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีข้อควรรู้ที่ต้องทราบไว้ก่อนตัดสินใจทำ เพื่อช่วยให้เข้าใจตรงกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ช่วยให้ใบหน้ามีมิติ ดูเด็กลง โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • ช่วยเติมเต็มผิวอิ่มฟู หน้าไม่แบน แก้ปัญหาหน้าโทรม ช่วยให้ผิวมีวอลลุ่มมากขึ้น
  • ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยบริเวณแก้มให้กลับยกกระชับ เต่งตึง หน้าแก้มเต็มขึ้น
  • ช่วยชะลอการเกิดปัญหาร่องน้ำตา ริ้วรอย ร่องแก้ม 
  • ช่วยแก้ปัญหาโหนกแก้มสูงให้ลดลง หากต้องการให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้นควรฉีดคู่กับฟิลเลอร์แก้มตอบ
  • ช่วยลดปัญหาบริเวณใต้ตา เช่น เบ้าตาลึกโบ๋ เป็นต้น หากต้องการให้เห็นผลเต็มที่ควรทำคู่กับฟิลเลอร์ใต้ตา

ข้อควรรู้ของการฉีดแก้มส้ม

  • ผลลัพธ์ไม่คงอยู่ถาวร เพราะฟิลเลอร์สามารถสลายไปได้เอง ไม่มีสารตกค้าง หากต้องการให้ผลลัพธ์คงอยู่นานขึ้นสามารถฉีดเพิ่มได้ตามคำแนะนำของแพทย์

ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์หน้าแก้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ แตกต่างกันอย่างไร?

  • ฟิลเลอร์แก้มส้ม เป็นหัตถการที่ฉีดสารเติมเต็มในบริเวณเล็ก ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ระหว่างใต้ตากับหน้าแก้มและบริเวณโหนกแก้มกับจมูก เพื่อให้แก้มมีลักษณะที่โค้งมน บริเวณแก้มดูอิ่มฟู มีวอลลุ่ม ช่วยให้ใบหน้ามีมิติ ดูเด็กลง
  • ฟิลเลอร์หน้าแก้ม เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปที่บริเวณพวงแก้มซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณกว้าง แก้ปัญหาแก้มที่ยุบตัว ยกกระชับหน้าแก้มแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย โดยมักจะเป็นการทำควบคู่ไปกับการฉีดแก้มส้ม หรือฉีดร่องแก้ม หากทำไปพร้อมกันจะช่วยได้ให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดียิ่งขึ้น ใบหน้าได้สัดส่วน แลดูอ่อนเยาว์
  • ฟิลเลอร์แก้มตอบ คือการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณแก้มใต้โหนกแก้ม เพื่อช่วยแก้ปัญหาแก้มตอบ หน้าซูบ โหนกแก้มสูงให้ดูลดลง ช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มฟูเต็มขึ้น ใบหน้าสมส่วน ใบหน้าดูเด็กลง ไม่โทรม

ฟิลเลอร์แก้มส้ม หลังทำควรดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง?

  • ไม่ควรกด นวด หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มา เพื่อป้องกันฟิลเลอร์ที่ยังไม่เซ็ตตัวเสียรูปทรง เคลื่อนตำแหน่งไปในจุดที่ไม่ต้องการ รวมถึงแกะหรือเกาบริเวณรอยเข็มเพื่อป้องกันการอักเสบติดเชื้อหรือแผลสมานช้า
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ ในช่วง 3 – 5 วันแรกหลังทำ
  • งดออกกำลังกายหนัก ๆ งดกินวิตามินหรืออาหารเสริมที่มีผลกับการไหลเวียนของเลือด อาจทำให้มีอาการบวมช้ำที่มากและคงระยะอยู่นานกว่าปกติ
  • อาจเกิดอาการบวมช้ำขึ้นได้บ้างเล็กน้อย แต่จะหายไปได้เองในไม่กี่วัน
  • หลีกเลี่ยงความร้อนสูง เช่น เข้าซาวน่า อบไอน้ำ หัตถการเลเซอร์ เป็นต้น ในช่วง 2 สัปดาห์หลังทำ เพื่อป้องกันการสลายตัวของฟิลเลอร์ที่เร็วกว่าปกติ
  • ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อวัน เพื่อให้ฟิลเลอร์ดูดซับน้ำได้เต็มที่ เซ็ตตัวได้ดี ผลลัพธ์ออกมาอิ่มฟูสวย เป็นธรรมชาติ
หลังฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฉีดกี่ CC เลือกยี่ห้อไหนดี?

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม หัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาใบหน้าแบน ไม่มีมิติ ดูโทรม หน้าแก่กว่าวัย ให้กลับมาสดใสแลดูอ่อนเยาว์ โดยปริมาณเฉลี่ยทั่วไปจะฉีดอยู่ที่ 1 – 2 CC ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้วินิจฉัยและออกแบบการรักษาให้เหมาะกับแต่ละรายบุคคลที่มีความแตกต่างกันออกไป โดยมียี่ห้อฟิลเลอร์ที่นิยมฉีดแก้มส้ม ดังนี้
  • Restylane Lyft เนื้อเจลมีความแข็ง ไม่ค่อยฟู คงรูปได้ดี สามารถกลืนเข้ากับผิวได้ดี ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน 
  • Restylane Defyne เนื้อเจลมีความแข็งปานกลาง กลืนเข้ากับผิวได้ดี เป็นธรรมชาติ ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึง
  • Restylane Volyme เนื้อฟิลเลอร์มีความแข็งปานกลาง เนื้ออิ่มฟู กลืนไปกับผิวเนียนสวย เติมแก้มส้มให้ดูอวบอิ่มมากขึ้น
  • Juvederm Voluma รุ่นนี้มีความฟูของเนื้อเจลระดับปานกลาง มีความหนาแน่นสูง ค่อนข้างแข็ง แต่ยืดหยุ่นสูง กลืนเข้ากับผิวได้ดี ปั้นทรงง่าย ไม้เกิดอาการไหลย้อย ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
  • Neuramis Deep Lidocane ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความอิ่มฟู ขึ้นทรงง่าย ช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้า
Neuramis Volume Lidocane รุ่นนี้เนื้อแน่น มีความยืดหยุ่น ยึดเกาะดีไม่ไหล ดูเป็นธรรมชาติเพราะกลืนเข้ากับผิวได้ดี ช่วยกกระชับผิวบริเวณที่ฉีดได้

ฟิลเลอร์แก้มส้ม กับ ฉีดไขมัน แบบไหนดีกว่ากัน?

ฟิลเลอร์แก้มส้ม กับ การฉีดไขมัน ทั้งคู่เป็นวิธีการเติมเต็มผิวให้อิ่มฟูเต่งตึง สามารถช่วยปรับใบหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น โดยมีความแตกต่างกัน ดังนี้

  • ฟิลเลอร์แก้มส้ม คือการใช้ Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่ปลอดภัย นิยมใช้กันแพร่หลาย ฉีดเข้าไปเพื่อเติมเต็มชั้นผิวที่ยุบหรือชั้นกระดูกที่ทรุดตัว สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ทันทีหลังทำ (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
  • ฉีดไขมัน เป็นการดูดเอาไขมันตามร่างกายมาผ่านกระบวนการทางการแพทย์เพื่อคัดเอาไขมันที่มีคุณภาพฉีดกลับไปเข้าไปตามตำแหน่งที่ต้องการเติมเต็ม อาจจะต้องทำหลายครั้ง เพราะไขมันที่ฉีดไปหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์จะไม่ติดทั้งหมดมีโอกาสที่จะสลายไปไม่เท่ากันในแต่ละรายบุคคล แพทย์อาจจะต้องฉีดในปริมาณที่มากเผื่อเอาไว้ก่อน ส่งผลให้ใบหน้าอาจไม่เท่ากัน เกิดอาการบวม เสี่ยงต่อการติดเชื้อ มีอาการเจ็บบริเวณที่ดูดไขมัน เป็นวิธีที่ไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันน้อยมาก ๆ จึงทำให้ได้รับความนิยมลดลง
ฟิลเลอร์แก้มส้มกับฉีดไขมันแบบไหนดีกว่ากัน

ฟิลเลอร์แก้มส้ม ราคาเท่าไหร่?

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ในแต่ละคนมีปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกันออกไปราคาจึงไม่เท่ากัน เพราะปริมาณการฉีด ตำแหน่งที่ฉีด และยี่ห้อที่เลือกใช้ไม่เหมือนกันในแต่ละรายบุคคล แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับแพทย์โดยตรงเพื่อให้ได้รับรายละเอียดที่ถูกต้องครบถ้วน 

ฟิลเลอร์แก้มส้ม ผลลัพธ์อยู่ได้นานกี่เดือน?

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม สามารถคงผลลัพธ์เอาไว้ได้นานตั้งแต่ 12 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นคุณสมบัติที่เลือกใช้ ซึ่งมีความแตกต่างกันออกไป โดยแพทย์จะช่วยประเมินและเลือกโมเลกุลของฟิลเลอร์ให้เหมาะกับแต่ละรายบุคคลมากที่สุด

สรุป

ฟิลเลอร์แก้มส้ม หัตถการฟื้นฟูใบหน้าอย่างเร่งด่วน เพื่อหน้าละมุนสวย ไม่โทรม ดูเด็กลง ผิวเต่งตึง อิ่มฟู ช่วยให้ใบหน้ามีมิติได้สัดส่วนมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหลังทำทันที (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) สำหรับใครที่อยากฉีดฟิลเลอร์แต่ยังไม่กล้าหรือมีข้อกังวลต่าง ๆ สามารถเข้ามาขอคำปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic กับทีมแพทย์มากประสบการณ์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ให้บริการด้วยผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แท้ จึงมั่นใจได้ว่าทุกครั้งที่เข้ามารับบริการจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยกลับไปเสมอ

พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงาม
Scroll to Top