บทความ
AestheFill คืออะไร ช่วยเรื่องอะไร ฉีดกี่ครั้งเห็นผล ราคาเท่าไหร่?
แชร์ :

AestheFill คืออะไร ช่วยเรื่องอะไร ฉีดกี่ครั้งเห็นผล ราคาเท่าไหร่?

aesthefill คืออะไร
อยากอ่านอะไร จิ้มที่หัวข้อได้เลย!

Key Takeaways

  • AestheFill คือสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มีส่วนผสมหลักเป็น PDLLA (Poly D-L-Lactic Acid) หรือที่หลายคนเรียกว่า ไหมน้ำ เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลี 
  • AestheFill ผ่านการรับรองมาตรฐานและคุณภาพจากทั้ง US FDA, CE Mark, KFDA, NMPA และ TH FDA
  • ผลลัพธ์หลังฉีด AestheFill จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้เพิ่มขึ้น ทำให้ผิวยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก ทำให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู และกระจ่างใสขึ้น
  • AestheFill เป็นหัตถการงานผิวสวยที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นความเปลี่ยนแปลงในช่วง 1 – 2 สัปดาห์หลังทำ และสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 1–2 ปี หากฉีดครบตามที่แพทย์แนะนำ
  • AestheFill สามารถนำมาฉีดได้หลายตำแหน่งในร่างกาย เช่น หน้าผาก, ขมับ, ใต้ตา, ร่องแก้ม, กรอบหน้า และส่วนอื่นของร่างกาย เช่น คอ แขน ขา ก้น เป็นต้น

AestheFill อีกหนึ่งทางเลือกของคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ใบหน้าแลดูแก่กว่าวัย จากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวจนทำให้โครงสร้างผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงไป ด้วยหลากหลายสาเหตุประกอบกัน เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น มลภาวะ การดูแลตัวเอง สำหรับคนที่ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับหัตถการนี้ว่าคืออะไร ช่วยเรื่องอะไร อันตรายไหม ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้างที่ควรรู้ไว้ ต่างจากสารกระตุ้นคอลลาเจนชนิดอื่นอย่างไร ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากข้อมูลที่ Vincent Clinic Aesthetic ได้รวบรวมมาไว้ให้ในเนื้อหาต่อไปนี้ได้เลย

AestheFill คืออะไร?

AestheFill คือ หนึ่งในสารกระตุ้นคอลลาเจนจากประเทศเกาหลี จัดจำหน่ายในประเทศไทยโดย บริษัท เอสเทค ฟาร์มา จำกัด ซึ่งหลายคนมักเรียกว่า ไหมน้ำ เพราะมีส่วนผสมของ PDLLA (Poly D-L-Lactic Acid) ที่สามารถช่วยยกกระชับ กระตุ้นกระบวนการสร้างเส้นใยคอลลาเจนให้เพิ่มมากขึ้นได้ ลดโอกาสเกิดอาการอักเสบ และอาการแพ้หลังฉีดให้น้อยลงหรือเกิดขึ้นได้ยาก โดยมีโครงสร้างเป็นทรงกลมที่มีรูพรุนอยู่ภายในลักษณะคล้ายกับฟองน้ำ โดยผลิตภัณฑ์จะมาในรูปแบบขวดซึ่งต้องนำมาผสมกับน้ำกลั่นปลอดเชื้อ (Sterile water) แล้วจึงใช้เข็มปลายทู่ฉีดตัวยาเข้าสู่ใต้ชั้นผิว ผ่านการรับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจากทั้ง US FDA, CE Mark, KFDA, NMPA และ TH FDA (อย.ไทย) 

aesthefill ช่วยอะไร

AestheFill ดีไหม ช่วยอะไร?

สำหรับการฉีด AestheFill เป็นหัตถการที่สามารถช่วยฟื้นฟูโครงสร้างและดูแลผิวจากภายในได้อย่างล้ำลึก จึงส่งผลลัพธ์ที่ดีกับใบหน้าและผิวพรรณได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

  • ช่วย กระตุ้นคอลลาเจน ใต้ชั้นผิวให้เพิ่มขึ้น ผิวจึงมีความยืดหยุ่น เต่งตึง สุขภาพดีแข็งแรงมากขึ้น
  • ช่วย ยกกระชับผิว แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ปรับรูปหน้าเรียวสวยได้สัดส่วนมากขึ้น 
  • ช่วยลดเลือน ริ้วรอย ให้จางลง เติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียน แลดูอ่อนเยาว์
  • ช่วยให้ ผิวกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ หน้าสดใส ไม่โทรม มีชีวิตชีวามากขึ้น
  • ช่วยให้ ผิวชุ่มชื้น ผิวเนียนนุ่ม มีความอิ่มฟูมากขึ้น ทำให้ผิวแลดูสุขภาพดี

ข้อดี ข้อเสียของ AestheFill 

AestheFill เป็นหัตถการงานผิวที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งควรนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในการตัดสินใจเลือกทำ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการ และปัญหาของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

ข้อดี AestheFill

  • สามารถแก้ปัญหาและปรับโครงสร้างผิวจากภายในได้อย่างเห็นผล ยกกระชับหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น โดยการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวอย่างต่อเนื่อง
  • ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 1 – 2 ปี หากฉีดครบตามกระบวนการที่แพทย์แนะนำ ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังทำ และสภาพผิวของแต่ละรายบุคคล
  • หลังฉีดไม่มีรอยแผล เพราะไม่ใช่การผ่าตัด จะมีเพียงรอยเข็มเป็นจุดแดงเล็กๆ หลงเหลืออยู่บนผิวและจะค่อยๆ จางหายไปเองประมาณ 1 – 3 วัน ตามระยะเวลาฟื้นตัวของร่างกายแต่ละคน
  • สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งทั้งบนใบหน้า และร่างกายส่วนอื่นๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไป

ข้อเสีย AestheFill

  • ผลลัพธ์ไม่คงอยู่ถาวร ซึ่งอาจจะต้องมีการฉีดอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานยิ่งขึ้น
  • หลังฉีดจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ทันที เพราะตัวยาจะเข้าไปกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ โดยจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีในช่วงประมาณ 1 – 2 สัปดาห์หลังทำ
  • อาจเกิดอาการบวมหรือช้ำได้บ้างเล็กน้อย โดยเฉพาะในคนที่ผิวค่อนข้างบอบบาง ซึ่งจะหายไปได้เองในช่วงเวลาประมาณ 3 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและร่างกายของแต่ละคน

aesthefill ฉีดบริเวณไหน

ฉีด AestheFill บริเวณไหนได้บ้าง?

สำหรับตำแหน่งในการฉีด AestheFill สามารถฉีดได้ในหลายจุดทั้งใบหน้าและตามร่างกาย โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหา วิเคราะห์สภาพผิว ประกอบกับความต้องการของคนไข้เพื่อใช้ในการออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล เพื่อช่วยเติมเต็มผิวอิ่มฟู ชุ่มชื้น กระตุ้นคอลลาเจน ผิวเรียบเนียน กระจ่างใสมากขึ้น โดยมีตำแหน่งที่สามารถฉีดได้ดังนี้

  • ฉีดบริเวณหน้าผาก
  • ฉีดบริเวณขมับ
  • ฉีดบริเวณใต้ตา
  • ฉีดบริเวณหน้าแก้ม
  • ฉีดบริเวณ ร่องแก้ม
  • ฉีดบริเวณ ร่องน้ำหมาก
  • ฉีดบริเวณกรอบหน้า
  • ฉีดบริเวณคอ
  • ฉีดบริเวณแขน
  • ฉีดบริเวณขา
  • ฉีดบริเวณก้น

AestheFill ต่างกับตัวอื่นอย่างไร?

AestheFill มีความแตกต่างจากสารกระตุ้นคอลลาเจนชนิดอื่นที่ได้รับความนิยมในท้องตลาด ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมในแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน โดยมีรายละเอียดของความแตกต่าง ดังนี้

AestheFill vs Juvelook

  • AestheFill เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนประเภท PDLLA (Poly D-L-Lactic Acid) เน้นการฟื้นฟูผิวในระยะยาว ช่วยปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้นจากภายใน ยกกระชับทั่วใบหน้าได้อย่างเห็นผล 
  • Juvelook เป็น Hybrid Biostimulator ที่ประกอบไปด้วย PDLLA (Poly D-L-Lactic Acid) และ Hyaluronic Acid (HA) ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวให้เพิ่มขึ้น ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ให้จาง ผิวฉ่ำวาว นุ่มเด้ง ชุ่มชื้น สามารถฉีดเสริมกับ AestheFill ได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผิวแต่ละคน

AestheFill vs Sculptra 

  • AestheFill เป็นการใช้สาร PDLLA (Poly D-L-Lactic Acid) ที่มีอนุภาคเล็กและเรียบเนียน กระจายตัวสม่ำเสมอ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ค่อนข้างไว ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้เร็วกว่า ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์หลังฉีด
  • Sculptra เป็นการใช้สาร PLLA (Poly-L-lactic acid) ฉีดเข้าใต้ชั้นผิวเพื่อยกกระชับ ปรับผิวเรียบเนียน กระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เพิ่มขึ้น เติมวอลลุ่มให้กับผิว โดยจะใช้ระยะเวลาในการกระตุ้นคอลลาเจนและเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นประมาณ 1 – 2 เดือน แต่ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานเพราะจะมีการกระตุ้นคอลลาเจนต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป เมื่อฉีดครบตามกระบวนการที่แพทย์แนะนำ

AestheFill vs Radiesse

  • AestheFill เป็นการใช้สาร PDLLA (Poly D-L-Lactic Acid) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ฟื้นฟูและปรับโครงสร้างผิวจากภายใน ยกกระชับผิวเรียบเนียน เต่งตึง อิ่มฟู เหมาะกับการฉีดงานผิวสวย
  • Radiesse เป็นการใช้ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ที่สามารถช่วยเติมวอลลุ่มให้ผิวเต็มขึ้นได้หลังฉีด พร้อมทั้งกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว กระชับรูขุมขน ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน หน้าสดใสไม่โทรม ลดเลือนริ้วรอยให้จางลง เหมาะกับการฉีดปรับโครงหน้า

ตารางเปรียบเทียบ AestheFill vs Juvelook vs Sculptra vs Radiesse

หัวข้อ AestheFill Juvelook Sculptra Radiesse
สารประกอบ PDLLA (Poly D-L-Lactic Acid)  PDLLA และ Hyaluronic Acid (HA)  PLLA (Poly-L-lactic acid)  Calcium Hydroxyapatite (CaHA) 
ผลลัพธ์ ผิวแข็งแรง ยกกระชับทั่วใบหน้า ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ กระตุ้นคอลลาเจนได้ไว เน้นงานผิวสวย ช่วยเติมเต็มวอลลุ่ม และกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว ผิวดูฉ่ำ ลดริ้วรอย ผิวนุ่มเด้ง เรียบเนียน ชุ่มชื้น กระจ่างใส กระตุ้นคอลลาเจนแบบค่อยเป็นค่อยไป ยกกระชับ ผิวเต่งตึง เรียบเนียนขึ้น เติมวอลลุ่มผิวอิ่มฟู เพิ่มวอลลุ่ม ให้ชั้นผิวเต่งตึง และเติมเต็มโครงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นคอลลาเจนให้เพิ่มขึ้น
ระยะเห็นผลและการคงอยู่ เห็นผลลัพธ์เริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในช่วง 1 – 2 สัปดาห์หลังทำ หากฉีดครบตามจำนวนครั้งที่แพทย์แนะนำ สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 1 – 2 ปี  เติมความชุ่มชื้น ผิวฉ่ำวาว นุ่มเด้ง เห็นผลลัพธ์ในช่วง 2 – 4 สัปดาห์ คงอยู่ได้ประมาณ 1 – 2 ปี หากฉีดครบตามที่แพทย์แนะนำ ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในช่วงประมาณ 1 – 2 เดือนหลังฉีด และผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน 1 – 2 ปี หากฉีดครบตามจำนวนครั้งที่แพทย์แนะนำ  เติมวอลลุ่มให้ผิวเต็มขึ้นหลังฉีด และจะค่อยๆ เห็นผลจาก คอลลาเจน ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1 – 2 ปี 

**ตารางนี้เป็นเพียงการเปรียบเทียบเบื้องต้นเท่านั้น ผลลัพธ์ขึ้นกับรายบุคคล

ฉีด AestheFill กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน?

หลังฉีด AestheFill สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ และจะดีขึ้นไปเรื่อยๆ จนเห็นผลเต็มที่ในช่วงประมาณ 3 เดือนหลังทำ หากดูแลตัวตามคำแนะนำของแพทย์และฉีดครบตามจำนวนครั้งที่แพทย์วางแผนไว้ให้ จะทำให้ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับรายบุคคล

ต้องฉีด AestheFill กี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

AestheFill ควรฉีดติดต่อกัน 3 ครั้ง โดยแบ่งระยะเวลาการฉีดเป็น 4 – 6 สัปดาห์ต่อหนึ่งครั้ง จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดี ตัวยาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุด แต่จำนวนครั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับประเมินของแพทย์

AestheFill ราคาเท่าไร?

ราคาของ AestheFill จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละคลินิกที่ให้บริการ จำนวนครั้งในการฉีด โปรโมชั่นในแต่ละช่วงเวลา และประสบการณ์ของแพทย์ โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 – 30,000 บาท แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับแพทย์โดยตรงเพื่อให้ได้รับรายละเอียดที่ถูกต้องครบถ้วนและเป็นข้อมูลเฉพาะรายบุคคล

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ AestheFill  (FAQ)

AestheFill อีกหนึ่งตัวช่วยงานผิวสวยและกระตุ้นคอลลาเจนให้เพิ่มขึ้น ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน แต่ยังมีหลายคนที่มีข้อข้องใจในหลายด้านเกี่ยวกับหัตถการนี้ เพื่อช่วยตอบข้อสงสัยต่าง ๆ ในเนื้อหาต่อไปนี้จึงได้รวบรวมเอาส่วนหนึ่งของคำถามที่พบบ่อยมาไว้ให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ดังนี้

Q: ฉีด AestheFill หน้าบวมกี่วัน?
A: หลังฉีด AestheFill อาจเกิดอาการบวมขึ้นได้บ้าง เป็นอาการตอบสนองของร่างกายที่สามารถพบได้เป็นปกติ โดยจะหายไปได้เองในระยะเวลาประมาณ 3 วัน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำและสภาพผิวของแต่ละคนที่แตกต่างกัน

Q: หลังฉีด AestheFill ต้องนวดหน้าไหม?
A: สำหรับ AestheFill มีโมเลกุลขนาดเล็กสามารถกระจายตัวได้ดี หลังฉีดจึงไม่จำเป็นต้องนวด หรือถ้ามีการนวดแพทย์จะเป็นคนรวดให้หลังฉีดค่ะ ซึ่งต่างกับ Sculptra ที่จะต้องนวดวันละ 5 ครั้ง ติดต่อกัน 5 วัน

Q: AestheFill ฉีดครั้งละกี่ขวด?
A: ในการฉีด AestheFill ปกติแล้วจะฉีดเพียง 1 ขวดก็เพียงพอสำหรับการแก้ปัญหาทั่วใบหน้าแล้ว ในกรณีของคนที่มีปัญหาผิวที่ค่อนข้างหนัก ต้องการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน หรือฉีดในตำแหน่งอื่นที่มีบริเวณค่อนข้างกว้าง แพทย์อาจพิจารณาฉีด 2 ขวด ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเฉพาะรายบุคคล

Q: ฉีดแก้ริ้วรอยใต้ตาด้วย AestheFill หรือฟิลเลอร์ใต้ตาดีกว่ากัน?
A: AestheFill สามารถนำมาฉีดเพื่อช่วยลดริ้วรอยขนาดเล็กบริเวณใต้ตาได้ ซึ่งจะเน้นไปในเรื่องของการฟื้นฟูและช่วยปรับโครงสร้างชั้นผิวด้วยการกระตุ้นคอลลาเจนให้เพิ่มขึ้นในระยะยาว ผิวจึงคงความเต่งตึงเรียบเนียนได้นานแม้ตัวยาจะสลายไปหมดแล้ว ส่วน ฟิลเลอร์ใต้ตา จะเป็นการเติมเต็มชั้นผิวที่ยุบลงให้อิ่มฟูทันทีหลังทำ และช่วยพยุงชั้นผิวให้เต่งตึงเรียบเนียนมากขึ้น ริ้วรอยที่เกิดจากการยุบตัวของชั้นผิวจึงตื้นขึ้น หลังจากฟิลเลอร์สลายไปชั้นผิวจะยุบตัวลงและริ้วรอยอาจกลับมาได้อีก

Q: เช็กอย่างไรว่า AestheFill เป็นของแท้?
A: ก่อนฉีด AestheFill จะต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ครบถ้วน โดยจะต้องมีเลขทะเบียนอย.และมีเลข lot ระบุบนกล่องชัดเจน แพทย์ต้องแกะกล่องใหม่และผสมยาต่อหน้าเท่านั้น นอกจากนั้นยังสามารถสแกน QR Code บนกล่อง เพื่อตรวจเช็กกับบริษัทผู้นำเข้าว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของแท้

สรุป

AestheFill เป็นหัตถการกระตุ้นคอลลาเจนจากประเทศเกาหลีที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย และกระตุ้นคอลลาเจน ด้วยสาร PDLLA ที่มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูและปรับโครงสร้างผิวจากภายใน ทำให้ได้ผิวที่เรียบเนียน ยกกระชับ กระจ่างใส เต่งตึง แลดูอ่อนเยาว์ เห็นผลเร็วหลังฉีด สำหรับคนที่อยากได้งานผิวสวย แก้ปัญหาผิวโทรมหมองคล้ำ ลดเลือนริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น แนะนำให้เข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic Aesthetic เพื่อรับการประเมินปัญหาและออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคลจากทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์

Scroll to Top