แก้มตอบเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม ดูไม่สดใส และเหนื่อยล้า ซึ่งหลายๆ คนอาจจะไม่ได้สังเกตว่าหน้าโทรมล่านั้นเกิดจากแก้มตอบ ซึ่งแก้มเกิดได้ในทุกๆ คน จากหลายๆ สาเหตุ ในบทความนี้ Vincent Clinic Aesthetic จะพามาเจาะลึกเกี่ยวกับปัญหาแก้มตอบว่าเกิดจากอะไร มีวิธีแก้ไขอย่างไร จำเป็นต้องแก้ไหม และอีกหลายเรื่องที่คนสงสัยกัน ได้รวมมาไว้ให้แล้วในบทความนี้ค่ะ
Key Takeaways
- แก้มตอบ คือ ภาวะที่บริเวณแก้มช่วงกลางและล่างยุบแฟบ ทำให้ใบหน้าดูโทรม อ่อนล้า และแก่กว่าวัย
- สาเหตุของแก้มตอบมีทั้งโครงสร้างกระดูก พันธุกรรม อายุที่มากขึ้น การลดน้ำหนักเร็ว การจัดฟัน โบท็อกซ์มากเกินไป และรังสียูวี
- แม้จะไม่ผอม แต่บางคนก็มีแก้มตอบได้ เนื่องจากการเผาผลาญเฉพาะจุด หรือโครงหน้าโดยกำเนิด
- แก้มตอบส่งผลต่อภาพลักษณ์ ทำให้ ใบหน้าขาดมิติ ไม่สดใส ถ่ายรูปยาก แต่งหน้าไม่สมดุล
- สามารถแก้ไขแก้มตอบได้หลายวิธี ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ, ฉีดไขมันตัวเอง, ร้อยไหม, และเสริมซิลิโคนแก้ม
- ผู้หญิงกับผู้ชายควรใช้เทคนิคที่ออกแบบต่างกัน เพื่อคงลักษณะใบหน้าแต่ละเพศให้เป็นธรรมชาติ
- หลังแก้แก้มตอบ ควรดูแลตัวเองให้ดี หลีกเลี่ยงการนวดแรง ออกกำลังกายหนัก หรืออุณหภูมิสุดขั้ว
แก้มตอบคืออะไร?
แก้มตอบ คือ การที่บริเวณกลางและล่างของแก้มดูยุบหรือแฟบลงไป ซึ่งทำให้ใบหน้าขาดความอิ่มเอิบและดูขาดชีวิตชีวา แม้ในช่วงเวลาที่พักผ่อนเต็มที่ แก้มตอบมักทำให้ใบหน้าดูโทรมและเหนื่อยล้า เนื่องจากความยุบตัวของชั้นไขมันที่ทำให้โครงกระดูกใต้ผิวหนังเห็นได้ชัดเจน
สาเหตุของแก้มตอบเกิดจากอะไรได้บ้าง?
แก้มตอบสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายนอก และภายในร่างกาย โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดแก้มตอบมีดังนี้
พันธุกรรมและโครงสร้างกระดูก
พันธุกรรมมีบทบาทสำคัญในการกำหนดรูปทรงของใบหน้า บางคนอาจมีโหนกแก้มสูงหรือกระดูกส่วนกลางของใบหน้าที่ยุบตัวลง ซึ่งจะทำให้แก้มดูตอบและทำให้ใบหน้าดูซูบหรือโทรมขึ้น
น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว
การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วทำให้ร่างกายสูญเสียไขมันในหลายๆ จุด รวมถึงบริเวณใบหน้า เมื่อไขมันที่แก้มลดลง ก็จะทำให้แก้มดูตอบลงไปอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ใบหน้าดูโทรมและขาดความสดใส
อายุที่เพิ่มมากขึ้น
เมื่ออายุเพิ่มขึ้นการผลิตคอลลาเจนและไขมันใต้ผิวหนังจะลดลง ทำให้บริเวณแก้มที่เคยเต็มและอิ่มเอิบดูยุบลงและแสดงให้เห็นเป็นแอ่งหรือร่อง และทำให้ใบหน้าดูมีอายุก่อนวัยและขาดความเต่งตึง
การจัดฟันหรือถอนฟัน
การจัดฟันหรือถอนฟันหลายๆ ซี่อาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามและขากรรไกรไม่ค่อยได้ใช้งาน ส่งผลให้กล้ามเนื้อใบหน้าลีบลงและทำให้แก้มดูยุบ จนกลายเป็นแก้มตอบ
การฉีดโบท็อกซ์
การฉีดโบท็อกซ์ในบางพื้นที่ เช่น บริเวณกราม หากฉีดปริมาณมากเกินไป หรือทำโดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญ อาจทำให้กล้ามเนื้อที่ช่วยให้ใบหน้าดูเต็มยุบตัวลงเกินไป ส่งผลให้แก้มดูตอบและใบหน้าดูไม่สดใส
การสัมผัสกับรังสียูวี
การโดนแสงแดดและรังสียูวีเป็นเวลานานอาจทำลายคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยและริ้วรอยเกิดขึ้นเร็วขึ้น ส่งผลให้แก้มดูตอบและขาดความอิ่มเอิบ
ทำไมบางคนแก้มตอบแม้ไม่ผอม?
แม้ว่าหลายคนจะมีรูปร่างปกติหรืออวบเล็กน้อย แต่ก็ยังพบปัญหามีแก้มตอบ ซึ่งเป็นภาวะที่แก้มดูยุบหรือแห้ง แม้จะไม่ผอมก็ตาม สาเหตุของปัญหานี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับน้ำหนักตัวเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลให้เกิดการยุบตัวของแก้ม เช่น โครงสร้างกระดูกและลักษณะใบหน้า การเผาผลาญที่สูงโดยเฉพาะบริเวณใบหน้า หรือการลดน้ำหนักบางคนแม้จะยังไม่ผอมมาก แต่ระหว่างที่ลดน้ำหนัก อาจไปลดไขมันบริเวณหน้าแทนทำให้แก้มตอบค่ะ
แก้มตอบส่งผลอย่างไรต่อใบหน้าและภาพลักษณ์?
แก้มตอบเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจของผู้ที่ประสบกับมัน เนื่องจากการยุบตัวของเนื้อแก้มทำให้ใบหน้าดูซูบแห้ง ขาดความสดใสและไม่อิ่มเอิบ ซึ่งผลลัพธ์นี้สามารถส่งผลต่อใบหน้า และความรู้สึกได้ เช่น
- ใบหน้าดูโทรม อ่อนล้า และแก่เกินวัย แม้ว่าจะไม่ได้รู้สึกเศร้า หรือเหนื่อย แต่เมื่อแก้มดูยุบลง กระดูกโหนกแก้มจะชัดเจนมากขึ้น จะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ดูแก่กว่าวัย
- เสียความมั่นใจเมื่อถ่ายรูปหรือแต่งหน้า เนื่องจากการมีร่องหรือแอ่งที่ชัดเจนบนแก้มทำให้ใบหน้าไม่สมดุล และทำให้การแต่งหน้า หรือการโพสท่าถ่ายภาพยากขึ้น ลดความมั่นใจ
แก้มตอบต่างจากหน้าเรียว หน้าผอมทั่วไปอย่างไร?
ทั้งแก้มตอบและหน้าเรียวสามารถทำให้ใบหน้าดูเล็กลง แต่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน หน้าเรียวจะดูสุขภาพดี โดยยังคงมีกล้ามเนื้อและไขมันที่กระจายตัวอย่างเหมาะสม ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ เส้นกรอบหน้าชัดเจนและดูมีชีวิตชีวา แต่แก้มตอบเกิดจากการสูญเสียไขมัน และคอลลาเจนทำให้แก้มดูยุบลงจนเห็นกระดูกและทำให้ใบหน้าขาดมิติ ใบหน้าจึงดูโทรมและขาดความสดใส
แก้มตอบต้องแก้ไขไหม หรือปล่อยไว้ก็ได้?
มีปัญหาแก้มตอบไม่จำเป็นต้องแก้ไข สามารถปล่อยทิ้งไว้ได้หากไม่ได้รู้สึกว่าเริ่มมีความไม่มั่นใจ หรือรู้สึกกังวลขึ้นมา แต่ถ้ารู้สึกไม่มั่นใจจากการที่ใบหน้าดูเหนื่อยล้า เริ่มกังวลกับปัญหาแก้มตอบ มีคนทักบ่อยๆ ก็สามารถรักษาแก้มตอบได้ หรือการดูแลจากภายใน เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การดื่มน้ำให้เพียงพอ หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนก็เป็นทางเลือกในการฟื้นฟูผิวก็สามารถช่วยให้แก้มตอบน้อยลงได้
วิธีแก้ไขแก้มตอบมีกี่แบบ? อะไรเหมาะกับใครบ้าง?
การแก้ไขปัญหาแก้มตอบมีหลายวิธี ตั้งแต่การวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ไปจนถึงวิธีที่ผ่าตัด ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดี ข้อเสียต่างกัน ดังนี้
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
ฉีดฟิลเลอร์ เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยจะใช้สาร Hyaluronic Acid ฉีดเข้าไปที่แก้มเพื่อเติมเต็มบริเวณแก้มที่ตอบ ช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบและมีมิติขึ้น ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถสังเกตได้ว่าแก้มดูเต็มมากขึ้น ใบหน้าไม่โทรมเหมือนตอนก่อนทำ แต่ผลลัพธ์ไม่ถาวร สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ช่วยเรื่องอะไร เหมาะกับใครบ้าง อันตรายไหม?
ฉีดไขมันแก้มตอบ
การฉีดไขมันจะใช้ไขมันจากร่างกายของตัวเองมาฉีดเติมเต็มบริเวณแก้ม แต่ต้องระวังไขมันอาจสลายไปได้ตามเวลา และไม่สามารถควบคุมได้เต็มที่ โดยในช่วงแรกๆ จะมีอาการบวมจากไขมันที่เติมเข้าไป จะเริ่มเข้าที่เมื่อครบประมาณ 1 – 2 เดือน
ร้อยไหมแก้ไขแก้มตอบ
ร้อยไหม จะใช้ไหมละลายที่ใส่เข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และดึงกระชับผิวในบริเวณแก้ม พยุงเนื้อแก้มให้ขึ้นมาเติมเต็มในบริเวณที่แก้มตอบ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบ แต่ยังมีแก้มช่วงล่างอยู่บ้าง หรือมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยผลลัพธ์หลังร้อยไหมแก้มตอบสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทไหมที่เลือกใช้
ผ่าตัดศัลยกรรมแก้ไขแก้มตอบ
จะทำการผ่าตัดใส่ซิลิโคน หรือกระดูกจากร่างกายเข้าไปในบริเวณแก้ม ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีแก้มตอบลึกมากและต้องการผลลัพธ์ถาวร วิธีนี้ต้องพักฟื้นหลังทำค่อนข้างนาน และมีราคาค่อนข้างสูง และเนื่องจากให้ผลลัพธ์ถาวรควรเลือกแพทย์ที่เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการหลังทำ ไม่มีผลข้างเคียง เนื่องจากการแก้ไขต้องทำการผ่าตัดเท่านั้น
วิธีเลือกเทคนิคที่เหมาะกับคุณ
การเลือกวิธีแก้ไขแก้มตอบให้เหมาะกับตัวเองควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น สาเหตุของปัญหาที่ทำให้แก้มตอบ และยังขึ้นอยู่กับงบประมาณที่มี และผลลัพธ์ที่ต้องการว่าต้องการให้ผลลัพธ์หลังทำอยู่ถาวร หรือชั่วคราวเท่านั้น ถ้าตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะเลือกทำวิธีไหนแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินปัญหา และแนะนำวิธีแก้ไขที่เหมาะสมค่ะ
แก้มตอบในผู้ชายกับผู้หญิงต่างกันอย่างไร?
การแก้ไขแก้มตอบในผู้ชายและผู้หญิงมีความแตกต่างกัน เนื่องจากโครงสร้างใบหน้าของทั้งสองเพศมีลักษณะที่แตกต่างกันตามธรรมชาติ ซึ่งส่งผลต่อเทคนิคการแก้ไขและวิธีการออกแบบใบหน้าให้เหมาะสม
สำหรับผู้ชายโครงหน้ามักมีลักษณะคมชัด กระดูกโหนกแก้มมักจะเด่นและมีขากรรไกรที่ชัดเจน ดังนั้นแก้ไขแก้มตอบผู้ชายจึงเน้นการเพิ่มมิติให้ใบหน้า โดยเฉพาะในบริเวณกรอบหน้าและโหนกแก้ม เช่น การเติมฟิลเลอร์หรือเสริมซิลิโคนเพื่อแก้แก้มตอบ แต่ก็ยังคงความคมชัดของรูปหน้าเอาไว้
ในขณะที่ผู้หญิง โครงหน้ามักมีความอ่อนหวานและกระดูกโหนกแก้มที่ไม่เด่นมากเท่าผู้ชาย การแก้ไขแก้มตอบในผู้หญิงจึงมุ่งเน้นไปที่การเติมเต็มให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบและอ่อนเยาว์ โดยไม่ทำให้ดูแข็งกระด้าง
การดูแลตัวเองหลังแก้ไขแก้มตอบ
หลังจากการแก้ไขแก้มตอบด้วยการทำหัตถการ หรือศัลยกรรม การดูแลตัวเองหลังทำเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น และไม่เกิดผลข้างเคียง ซึ่งมีวิธีดูแลหลังรักษาแก้มตอบดังนี้
- ไม่ควรนวด หรือกดแรงๆ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ หรือไขมันเคลื่อนที่หรือเสียรูปได้ หรือถ้าร้อยไหม ศัลยกรรมมาอาจทำให้ผิวระบม อักเสบได้
- ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ในช่วง 1 – 2 สัปดาห์หลังการทำเพราะอาจทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีจนเกินไปส่งผลให้บวมและช้ำได้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นเกินไป เช่น การอบซาวน่า หรือการแปะคบน้ำแข็งที่เย็นจัด เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์หรือไขมันเปลี่ยนรูปหรือลดประสิทธิภาพได้
- เติมฟิลเลอร์หรือไขมันซ้ำ เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร และการฉีดไขมันสามารถสลายได้ตามการเผาผลาญของร่างกาย จึงควรเติมซ้ำเพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ไว้ สำหรับฟิลเลอร์ควรเติมหลังจาก 6 – 12 เดือนหลังฉีด และไขมันควรเติมในช่วง 1 – 3 เดือนแรก หรือมาให้แพทย์ประเมินก่อนว่าควรเติมเพิ่มหรือไม่
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแก้มตอบ (FAQ)
Q : แก้มตอบคืออะไร? ดูยังไงว่าเราเป็น?
A : แก้มตอบคือการที่บริเวณแก้มยุบลงไปจนเป็นหลุม ทำให้ดูใบหน้าโทรมสังเกตได้จากการที่เวลาถ่ายรูปหน้าตรงจะเห็นว่าช่วงแก้มเว้าเข้ามา
Q : ฟิลเลอร์แก้มตอบอยู่ได้นานไหม?
A : อยู่ได้นานประมาณ 6–12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และการดูแลตัวเองหลังฉีด
Q : ฟิลเลอร์แก้มกับฟิลเลอร์ใต้ตาใช้ตัวเดียวกันไหม?
A : สามารถใช้ได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับเนื้อฟิลเลอร์ว่าเหมาะสมในบริเวณที่ต้องการฉีดหรือไม่
Q : ถ้าแก้มตอบเพราะผอม ต้องทำหัตถการไหม?
A : ขึ้นอยู่กับแต่ละคน หากรู้สึกไม่มั่นใจสามารถทำหัตถการอย่างการฉีดฟิลเลอร์ หรือฉีดไขมันแก้มตอบได้
Q : ระหว่างฟิลเลอร์กับไขมันตัวเอง อะไรดีกว่า?
A : ขึ้นอยู่กับแต่ละคนฟิลเลอร์ไม่ต้องเจ็บตัวจากการดูดไขมัน แต่อาจแพ้ได้ในบางคน ส่วนการฉีดไขมันไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้เนื่องจากเป็นไขมันตัวเอง แต่อาจมีรอยซ้ำ และรู้สึกเจ็บในจุดที่ดูดไขมันออกมาได้
Q : เสริมซิลิโคนแก้มดีกว่าฟิลเลอร์ไหม?
A : ซิลิโคนแก้มจะให้ผลลัพธ์ที่ถาวร เหมาะสำหรับคนที่แก้มตอบลึกมาก ไม่ต้องการทำซ้ำ แต่ถ้ากลัวการผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้น และอยากลองดูก่อนว่าหลังทำจะเป็นอย่างไรการฉีดฟิลเลอร์จะเหมาะกว่า
Q : เติมแก้มแล้วหน้าจะบวมไหม? ดูปลอมไหม?
A : จะบวมเล็กน้อยประมาณ 2 – 3 วัน แล้วจะค่อยๆ หายไปเอง ส่วนความธรรมชาติจะขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์
Q : ผู้ชายแก้มตอบเติมได้ไหม? ต้องทำแบบเดียวกับผู้หญิงหรือเปล่า?
A : สามารถเติมแก้มตอบได้เหมือนกันซึ่งวิธีจะคล้ายกับผู้หญิง แต่อาจไม่เน้นให้แก้มดูละมุนเท่ากับผู้หญิง ยังคงความคมชัดเป็นสันเอาไว
Q : ต้องเติมฟิลเลอร์ซ้ำบ่อยแค่ไหน?
A : ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ว่าอยู่ได้นานแค่ไหน และขึ้นอยู่กับความไวของการสลายฟิลเลอร์ในแต่ละคน ปกติแล้วจะเติมซ้ำเมื่อครบ 6 – 12 เดือน
Q : แก้มตอบปล่อยไว้จะมีผลเสียไหม?
A : ไม่มีผลเสียต่อร่างกาย แต่อาจทำให้ใบหน้าดูโทรม ดูเหนื่อยล้า ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่ามีความกังวลมากแค่ไหน
สรุป
แก้มตอบเป็นปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส ดูเหนื่อยล้า ซึ่งเกิดได้จากหลายๆ ปัจจัย เช่น อายุมากขึ้น หรือไขมันบริเวณแก้มลดลง ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัดอย่าง ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดไขมัน หรือผ่าตัดศัลยกรรมด้วยการเสริมซิลิโคนแก้มตอบ หากใครที่กำลังมีปัญหาแก้มตอบ ต้องการแก้ไข และยังไม่รู้ว่าจะควรแก้ไขวิธีไหนดี สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารประเมินปัญหาของคนไข้ และแนะนำวิธีแก้ไขได้อย่างตรงจุดได้ที่ Vincent Clinic Aesthetic ค่ะ