บทความ
HIFU ช่วยอะไร ควรใช้กี่ช็อตในการยกกระชับ HIFU ราคาเท่าไร
แชร์ :

HIFU ช่วยอะไร ควรใช้กี่ช็อตในการยกกระชับ HIFU ราคาเท่าไร

Hifu ช่วยอะไร ควรใช้กี่ช็อต
อยากอ่านอะไร จิ้มที่หัวข้อได้เลย!

HIFU หนึ่งในเครื่องยกกระชับผิวที่คนให้ความนิยม เพราะสามารถยกกระชับผิวได้ง่าย และทำได้หลายตำแหน่ง แต่ก่อนที่จะเลือกทำ ไฮฟู่ ต้องตัดสินใจให้ดีว่าเหมาะใหม่ โดยในบทความนี้จะมาแนะนำว่า HIFU ช่วยอะไร มีข้อเสียไหม และข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ก่อนทำค่ะ

HIFU คืออะไร

HIFU (ไฮฟู่) คือเครื่องยกกระชับผิวที่สามารถยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด และมีชื่อย่อมาจาก High Intensity Focus Ultrasound โดยเครื่อง Hifu จะใช้พลังงาน Ultrasound ในการส่งคลื่นลงไปในชั้นผิวต่างๆ จากนั้นชั้นผิวที่โดนความร้อนจากพลังงานก็จะค่อยๆ ถูกยกกระชับขึ้น ลดความหย่อนคล้อยได้

พลังงาน Hifu ลงลึกแค่ไหน

HIFU ดีไหม

การยิงพลังงานของ HIFU มีให้เลือกใช้ถึง 3 หัว โดยในแต่ละหัวก็ใช้แตกต่างกันในชั้นผิว ซึ่งไฮฟู่สามารถยิงลงลึกได้ถึง 3 ชั้นผิวดังนี้

  • ผิวชั้นบน (Upper Dermis) เป็นผิวชั้นหนังแท้ส่วนบนมีคอลลาเจน และอีลาสตินอยู่เยอะ จะใช้หัวความลึก 1.5 – 2.0 mm เมื่อยิง HIFU ลงไปในชั้นนี้จะช่วยยกกระชับผิว ลดริ้วรอยตื้นๆ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน
  • ผิวชั้นกลาง (Lower Dermis) เป็นผิวชั้นหนังแท้ส่วนล่าง มีคอลลาเจน และไขมันอยู่ในชั้นนี้ จะใช้หัวความลึก 3 mm เมื่อยิงหลังงานไฮฟู่ชั้นนี้จะยกกระชับผิว ลดไขมันในผิวให้ลดน้อยลง
  • ผิวชั้นเนื้อเยื่อหุ้นกล้ามเนื้อ (SMAS) เป็นชั้นผิวหนังที่มักใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า จะใช้หัวความลึก 4.5 mm จะช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย และกล้ามเนื้อ

เครื่อง HIFU นั้นมีหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นต่างกันออกไปเช่น

  • Ulthera SPT เครื่องยกกระชับที่มีจอสามารถมองเห็นชั้นผิวระหว่างทำได้ และส่งพลังงานลงถึงชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำ ทำให้การยกกระชับผิวมีประสิทธิภาพสูง พร้อมทั้งช่วยลดความเสี่ยงในการทำลึกเกินไปหรือผิดจุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่แม่นยำและปลอดภัย
  • Ultraformer III เครื่องยกกระชับจากประเทศเกาหลีที่มีความแม่นยำสูง สามารถส่งพลังงาน MFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ลงสู่ผิวได้คงที่และสม่ำเสมอ ช่วยยกกระชับ ลดริ้วรอย และฟื้นฟูผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับทั่วหน้าโดยใช้เทคโนโลยี HIFU
  • Ultraformer MPT รุ่นใหม่จาก Ultraformer ที่พัฒนาให้สามารถส่งพลังงานลงสู่ผิวได้ละเอียดขึ้นและมีการปรับพลังงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้กระตุ้นคอลลาเจนได้ลึกขึ้นและเห็นผลชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังลดความรู้สึกเจ็บขณะทำ โดยมีความสามารถในการยกกระชับที่ดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมทั้งช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียบเนียนและกระจ่างใส

เครื่อง HIFU ช่วยอะไร

Hifu จะช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ขาดคอลลาเจน ที่พบได้บ่อยเมื่ออายุมากให้ผิวกระชับขึ้น ซึ่งนอกจากยกกระชับผิวแล้ว เครื่อง HIFU ยังสามารถช่วยเรื่องอื่นๆ ได้ เช่น

  • ลดริ้วรอยบนใบหน้า หรือลำคอให้น้อยลงได้
  • แก้ปัญหาตาตก คิ้วตก ช่วยดึงให้ตายกขึ้น
  • ช่วยสลายไขมันในชั้นผิวได้เล็กน้อย
  • ช่วยยกกระชับผิวในบริเวณร่างกายให้กระชับขึ้น

HIFU เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับ
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องตื้นๆ เล็กน้อย
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับกรอบหน้า ให้กรอบหน้าคมชัด
  • ผู้ที่ต้องการลดแก้ม ลดเหนียง
  • ผู้ต้องการยกกระชับผิว โดยไม่ต้องผ่าตัด

ข้อดี – ข้อเสียของ HIFU 

เครื่อง HIFU มีทั้งข้อดี และข้อเสียดังนี้

ข้อดี HIFU

  • สามารถยกกระชับผิวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
  • ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว
  • ลดริ้วรอย ร่องตื้นได้
  • ช่วยชะลอความหย่อนคล้อยในอนาคตได้
  • ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ

ข้อเสีย HIFU

  • อาจมีอาการบวมแดงหลังทำ
  • ยังไม่เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
  • อาจผิวไหม้ได้ ถ้าไม่ได้ทำกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ

ทำ HIFU บริเวณไหนได้บ้าง

สำหรับ HIFU สามารถนำมายกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้หลายบริเวณดังนี้

  • รอบดวงตา ช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตา และยกกระชับให้ดวงตาไม่หย่อนคล้อย 
  • แก้ม ช่วยยกกระชับแก้มหย่อนคล้อยที่ทำให้มีร่องแก้ม ร่องน้ำมาก หรือมุมปากตก เมื่อยกแก้มขึ้นปัญหาพวกนี้ก็จะลดน้อยลง
  • เหนียง ลดความหย่อนคล้อยของเหนียงได้ ช่วยยกกระชับเหนียง และบริเวณลำคอ
  • ร่างกายบริเวณอื่นๆ แขน ขา หน้าท้อง ก็สามารถใช้ HIFU ในการกระชับสัดส่วน ยกกระชับได้เหมือนกัน 

HIFU ใช้กี่ไลน์

การทำ HIFU จะไม่เรียกเป็นช็อตจะเรียกเป็นไลน์แทน ซึ่งจำนวนที่ต้องใช้ก็จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับบริเวณ และความหย่อนคล้อย โดยมีจำนวนประมาณดังนี้

  • ทำ HIFU รอบดวงตา ประมาณ 100 ไลน์
  • ทำ HIFU แก้ม ประมาณ 100 ไลน์
  • ทำ HIFU เหนียง ประมาณ 100 ไลน์
  • ทำ HIFU แก้ม และเหนียง ประมาณ 300 ไลน์
  • ทำ HIFU ทั่วหน้า ประมาณ 500 – 700 ไลน์
  • ทำ HIFU ต้นแขน ประมาณ 500 – 700 ไลน์
  • ทำ HIFU ต้นขา ประมาณ 1000 ไลน์

แต่จำนวนไลน์ที่บอกไปเป็นเพียงแค่จำนวนประมาณเท่านั้น หากมีความหย่อนคล้อยน้อยอาจจะใช้จำนวนไลน์น้อยกว่านี้ หรือถ้าหย่อนคล้อยมากอาจจะต้องใช้จำนวนไลน์มากกว่านี้ ซึ่งปกติแล้วก่อนที่จะทำ HIFU หมอจะประเมินให้ก่อนว่าควรใช้จำนวนไลน์เท่าไร

ไฮฟู่เจ็บไหม

การทำ HIFU จะรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง เพราะพลังงานจะลงไปสู่ถึงผิวชั้นลึก ผิวชั้น SMAS  โดยมีความร้อน 60 – 70 องศา ความร้อนจะไม่ทำให้ผิวไหม้ แต่จะทำให้รู้สึกตึงๆ หรือเจ็บจี๊ดๆ ระหว่างทำ ก่อนทำ HIFU จึงจะมีการแปะยาชาให้ก่อนทำเพื่อลดความเจ็บระหว่างทำ

HIFU ทําได้บ่อยแค่ไหน

การทำ HIFU ไม่ควรทำบ่อยจนเกินไปอย่างเช่นทำทุกเดือน ควรเว้นอย่างน้อยประมาณ 3 เดือนแล้วค่อยกลับไปทำซ้ำ เพราะเครื่อง Hifu เป็นเครื่องที่ต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผล ไม่ได้เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ ผิวจะค่อยๆ ยกกระชับ ดังนั้นควรรอให้เห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ก่อนจึงค่อยตัดสินใจว่าจะทำซ้ำไหมค่ะ

หลังทำ HIFU กี่วันเห็นผล

หลังจากที่ทำ Hifu จะยังไม่เห็นผลทันที หลังทำทันทีจะเห็นผลลัพธ์เพียงแค่ 20% แต่หลังทำอาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อยซึ่งอาการบวมแดงจะค่อยๆ เองมักมีอาการบวมไม่นาน และผลลัพธ์จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเมื่อครบ 1 – 2 เดือนหลังจากทำ

ผลลัพธ์ HIFU อยู่ได้กี่เดือน

ผลลัพธ์ของ HIFU สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 – 9 เดือน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละคนด้วย แนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก 6 เดือน เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น และคงสภาพผิวที่ดีเอาไว้

วิธีดูแลหลังทำ Hifu

หลังทํา HIFU ห้ามทําอะไรบ้าง

เพื่อให้ผลลัพธ์หลังทำ HIFU ออกมาดี และไม่มีผลข้างเคียง ควรปฏิบัติตามนี้

  • ไม่ควรจับ นวด หรือถูใบหน้าแรง ๆ หลังทำทันทีเพราะอาจทำให้ใบหน้าอักเสบได้
  • ควรเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์สทำให้คอลลาเจนในผิวลดน้อยลงได้
  • ควรทากันแดดทุกวัน และเลี่ยงการโดนแดดจัด เพื่อให้คอลลาเจนในชั้นผิวสร้างได้อย่างเต็มที่

ทำ HIFU ราคาเท่าไร

เครื่อง HIFU จะมีราคาที่เปลี่ยนไปไม่เท่ากัน โดยขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ จำนวนไลน์ที่ใช้ และโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกในตอนนั้นนั้น ซึ่งราคา HIFU ประมาณ 3,000 – 30,000 บาท และก่อนทำควรเลือกให้ดีว่าเป็นเครื่อง HIFU ของแท้เพื่อความปลอดภัย

สรุป

HIFU เป็นเครื่องยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมากระชับได้ โดยคลื่นพลังงานอง HIFU สามารถลงลึกได้ถึงผิวชั้นลึก และชั้นเดียวกับชั้นที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้าจึงช่วยยกกระชับผิวได้ดี และสามารถทำได้หลายบริเวณไม่ว่าจะเป็น ทั่วใบหน้า ลำคอ และร่างกายค่ะ

Scroll to Top