ดูแลผิวหน้าผู้ชายไม่ใช่เรื่องยุ่งยากหรือซับซ้อนอย่างที่ผู้ชายหลายคนคิด แต่ผู้ชายหลายคนมักจะละเลยการดูแลผิว บำรุงผิว จนเกิดปัญหาผิวขึ้นมาหลายอย่าง ซึ่งถ้าหากเข้าใจหลักการพื้นฐานในการดูแลผิว และเลือกวิธีดูแลที่เหมาะกับตัวเองก็สามารถฟื้นฟูผิวให้ดูดีขึ้นได้ ในบทความนี้ Vincent Clinic Aesthetic จะมาพามารู้จักเกี่ยวกับการดูแลผิวหน้าผู้ชายค่ะ
Key Takeaway
- ผิวหน้าผู้ชายมีโครงสร้างต่างจากผู้หญิง ทั้งความหนา ต่อมไขมันที่ทำงานมากกว่า และพฤติกรรมที่กระทบผิว เช่น การโกนหนวด จึงต้องมีวิธีดูแลที่เหมาะสมและเฉพาะเจาะจง
- การดูแลผิวหน้าผู้ชายเริ่มจากการรู้จักสภาพผิวของตัวเอง เช่น ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม หรือผิวแพ้ง่าย เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือสิว
- ผลิตภัณฑ์พื้นฐานที่ผู้ชายควรมี ได้แก่ โฟมล้างหน้า มอยส์เจอไรเซอร์ ครีมกันแดด และอาจเสริมด้วยโทนเนอร์หรือเซรั่มเฉพาะจุดขึ้นอยู่กับปัญหาผิวที่มี
- ผู้ชายควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว เช่น การสครับแรงเกินไป ล้างหน้าบ่อยเกินไป ไม่ทากันแดด หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว
- หากต้องการฟื้นฟูผิวหน้าให้เห็นผลเร็ว ผู้ชายสามารถทำหัตถการ เช่น ทรีตเมนต์ผิว เลเซอร์ลดรอยสิว เครื่องยกกระชับ ฟิลเลอร์ และโบท็อก ซึ่งช่วยแก้ปัญหาผิวอย่างตรงจุด
- การดูแลผิวหน้าผู้ชายให้ได้ผล ต้องอาศัยความสม่ำเสมอ การเลือกผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม และใส่ใจพฤติกรรมพื้นฐาน เช่น การนอนหลับ พักผ่อน และอาหารที่ดีต่อสุขภาพผิว
- ไม่จำเป็นต้องใช้สกินแคร์หลายขั้นตอน ขอแค่เข้าใจผิวตัวเอง เลือกให้ถูก และดูแลต่อเนื่อง ผิวผู้ชายก็สามารถดูดี แข็งแรง และมั่นใจได้ในทุกวัย
ผิวหน้าผู้ชายต่างจากผู้หญิงอย่างไร?
แม้ผิวของผู้ชายและผู้หญิงจะมีโครงสร้างพื้นฐานคล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างอย่างชัดเจน โดยผิวผู้ชายจะหนากว่าประมาณ 20% และผู้ชายมีฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวผู้ชายผลิตน้ำมันมากกว่าผู้หญิงถึงสองเท่า ผิวจึงมันง่าย และเกิด สิว ได้บ่อย โดยเฉพาะในวัยรุ่นถึงวัยทำงาน แต่เมื่ออายุมากขึ้นกลับมีแนวโน้มผิวแห้ง
นอกจากโครงสร้างผิวแล้วยังมีพฤติกรรมที่ส่งผลต่อผิวผู้ชายคือการโกนหนวด ซึ่งจะสร้างแรงเสียดสี และระคายเคืองต่อผิวอย่างต่อเนื่องทำให้เซลล์ผิวชั้นบนหลุดออก และเผยผิวใหม่ที่ยังไม่แข็งแรง ส่งผลให้ผิวไวต่อการระคายเคือง ขนคุด หรือการอักเสบได้ง่าย
ปัญหาผิวหน้าที่พบบ่อยในผู้ชาย
ผู้ชายเผชิญกับปัญหาผิวหลายอย่าง ซึ่งเกิดจากปัจจัยใน และภายนอก โดยปัญหาผิวหน้าที่พบบ่อยในผู้ชาย มีดังนี้
- ผิวมันและสิวอุดตัน ฮอร์โมนเพศชายกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานหนักกว่าผู้หญิง ส่งผลให้ผิวหน้ามันง่าย เกิดสิวอุดตัน สิวอักเสบ และรอยแผลเป็นจากสิวได้ง่ายขึ้น
- รูขุมขนกว้าง ผิวหน้าที่ผลิตน้ำมันมากทำให้รูขุมขนขยายตัวเห็นได้ชัด หากไม่มีการดูแลหรือกระชับผิวอย่างเหมาะสม จะทำให้ผิวดูหยาบกร้านและไม่เรียบเนียน
- ผิวแห้งและลอกเป็นขุยจากการโกนหนวด การโกนหนวดบ่อยครั้งทำให้เซลล์ผิวชั้นบนหลุดออก เผยผิวใหม่ที่ยังไม่แข็งแรง ส่งผลให้เกิดการระคายเคือง แดง และแห้งลอกตามมา
- ผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองบ่อย เนื่องจากผิวผู้ชายที่ผ่านการโกนหนวดหรือใช้ผลิตภัณฑ์รุนแรงบ่อยๆ มักเกิดการระคายเคืองง่าย โดยเฉพาะบริเวณแก้ม คาง และลำคอ
- ผิวหมองคล้ำจากแสงแดด เพราะพฤติกรรมไม่ทาครีมกันแดด และการอยู่กลางแดดนาน ๆ ทำให้ผิวสะสมรังสี UV จนเกิดเม็ดสีเมลานินมากเกินไป ทำให้ ผิวคล้ำเสีย และดูไม่สดใส
- จุดด่างดำและริ้วรอย เกิดจากแสงแดด ความเครียด การพักผ่อนน้อย รวมถึงพฤติกรรมไม่ดูแลผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็ว เกิดจุดด่างดำและริ้วรอยชัดกว่าที่ควร
ผู้ชายควรดูแลผิวหน้าอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว?
การดูแลผิวหน้าไม่ใช่เรื่องของผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายก็ควรได้รับการดูแลผิวหน้าอย่างเหมาะสม หากละเลยหรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่สอดคล้องกับสภาพผิว อาจทำให้ผิวเสียสมดุล เกิดสิว ระคายเคืองได้ โดยการเริ่มต้นดูแลผิวอย่างถูกวิธีจึงควรเริ่มจากการทำความเข้าใจสภาพผิวของตัวเองเป็นอันดับแรก
รู้จักสภาพผิวของตัวเองก่อนเริ่มดูแล
ผู้ชายควรรู้ก่อนว่าตัวเองมีสภาพผิวแบบไหน โดยทั่วไปผิวจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่
- ผิวมัน เป็นผิวที่มีความมันทั่วใบหน้า และมีความมันมากในบริเวณหน้าผาก จมูก และคาง รูขุมขนกว้าง และมีแนวโน้มเกิดสิวง่าย
- ผิวแห้ง เป็นผิวไม่มีความมันเลย และอาจจะลอกเป็นขุยขาดความชุ่มชื้น มีอาการคันหรือระคายเคืองร่วมด้วย
- ผิวผสม เป็นผิวที่ความมันเฉพาะจุด เช่น บริเวณทีโซน (หน้าผาก จมูก คาง) แต่แห้งหรือปกติในส่วนอื่นๆ ของใบหน้า
- ผิวแพ้ง่าย เป็นผิวไวต่อแสงแดด ฝุ่น หรือสารระคายเคือง มักเกิดอาการแดง คัน หรือแสบผิวเมื่อสัมผัสผลิตภัณฑ์บางประเภท
วิธีเช็กผิวแบบง่ายๆ ที่บ้าน
ผู้ชายบางคนอาจจะไม่รู้ว่าตัวเองมีผิวประเภทไหน สามารถเช็กได้จากหลังล้างหน้าเสร็จ แล้วไม่ทาอะไรเลย จากนั้นรอสังเกตผิวประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง หาก หน้ามัน เยิ้มทั่วทั้งหน้าแสดงว่าเป็นผิวมัน หากผิวแห้งตึง ลอกขุย อาจเป็นผิวแห้ง หากมีความมันเฉพาะจุดแต่ส่วนอื่นแห้ง แสดงว่าเป็นผิวผสม ส่วนผู้ที่มีผิวไวต่อผลิตภัณฑ์หรือมีแนวโน้มเกิดอาการระคายเคืองง่ายมักจัดอยู่ในกลุ่มผิวแพ้ง่าย
เลือกวิธีดูแลผิวตามสภาพผิว
เมื่อรู้จักสภาพผิวของตัวเองแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการเลือกผลิตภัณฑ์และวิธีดูแลที่เหมาะสมกับผิวแต่ละประเภท เพื่อให้ผิวสมดุล แข็งแรง และลดความเสี่ยงต่อปัญหาผิวในระยะยาว
- ผิวมัน ควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าสูตรควบคุมความมันโดยเฉพาะ เพื่อช่วยลดความมันส่วนเกินโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึงจนเกินไป หลังล้างหน้าควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบาที่ปราศจากน้ำมัน และควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอุดตันรูขุมขน เช่น ซิลิโคนหรือไขมันหนัก ๆ เพราะอาจกระตุ้นการเกิดสิว
- ผิวแห้ง ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่รุนแรง เพราะอาจทำให้ผิวยิ่งแห้งมากขึ้น ควรใช้คลีนเซอร์เนื้อครีมหรือเจลล้างหน้าแบบอ่อนโยน และเติมความชุ่มชื้นให้ผิวทันทีหลังล้างหน้าด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นสูง เช่น ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิก แอซิด หรือเซราไมด์
- ผิวผสม ควรดูแลผิวแบบสมดุลโดยใช้โฟมล้างหน้าสูตรควบคุมความมันร่วมกับมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบา อาจใช้โทนเนอร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ช่วยปรับสมดุลผิว และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน เพื่อให้สามารถดูแลได้ทั้งบริเวณที่มันและบริเวณที่แห้งได้พร้อมกัน
- ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารกันเสียที่รุนแรง ควรหลีกเลี่ยง สครับหน้า หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดผลไม้เข้มข้น ซึ่งอาจทำให้ผิวอักเสบ และแนะนำให้ทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บนผิวหลังหูหรือใต้คางก่อนใช้จริง
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าผู้ชายที่ควรมี (Men’s Skincare Routine)
การดูแลผิวหน้าไม่ใช่เรื่องซับซ้อนสำหรับผู้ชาย ขอแค่เลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิว และใช้อย่างสม่ำเสมอ ก็ช่วยให้ผิวดูสะอาด สุขภาพดี และลดปัญหาผิวได้ในระยะยาว โดยผลิตภัณฑ์พื้นฐานที่ควรมี มีดังนี้
- โฟมล้างหน้า ใช้ทำความสะอาดผิวเป็นประจำเช้า และเย็น เลือกสูตรให้ตรงกับผิว เช่น สูตรควบคุมความมันสำหรับผิวมัน หรือสูตรอ่อนโยนหากมีผิวแห้งหรือแพ้ง่าย
- โทนเนอร์ ช่วยปรับสมดุลผิวหลังล้างหน้า ลดความตึงผิว และเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุง ควรเลือกสูตรไม่มีแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
- มอยส์เจอไรเซอร์ เติมความชุ่มชื้นหลังล้างหน้า ช่วยป้องกันการผลิตน้ำมันส่วนเกินและลดการระคายเคือง เลือกเนื้อเบาสำหรับผิวมัน หรือเนื้อเข้มข้นสำหรับผิวแห้ง
- ครีมกันแดด ป้องกันรังสี UV ซึ่งเป็นตัวการของริ้วรอย จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ เลือกกันแดดเนื้อบางเบา ซึมเร็ว ไม่เหนียว ทาทุกเช้าก่อนออกจากบ้าน
- เซรั่มเฉพาะจุด ถ้ามีปัญหาผิวหน้าสามารถใช้เซรั่มเสริมได้ เช่น เซรั่มลดรอยดำ หรือเซรั่มลดริ้วรอย เพื่อแก้ไขปัญหาผิวที่มีรอยสิว จุดด่างดำ หรือริ้วรอย
สิ่งที่ไม่เหมาะกับผิวหน้าผู้ชาย ควรหลีกเลี่ยง
แม้ผิวหน้าผู้ชายจะดูแข็งแรง แต่ก็มีโอกาสเกิดปัญหาได้ง่ายหากดูแลผิดวิธี หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว ต่อไปนี้คือพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง หากอยากให้ผิวหน้าดูดีและแข็งแรงในระยะยาว
- สครับผิวแรงๆ ทุกวัน การสครับผิวหน้า บ่อยเกินไปหรือใช้เม็ดสครับที่หยาบ อาจทำให้ผิวระคายเคือง อักเสบ และแห้งเสีย ควรจำกัดการสครับสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง ด้วยสูตรอ่อนโยน
- ใช้ผลิตภัณฑ์ของผู้หญิงแบบไม่ดูส่วนผสม ผิวผู้ชายมีความมัน และรูขุมขนกว้างกว่าผู้หญิง หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นหรือมันเกินไป อาจทำให้เกิดสิวหรืออุดตัน ควรเลือกสูตรที่เหมาะกับผิวผู้ชายโดยเฉพาะ
- ล้างหน้าบ่อยเกินความจำเป็น การล้างหน้ามากกว่าวันละ 2 ครั้ง อาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นและผลิตน้ำมันมากขึ้น กลายเป็นวงจรหน้ามัน-สิวไม่รู้จบ
- ปล่อยให้ผิวแห้งตึงหลังล้างหน้า ผิวที่แห้งตึงคือสัญญาณว่าขาดความชุ่มชื้น ควรทามอยส์เจอไรเซอร์ทันทีหลังล้างหน้า เพื่อช่วยล็อกน้ำและลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
- ไม่ใช้ครีมกันแดดเพราะคิดว่าไม่จำเป็น รังสี UV มีผลต่อผิวแม้ไม่ได้ออกแดดโดยตรง การไม่ทากันแดดจะเพิ่มความเสี่ยงต่อผิวหมอง จุดด่างดำ และริ้วรอย ควรใช้เป็นประจำทุกวันแม้อยู่ในร่ม
หัตถการที่เหมาะกับผู้ชายที่อยากดูแลผิวหน้า
การดูแลผิวหน้าด้วยสกินแคร์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอสำหรับผู้ชายที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนและรวดเร็ว หัตถการทางผิวหนังจึงเป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดี ช่วยฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกและแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดได้อย่างตรงจุด
ทรีตเมนต์ผิว
การทำทรีตเมนต์ทำความสะอาดผิวลึก เช่น Facial Detox จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินที่ล้างหน้าปกติไม่สามารถขจัดได้ นอกจากนี้ ผลัดเซลล์ผิว ด้วยกรดผลไม้อ่อนๆ หรือเอนไซม์ จะช่วยเร่งการผลัดเซลล์เก่า ทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใส และรับการบำรุงได้ดียิ่งขึ้น เหมาะกับคนที่รู้สึกว่าผิวหมอง รูขุมขนอุดตัน หรือผิวไม่สดใส
เลเซอร์แก้ปัญหาผิว
ผู้ชายที่มีปัญหาผิวจากรอยสิว จุดด่างดำ หรือฝ้าแดด การทำเลเซอร์ เช่น Pico Laser หรือ IPL ถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเห็นผลชัดเจน โดยเลเซอร์จะช่วยลดเม็ดสีใต้ผิว ทำให้รอยแดง รอยดำ และจุดด่างดำค่อยๆ จางลง ผิวหน้ากลับมาดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ การทำเลเซอร์ยังช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เหมาะกับผู้ชายที่ไม่ต้องการแต่งหน้าแต่ยังอยากมีผิวที่ดูดีและเรียบเนียน
เครื่องยกกระชับผิว
เมื่ออายุเพิ่มขึ้นผู้ชายหลายคนเริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด หรือผิวดูเหนื่อยล้า การใช้เครื่องยกกระชับ เช่น Thermage, Ulthera, Hifu จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นลึกของผิว ช่วยให้ใบหน้ากลับมาตึงขึ้น กรอบหน้าคมชัดขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับผู้ชายที่ต้องการยกกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นแต่ไม่อยากเจ็บตัวหรือมีเวลาพักฟื้น
ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ ไม่ได้แค่ช่วยปรับรูปหน้าเท่านั้น แต่ยังสามารถฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้นจากภายใน ช่วยลดผิวแห้งตึง และลดความหยาบกร้านของผิว เติมเต็มริ้วรอยเล็กๆ รวมถึงทำให้รูขุมขนดูเล็กลง เหมาะกับผู้ชายที่รู้สึกว่าผิวโทรม ขาดน้ำ หรือเริ่มเห็นสัญญาณของอายุ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
โบท็อก
โบท็อกเป็นหัตถการที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยบริเวณหน้าผาก หางตา หรือหว่างคิ้วแล้ว ยังสามารถฉีดในบริเวณ T-Zone เพื่อลดความมัน ควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน และช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง ผิวหน้าเรียบตึงขึ้น โบท็อก เหมาะกับผู้ชายที่มีผิวมันง่าย รูขุมขนชัด และต้องการให้ผิวหน้าดูเนียนขึ้น
ดูแลผิวหน้าผู้ชายอย่างไรให้ได้ผลในระยะยาว
การดูแลผิวให้เห็นผลจริง เพื่อให้ได้ผลเห็นชัดควรดูแลผิวหน้าให้ถูกต้อง และต้องมีวินัย โดยการดูแลผิวหน้าให้ได้ผลมีดังนี้
- ดูแลผิวสม่ำเสมอ การใช้สกินแคร์หรือดูแลผิวให้ได้ผล ต้องทำทุกวัน ไม่ใช่แค่ช่วงที่มีปัญหา เพราะผิวต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผลในระยะยาว
- อย่าเปลี่ยนผลิตภัณฑ์บ่อย สกินแคร์หลายชนิดต้องใช้เวลาเห็นผล การเปลี่ยนสูตรบ่อยไม่เพียงไม่ช่วยให้ดีขึ้น แต่ยังเสี่ยงต่อการระคายเคือง และทำให้ผิวเสียสมดุล
- เปลี่ยนวิธีดูแลผิวตามอากาศ ผิวหน้าผู้ชายมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ เช่น หน้าหนาวผิวอาจแห้งกว่าปกติ ควรเพิ่มมอยส์เจอไรเซอร์ ส่วนหน้าร้อนอาจเลือกสูตรควบคุมความมันแทน
- ปรับพฤติกรรม การนอนหลับไม่เพียงพอ ดื่มน้ำน้อย เครียด หรือกินอาหารไม่มีประโยชน์ ล้วนส่งผลต่อสุขภาพผิวโดยตรง แม้ใช้ผลิตภัณฑ์ดีแค่ไหนก็ไม่อาจชดเชยได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลผิวหน้าผู้ชาย (FAQ)
Q: ผู้ชายจำเป็นต้องใช้สกินแคร์หลายขั้นตอนเหมือนผู้หญิงไหม?
A: ไม่จำเป็น เน้นเลือกผลิตภัณฑ์พื้นฐานให้เหมาะกับสภาพผิว และใช้เป็นประจำก็เพียงพอสำหรับดูแลผิวให้แข็งแรง ปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น
Q: ใช้ครีมของผู้หญิงได้ไหม?
A: สามารถใช้ครีมของผู้หญิงได้ หากส่วนผสมเหมาะกับสภาพผิวที่มี และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
Q: ต้องล้างหน้าวันละกี่ครั้ง?
A: ควรล้างหน้า วันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน ก็เพียงพอสำหรับรักษาความสะอาดผิว เพราะการล้างหน้าบ่อยทำให้หน้าแห้งได้
Q: ผิวหน้าผู้ชายที่เป็นสิวควรดูแลต่างจากผิวทั่วไปไหม?
A: ผิวที่เป็นสิวควรดูแลต่างจากผิวทั่วไป โดยเลือกผลิตภัณฑ์อ่อนโยน ลดการอุดตัน และหลีกเลี่ยงการขัดผิวแรงๆ
Q: ไม่ชอบทาครีม รู้สึกเหนียวหน้า ควรทำอย่างไร?
A: ผู้ชายที่ไม่ชอบทาครีมควรเลือกครีมหรือมอยส์เจอไรเซอร์สูตรบางเบา ซึมเร็ว และไม่เหนียวเหนอะ เพื่อให้รู้สึกสบายผิวขึ้น
Q: คลินิกมีทรีตเมนต์สำหรับดูแลผิวหน้าผู้ชายโดยเฉพาะไหม?
A: ในปัจจุบันหลายคลินิกมีทรีตเมนต์สำหรับดูแลผิวหน้าผู้ชายโดยเฉพาะ โดยปรับให้เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาเฉพาะของผู้ชาย และหัตถการส่วนมากสามารถทำได้ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน
Q: ผู้ชายใช้สบู่ก้อนแทนโฟมล้างหน้าได้ไหม?
A: ผู้ชายไม่ควรใช้สบู่ก้อนแทนโฟมล้างหน้า เพราะสบู่ก้อนมีค่าความเป็นด่างสูง อาจทำลายสมดุลผิว ทำให้ผิวหน้าแห้ง ตึง และระคายเคืองได้ ควรใช้โฟมล้างหน้าแทน
Q: ผู้ชายอายุเท่าไหร่ควรเริ่มดูแลผิวหน้าอย่างจริงจัง?
A: สามารถดูแลผิวได้ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นอายุประมาณ 15 ปีขึ้นไป โดยเน้นการล้างหน้าให้สะอาด ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ และครีมกันแดด จากนั้นบำรุงเพิ่มได้มากขึ้นเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไปที่ผิวจะค่อยๆ เริ่มเสียคอลลาเจน
สรุป
การดูแลผิวหน้าผู้ชายจะแตกต่างกับผู้หญิงเล็กน้อยเพราะมีโครงสร้างผิวที่หนา และมักมีความมันมากกว่า โดยการดูแลผิวพื้นฐานอย่างการล้างหน้าให้สะอาด ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ และทาครีมกันแดดทุกวันก็จะช่วยให้ผิวผู้ชายดีขึ้นได้ แต่ถ้าต้องการดูแลผิวในระดับลึกสามารถทำหัตถการ เช่น เลเซอร์ผิว และทรีตเมนต์ผิวได้ หากผู้ชายคนไหนต้องการรักษาปัญหาผิว แต่ไม่รู้ว่าต้องดูแลอย่างไรสามารถเข้ามาปรึกษา Vincent Clinic Aesthetic ที่จะมีแพทย์ที่มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำอย่างละเอียดค่ะ